เวฬุรีย์ ดิษยบุตร หวลคืนวงการด้วยหุ่นเป๊ะเว่อร์

เวฬุรีย์ ดิษยบุตร หวลคืนวงการด้วยหุ่นเป๊ะเว่อร์

เปลี่ยนความรู้สึก‘โคม่า’จากเวทีประกวดสาวงามให้เป็น‘พลัง’สร้างชีวิตใหม่และตัวตนใหม่ พร้อมอวดหุ่นสวยเป๊ะเว่อร์จากการออกกำลังกาย

ก้าวลงจากเวทีนางงามมาพักใจ ‘ฝ้าย’ เวฬุรีย์ ดิษยบุตร อดีตมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2014 กับตำนานการส่งคืนมงกุฎ หวนคืนเส้นทางบุคคลสาธารณะอีกครั้งกับบทบาทนักแสดง พร้อมกิจกรรมยามว่างที่เปลี่ยนชีวิต เปลี่ยนรูปร่าง เห็นได้ชัดเจนว่า ณ วันนี้ เธอเต็มเปี่ยมด้วยความสวย แซ่บและเซ็กซี่ ทั้งหมดนี้เพื่อเตรียมพร้อมที่จะเจิดจรัสในโลกมายา

๐ 1 ปีที่แล้วเป็นอย่างไรบ้าง?
      ตอนที่ได้ตำแหน่งมิสยูนิเวร์ส 2014 ดีใจเป็นที่สุด ความรู้สึกตอนนั้นไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไรต่อหรือต้องมองที่ใคร ฝ้ายถูกรุมล้อมจากหลายๆ คนที่เข้ามาแสดงความยินดี ตอนนั้นเบลอไปหมดจนมารู้สึกตัวตอนที่สื่อสัมภาษณ์ แต่พอกลับมาถึงบ้านก็ทราบถึงข่าวกระแสลบ ฝ้ายไม่เคยประกวดก็ไม่รู้ว่าจะมีอะไรแบบนี้ เราเป็นเด็กธรรมดาที่ไม่คิดว่าจะมาถึงจุดนี้ ไม่ได้มีความลับให้ปิด ไม่เคยคิดว่าสิ่งที่ทำในอดีตจะย้อนกลับมาทำร้ายในวันหนึ่ง
       สิ่งที่ทำให้เครียดคือ สิ่งที่เคยคุยกับคนที่เราเชื่อใจ แต่เขากลับเอาไปพูดกับคนอื่นต่อ หักหลังเรา รู้สึกเฟลมาก เพราะเวลาให้ใจใครไปแล้ว หนูเต็มร้อย ไม่คิดว่าเขาจะทำกับเราอย่างนี้ บทเรียนครั้งนี้ทำให้เราโตขึ้น ทำให้รู้ว่าโลกมันโหดร้ายจริงๆ นะ
      เหตุการณ์มาพีคอีกครั้งคือ เราไม่สามารถออกไปข้างนอกได้ถ้าไม่ใส่ผ้าปิดปาก มันแย่มาก แต่ก็เคยลองไม่ใส่ก็จะมีเพจแอนตี้มาโพสต์ว่า หนูนั่งร้านนี้ โต๊ะนี้ ใส่เสื้อสีนี้ ทำผมแบบนี้ ใครก็ได้ช่วยมาทำอะไรซักหน่อย แล้วก็มีคอมเมนท์ว่า เดี๋ยวจะไปทักแล้วถ่ายรูปมาให้ดู แกล้งทำเป็นแฟนคลับ ซึ่งวันนั่นก็มีคนมาขอถ่ายรูป พูดดีกับเรามาก หนูก็คิดว่าเขามาให้กำลังใจ แต่จริงๆ แล้วกลับเอาเราไปด่า แกล้งถ่ายรูปมุมกดให้เราดูแย่ ทำให้ไม่อยากออกไปข้างนอก
      และที่พีคที่สุดคือ ช่วงที่ข่าวเริ่มเงียบเพราะมีข่าวการเมืองมากลบ เพจแอนตี้กลัวว่าฝ้ายจะได้ไปประกวดต่างประเทศ ก็มาโพสต์ว่า ทำยังไงให้หนูไม่ได้ไป ก็มีคอมเมนท์ว่า ทำให้เกิดอุบัติเหตุไหม ให้แข้งขาหักพอให้ไม่ได้ประกวด ตอนนั้นเราคิดว่า ไม่ใช่แล้วนะ ทำไมต้องทำถึงขนาดนั้น การที่มีมงกุฎ มีรถ มีเงิน แต่ไม่มีความสุข ออกนอกบ้านไม่ได้ ต้องมานั่งระแวง กลัวถูกทำร้าย สาดน้ำกรด กลัวถึงขั้นระแวงพัสดุไปรษณีย์ที่ส่งมา ถือว่าชีวิตไม่มีความสุขอย่างมากจนต้องตัดสินใจคืนมงกุฎให้กับกองประกวด
        หลังจากแถลงข่าวคืนมงกุฎแล้ว ทุกอย่างคือ จบ กระแสดีขึ้นจนทำให้งงว่า พอสละปุ๊บ ทุกคนหันมาชมว่าเราสวย ทั้งที่ก่อนหน้านี้ด่าเราจะเป็นจะตาย และสิ่งที่แฟร์มากคือ เพจแอนตี้ก็ปิดไปเลยซึ่งเป็นไปตามที่ทางเพจเคยบอกไว้ว่าจะหยุดทุกอย่างจบทุกเรื่องถ้าเราสละตำแหน่ง

๐ กำลังใจได้มาจากไหน?
หากเราเศร้า ร้องไห้ คนที่เสียใจกว่าคือ คุณพ่อคุณแม่ ดังนั้น เราต้องเข้มแข็งเพื่อให้เห็นว่าไม่ได้เป็นอย่างที่ถูกกล่าวหา เราพร้อมที่จะเดินหน้าต่อสู้กับปัญหา ไม่ใช่วิ่งหนีค่ะ
แน่นอนว่า คนที่รู้จักตัวตนของฝ้าย เพื่อนที่เรียนด้วยกันมาจะรู้ว่าเราเป็นอย่างไร แต่ด้วยข่าวที่ออกไปทำให้ภาพออกมาเป็นผู้หญิงแรงมาก ร้ายมาก พูดจาหยาบคาย แต่ฝ้ายไม่ใช่คนแบบนั้น ฝ้ายเป็นเด็กธรรมดาที่มีความรู้สึกชั่ววูบ ตัดสินใจโพสต์นู่นนี่ลงไป ฝ้ายเชื่อว่า หลายคนก็เป็นแต่พอดีเราอยู่ในจุดที่เป็นคนสาธารณะ อยุ่ในจุดที่หลายคนอยากอยู่ ทำให้โดนโจมตี
ฝ้ายใช้เวลาไม่นาน ช็อคแค่ 2-3 วันแล้วมาเริ่มคิดว่า เราไม่ได้เป็นอย่างที่เขาพูด จะมานั่งหงอยทำไม จะกลัวทำไม ในเมื่อคนที่อยู่ใกล้เรารู้ว่าเราเป็นคนอย่างไร แค่นี้ก็โอเคแล้ว ทำไมต้องแคร์คนอื่น คนอื่นที่ไม่ได้รักเรา 100% ขณะที่คนที่ฝ้ายแคร์ที่สุดคือ คุณแม่ซึ่งท่านก็นอนไม่หลับ ผอมลงอย่างเห็นได้ชัดจนทำให้ลูกเครียด

๐ แต่ช่วงที่ประกวดนั้นน้ำหนักก็เพิ่มจริง?
ช่วงแรกที่ชั่งน้ำหนักวัดส่วนสูงในการประกวดก็ 56 กิโลกรัม สูง 172 เซนติเมตร ถือว่าโอเคมาก แต่น่าจะมาพีคช่วงเก็บตัวที่จังหวัดร้อยเอ็ด อาหารดีมาก อร่อยมาก ไม่เชื่อถามคนอื่นได้ แล้วด้วยความที่เรามีความสุขกับการกิน ยิ่งเหนื่อยยิ่งกิน เพื่อนชวนก็ยิ่งกิน ไม่ได้คิดอะไร ไม่คิดว่าน้ำหนักขึ้นเยอะมาก เพราะเห็นตัวเองอยู่ทุกวัน แต่ก็ทำเต็มที่เท่าที่ทำได้ พอถึงวันนั้น ด้วยภาพ ด้วยมุมกล้องที่ออกมาจึงดูแย่มาก
ฝ้ายไม่เคยประกวดเวทีใหญ่ ไม่รู้ว่าจะมีรอบให้กรรมการเห็นหน้าสด มีรอบสื่อมวลชน จากที่เคยเฝ้าชมผ่านหน้าจออย่างเดียวก็คิดว่า การประกวดกันจริงๆ คือวันที่ออกทีวี แต่มารู้เอาวันสุดท้ายของการเก็บตัวว่า จะต้องมีรอบที่ให้กรรมการดูหน้าสด ใส่บิกินี่ หนูช็อคมาก คิดว่า ไม่ทันแล้ว ได้แต่ซิทอัพอยู่ในห้อง

๐ ความฝันกับความเป็นจริง?
จริงๆ ฝันไม่เปลี่ยนนะ ตอนที่ได้มงกุฎหนูมีความสุขมาก รู้สึกดีที่มีมงกุฎอยู่บนหัวเรา ความเหน็ดเหนื่อยจากการเก็บตัว ฝึกเดิน ฝึกซ้อมต่างๆ หายไปเลย เป็นครั้งหนึ่งในชีวิตกับการยืนในจุดที่ทุกคนอยากมาอยู่ เป็นความฝันที่เป็นจริง ถ้าให้คิดใหม่ ว่ายังอยากเป็นนางงามอยู่ไหมก็ยังอยากเป็น แต่เรามามองว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความผิดพลาดจากสิ่งที่ทำในอดีต
ตอนนี้ ความเป็นจริงที่ต้องทำคือ เปลี่ยนแปลงตัวเองและเริ่มออกกำลังกาย จากคนที่ขี้เกียจมาก ไม่ชอบออกกำลังกายเลย ก็เข้าฟิตเนส ทำความเข้าใจเรื่องการออกกำลังกาย การสร้างกล้ามเนื้อ มีเทรนเนอร์มาดูแล ทำให้เข้าใจหลักการออกกำลังกายมากขึ้น จนรู้สึกว่า สิ่งแรกที่เปลี่ยนคือ เราแข็งแรงขึ้น เหนื่อยช้าลง หัวใจก็แข็งแรงขึ้น

๐ ออกกำลังกายอย่างไร?
ฝ้ายศึกษาด้วยตัวเองก่อนจากอินเทอร์เน็ตที่ตอนนี้มีข้อมูลเยอะมาก เพราะกระแสสุขภาพกำลังมาโดยเฉพาะผู้หญิงมีซิกส์แพค แต่ถ้าต้องทำคนเดียว ไม่อยากทำ ต้องมีคนคอยกระตุ้น จึงต้องมีเทรนเนอร์ช่วยดูแล ตอนนี้สนุกกับการออกกำลังกาย ตอนที่ยังไม่ได้ถ่ายละคร ถ้าว่างก็จะเข้าฟิตเนสใกล้บ้านตลอด แต่พอต้องถ่ายละครก็จะพยายามหาเวลาว่างสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง เพราะถ้าไม่ได้ออกกำลังกายนานๆ จะรู้สึกอึดอัด อีกอย่างคือฝ้ายเป็นคนกินจุ (หัวเราะ)
ฝ้ายชอบเล่นเครื่องต่างๆ เพื่อทำเวทเทรนนิ่ง คาร์ดิโอ บางทีถ้าไม่อยากเหนื่อยมากก็เล่นโยคะฟลาย แต่ที่ชอบคือ ต่อยมวย ที่เบิร์นได้ดีมาก แล้วก็มีเต้นซุมบ้าที่ช่วยเบิร์นกับสนุก ผลจากการหันมาออกกำลังกายที่ได้ชัดมาก คือ ผอมลงและเฟิร์มขึ้น จากที่ไม่เคยมีไลน์กล้ามเนื้อก็เริ่มเห็นไลน์กล้ามท้อง ขาเริ่มมีกล้ามเนื้อขึ้นมา บางคนอาจไม่ชอบให้มีกล้ามขา แต่หนูชอบ ดูแล้วเซ็กซี่
นอกจากร่างกายเฟิร์มขึ้นแล้ว ชีวิตก็เปลี่ยนมากด้วยจากการที่มีคำชมมามาก ทำให้เกิดความรู้สึกดีว่า เราสามารถเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้อื่น อีกสิ่งที่แฮปปี้คือ สามารถกลับมาใส่เสื้อผ้าตัวเล็กๆ ได้อีกครั้ง

๐ นิยามผู้หญิงหุ่นดีเป็นอย่างไร?
ผู้หญิงหุ่นดีในมุมฝ้ายคือ หุ่นดีมีกล้ามเนื้อ เหมือนพี่ปู-ไปรยา สวนดอกไม้ ที่เป็นแรงบันดาลใจของผู้หญิงส่วนมาก แต่ทำได้ยากเพราะจะเฟิร์มแบบมีกล้ามเนื้อได้ ไม่ใช่แค่ออกกำลังกาย แต่ต้องคุมอาหารซึ่งทำได้ยากในวงการนี้ เพราะมีสิ่งยั่วยุเยอะ ทั้งกาแฟ ขนม หรืออาหารบุฟเฟ่ห์ แต่ตอนนี้ฝ้ายเลิกบุฟเฟ่ต์ได้แล้วนะ (หัวเราะ)
ช่วงนี้คุมแป้งเพื่อให้การออกกำลังหายเห็นผลชัดขึ้น แต่ไม่ได้งด เพราะถ้างด เวลากลับมากินจะโยโย่ชัดเจน เช่น มื้อเช้ากินแป้งนิดหน่อย หรือ 2 วันกินครั้งหนึ่ง เพื่อให้ร่างกายรู้จักแป้ง หรือกินผักที่เป็นพวกคาร์โบไฮเดรตเหมือนแป้งแทนส่วนอาหารเสริมจะกินเฉพาะช่วงที่เพลียมากๆ ทำงานหนัก ก็จะกินวิตามินเสริม ตอนนี้น้ำหนัก 54 กิโลกรัม อยากลงอีก 2-3 กิโลกรัมหรือไม่ต้องลดลง แต่ร่างกายกระชับกว่านี้ เพราะเราเคยอ้วนมาก่อน ถ้าผอมลงตัวจะย้อยนิ่มๆ

๐ ผลงานการเป็นนักแสดง?
ช่วงนี้ถ่ายละคร 2 เรื่องทางช่อง 8 คือ มงกุฎริษยากับเชลยศึก ก็ยังพอมีเวลาให้ตัวเองบ้างเพราะใช้เวลาแค่วันพฤหัสบดีถึงวันอาทิตย์ ทำให้ไม่เหนื่อยมากแล้วก็มีเวลาได้อยู่กับตัวเอง ได้ดูหนัง ฟังเพลง ระหว่างวิ่ง หรือปั่นจักรยาน ทำให้ได้ผ่อนคลาย สารเอนโดรฟินได้หลั่ง ละครมงกุฎริษยารับบทเป็น ฟ้า ซึ่งเป็น 1 ใน 3 คนที่เป็นเพื่อนสนิทกัน แล้วต้องมาแก่งแย่งชิงดี ริษยากันบนเวทีนางงาม โดยบทของฟ้าช่วงแรกเป็นผู้หญิงอ่อนแอ อยู่ในกรอบ แต่วันหนึ่งเจอเหตุการณ์ที่ทำให้ต้องเปลี่ยนไป ทำให้เกิดเรื่องราวขึ้นมา

๐ บทของฟ้ากับชีวิตฝ้ายเหมือนกันไหม?
ตัวหนูเรียบร้อยนะ (หัวเราะ) ตัวละครทุกตัวในเรื่องเป็นสีเทา ไม่มีดำหรือขาว ทุกตัวละครมีด้านมืดของตัวเองอยู่แล้ว เหมือนในโลกความเป็นจริงที่ทุกคนมีด้านมืด หลายๆ คนก็ต้องมีแบบนี้เหมือนกัน ฝ้ายก็มีเหมือนกัน

๐ คาดหวังกับอาชีพนักแสดงไว้อย่างไร?
ฝ้ายเข้าวงการมา 4-5 ปีก่อนแล้วนะ ทำพิธีกร แต่ละครเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก รู้สึกมีความสุขกับการแสดง อยากจะพัฒนาฝีมือให้ดีขึ้น ไม่ได้อยากดังเป็นพลุ แต่อยากอยู่วงการนี้ไปนานๆ ดังนั้น จึงต้องอ่อนน้อมถ่อมตน เพราะเคยทำงานกับพี่ตุ๊ก-จันจิรา จูแจ้ง ที่สอนว่า วงการนี้เข้าง่าย อยู่ยาก ต้องอ่อนน้อมถ่อมตน มีวินัย ทำการบ้าน ฝ้ายก็เอามาเป็นหลักในการทำงานของตัวเอง