'พล.อ.ชวลิต'เผยตั้งกองกำลังที่3 แก้ปัญหาความยากจน

'พล.อ.ชวลิต'เผยตั้งกองกำลังที่3 แก้ปัญหาความยากจน

"พล.อ.ชวลิต"เผยกำลังตั้งกองกำลังที่ 3 ย้ำชัดมีจุดประสงค์เพื่อแก้ปัญหายากจน และเป็นตัวช่วยดับความขัดแย้ง

ที่บ้านปิ่นประภาคม พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดบ้านแถลงถึงสถานการณ์ทางการเมือง โดยได้แจกหนังสือแก่สื่อมวลชน 3 ชุด ประกอบด้วย 1.การพัฒนาบ้านเมืองของประเทศต่างๆทั่วโลก 2.การวิเคราะห์รัฐธรรมนูญฉบับที่นายบวรศักดิ์ อุวรรณโน เป็นประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ และ3.การสร้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย จากนั้น     

พล.อ.ชวลิต กล่าวยืนยันว่าการแถลงข่าวครั้งนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับ การที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ออกมาพูดถึงสถานการณ์ของประเทศไทยก่อนหน้านี้ เพราะการทำงานการเมืองของตนนั้น ไม่เคยเกี่ยวข้องกับผู้ใด และไม่เคยไปเกาะหรืออาศัยเงินทองใดๆ แต่ที่ต้องบอกเพราะเดี๋ยวจะกลายเป็นสอดรับกัน อย่างไรก็ดีที่ตนออกจากพรรคเพื่อไทย (พท.) มา เพราะสมัยนั้นกับนายเสนาะ เทียนทอง อดีตส.ศ.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้สไกด์พูดคุยกับนายทักษิณ และพบว่านายทักษิณจะนำ "ชินดาวงศ์" (ชินวัตร , ดามาพงศ์ , วงศ์สวัสดิ์) เข้ามา ซึ่งไม่เห็นด้วย จึงลาออกจากพรรค ส่วนเรื่องจะพานายทักษิณกลับประเทศนั้น ไม่สนใจ เพราะเห็นว่ายังมีความขัดแย้งอยู่ และไม่ใช่คนที่จะนำนายทักษิณกลับมาได้      

พล.อ.ชวลิต กล่าวอีกว่า เมื่อเกิดปัญหาความขัดแย้งในสังคมเหมือนว่าจะเข้ามาเกี่ยวข้องตลอดเพราะเป็นหน้าที่ เป็นความรับผิดชอบต่อแผ่นดิน และเคยอยู่ในราชการทหาร แม้วันนี้ไม่ได้เป็น แต่ใจก็ยังเป็นอยู่ คิดตลอดว่าทำอย่างไรจะพาชาติไปสู่สันติสุข ซึ่งการทำงานของ จะมีการกำหนดยุทธศาสตร์ล่วงหน้าทุกครั้ง ซึ่งวันนี้ใช้ยุทธศาสตร์ที่ 3 อยู่ คือกองกำลังส่วนที่ 3 (3rd Force) โดยเป็นการรวมกลุ่มคนไม่ว่าจะสีอะไรก็ตาม ซึ่งขณะนี้มีจำนวนมหาศาล ประกอบด้วย ชาวไทยภูเขา 21 ชนเผ่า กลุ่มไทยใหม่ กลุ่มคนยากจน พี่น้องปักษ์ใต้ที่มีความเข้าใจในแนวทางนี้ กองกำลังที่วางอาวุธ ฯลฯ การมีกองกำลังนี้ ไม่ได้ทำอะไรที่สร้างความเสียหาย หรือเกิดความขัดแย้งแก่ผู้ปกครองประเทศ

ทั้งนี้กองกำลังที่ 3 นี้ จัดตั้งมาแล้ว 3 ปี มีรูปแบบการเคลื่อนไหว คือ การเข้าไปให้ความรู้กับพี่น้องประชาชน แสวงหาทางแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าคือความยากจน หรือหากมีการปะทะกันด้วยกำลัง กองกำลังที่ 3 จะเข้าไปแทรกแซงหรือไกล่เกลี่ยด้วยความคิด ขออย่าไปตีความกันผิด  

พล.อ.ชวลิต กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมาไม่ได้ขึ้นกับใคร ไม่ได้รับเงินใคร และไม่ได้ฟังคำสั่งใคร โดยคนเดิมที่ตนเคารพ คือ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ซึ่งอยากจะไปพบท่านใจจะขาด แต่ก็ไม่กล้า เพราะมีคนบอกว่าท่านไม่อยากพบนักการเมือง ซึ่งวันนี้ก็ไม่ได้เป็นนักการเมือง อย่างไรก็ตาม สิ่งที่อยากขอคือ การยุติความขัดแย้ง ใครมีหน้าที่อะไรก็ไปทำ เปลี่ยนความขัดแย้งเป็นการให้อภัยกัน สร้างประเทศให้เป็นประชาธิปไตย เพราะไม่มีประเทศยากจนไหนในโลกที่เป็นประชาธิปไตย และไม่มีประเทศเผด็จการไหนที่ร่ำรวย  

นอกจากนี้ พล.อ.ชวลิต กล่าวอีกว่า รัฐธรรมนูญมีความสำคัญจริงแต่ไม่ใช่กฎหมายสูงสุด ความปรารถนาของคนคือประชาธิปไตย ซึ่งการสร้างประชาธิปไตยเกิดขึ้นได้ด้วยนโยบาย ประชาชนต้องมีอำนาจ อธิปไตยต้องเป็นของปวงชน และประชาชนต้องมีเสรีภาพ  

เมื่อถามถึงข้อเสนอให้มีส.ว.สรรหาในช่วงเปลี่ยนผ่าน พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า สรรหาได้ แต่ต้องสรรหาจริงๆ ไม่ใช่ไปเชียร์อีกฝ่าย ไม่เช่นนั้นก็จะไม่เป็นธรรม เมื่อถามต่อีกว่า มองข้อเสนอนี้เป็นการสืบทอดอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่าอะไรที่มีปัญหาอยู่ก็ให้นั่งลง เมื่อถามอีกว่า จำเป็นหรือไม่ที่จะต้องมีกลไกพิเศษในร่างรัฐธรรมนูญ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ก็น่าจะจำเป็น ไม่ได้ว่าอะไร อะไรที่ดีก็ทำไปเลย  

ทั้งนี้ผู่สื่อข่าวรายงานว่าตลอดการแถลงข่าวของ พล.อ.ชวลิต ครั้งนี้ได้มีทหารนอกและในเครื่องแบบมาร่วมสังเกตการณ์ด้วย ซึ่งการแถลงข่าวก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย