สูตรเด็ด “อาฟเตอร์ยู” ทำเรื่องเล็ก ให้เป็นความสำเร็จยิ่งใหญ่

สูตรเด็ด “อาฟเตอร์ยู” ทำเรื่องเล็ก ให้เป็นความสำเร็จยิ่งใหญ่

รับศักราชใหม่ 2559 กับการเข้าสู่ปีที่ 9 ของร้านชื่อดัง“อาฟเตอร์ยู”คาเฟ่ขนมหวานเจ้าแรกในไทยกับความสำเร็จที่เริ่มจากการทำสิ่งเล็กๆ ให้ดีที่สุด

“ผมไม่รู้เลยว่า สิ่งที่น้องผมจะขายคืออะไร ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ทำไมต้องแพงขนาดนี้ และตอบไม่ได้ด้วยว่า แล้วทำไมคนถึงยอมจ่ายเพื่อที่จะกินของแบบนี้”

นี่คือความคิดในช่วงแรกที่เกิดกับ “แม่ทัพ ต.สุวรรณ” กรรมการบริษัท บริษัท อาฟเตอร์ยู จำกัด หลังลูกพี่ลูกน้องที่คลั่งไคล้การ “ทำ”และ “ทาน” ขนมเป็นชีวิต อย่าง “เมย์-กุลพัชร์ กนกวัฒนาวรรณ” ชักชวนให้มาเปิดร้านขนมหวาน “After You” เมื่อ 9 ปีก่อน (ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2550) โดยเป็นคาเฟ่ขนมหวาน (Dessert Café) เจ้าแรกในตลาด ที่เน้นเจาะกลุ่ม Premium Mass ผู้บริโภคระดับกลาง ที่ต้องการบริโภคของดูดี ในราคาจับต้องได้ มีรสนิยมในการจับจ่ายใช้สอย 

ความสงสัยที่ยังหาคำตอบไม่ได้ ยิ่งทวีมากขึ้น เมื่อได้เห็นการตอบรับ “เกินคาด” ของมหาชนคนรักอาฟเตอร์ยู

“ผ่านไป 1 ปี ผมก็ยังไม่เชื่อว่า สิ่งที่เราเจออยู่คืออะไร ทำไมร้านเปิด 11 โมง แต่ 10 โมงก็มีคิวแล้ว ไม่แน่ใจ ไปเปิดสาขา ที่ 2 ซึ่งก็ยังเป็นเหมือนเดิม จนสาขาที่ 3 เราตัดสินใจไปลองตลาดที่ใหญ่ขึ้น โดยมาเปิดที่เซ็นทรัลเวิลด์ ครั้งนั้นเป็นครั้งที่สร้างความมั่นใจให้กับเราว่า สิ่งที่เกิดขึ้นคือความจริง มันไม่ใช่กระแส แต่มีคนรู้จักเราจริงๆ” แม่ทัพบอก

การ “รู้จัก หลงใหล หรือคลั่งไคล้” แล้วแต่ใครจะนิยาม แต่ปรากฏการณ์นั้นไม่ได้เกิดขึ้นแล้วเงียบหายไป หากทว่ายังอยู่กับพวกเขามาจนถึงทุกวันนี้ จากสาขาแรกที่ J Avenue ทองหล่อ จนปัจจุบันมีอยู่ 15 สาขา และมีแผนที่จะขยายไปได้ถึง 20 สาขาในกรุงเทพฯ เพื่อบริการแฟนคลับอาฟเตอร์ยูที่เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนความสำเร็จที่ไม่ธรรมดาของสองพี่น้อง

ทำไมอาฟเตอร์ยูถึง “แตกต่าง” ทั้งที่ประเทศไทยก็มีร้านขนมหวานอยู่เต็มไปหมด ทั้งสัญชาติไทย สัญชาตินอก ราคาถูก ไปจนสูงลิบลิ่ว ที่สำคัญจะเจ้าไหนก็อ้างว่า ของตัวเองดี อร่อย มีคุณภาพกันทั้งนั้น

ส่วนผสมแรก ที่ไขความสำเร็จสู่อาฟเตอร์ยู คือความลงตัวของผู้ก่อตั้งที่มาจาก สองมุม สองความต่าง ทั้ง “กุลพัชร์” ผู้ชอบทำขนม มีพรสวรรค์ และมีประสบการณ์ลิ้มรสขนมอร่อยมาแล้วทั่วโลก เธอจึงมีไอเดียหลากหลายในการสร้างสรรค์ขนมให้ถูกปากคนไทย ส่วน “แม่ทัพ” ที่ไม่รู้เรื่องขนมเอาเลย แต่เขาก็เชี่ยวชาญเรื่องการบริหาร เลยได้เป็นแม่ทัพองค์กร คอยดูแลทั้งด้านบริหารธุรกิจ พัฒนาคน บัญชี การเงิน บริหารสต็อก รวมไปถึง การตรวจสอบคุณภาพ แบ่งหน้าที่กันชัด และไม่ก้าวก่ายการทำงานของกันและกัน

“เราแบ่งหน้าที่กันชัดเจน ส่วนงานที่น้องทำ ผมยกให้เขา ไม่ก้าวก่าย ไม่ตีกรอบ และไม่ไปถามอะไรเยอะ เพราะว่าเป็นสิ่งที่ผมไม่รู้ ไม่ได้ชำนาญ ต้องให้เครดิตเขา ส่วนผมก็ปรับความคิด ปรับจูนวิธีการทำงานทุกอย่าง เพื่อให้ธุรกิจเติบโตและขยายต่อไปได้” แม่ทัพบอก

บางคนบอกว่า อาฟเตอร์ยู ซัคเซส เพราะ “เริ่มก่อน” ทำคนแรก ในยุคที่ยังไม่มีใครทำขนมอารมณ์นี้ พอเปิดมาแล้วเกิดโดนใจตลาด ธุรกิจเลยบูมขึ้นมา แต่ทว่าการจะอยู่ใน “ระยะยาว” ได้นั้น คงไม่ใช่แค่มีเครดิตห้อยท้ายว่า “เจ้าแรก”

“ที่ธุรกิจอยู่มาได้ทุกวันนี้ น่าจะเป็นเรื่องของการจัดการ ที่เราดูแลมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงวิธีทำตลาดของเรา”

แล้วการตลาดอาฟเตอร์ยูเป็นแบบไหน ทั้งสองให้คำตอบแค่ว่า “การตลาด คือ ไม่ทำตลาด”

“การตลาดแบบอาฟเตอร์ยู คือ ไม่ทำเลย เพราะไม่ชอบให้คนมาชอบเราแบบฉาบฉวย ถ้าเขาจะรักเรา อยากให้เขารักที่โพรดักส์ดี บริการดี บรรยากาศดี ฯลฯ ไม่ใช่มาเพราะ ราคาถูก หรือเห็นสื่อแล้วหลอนจนต้องมา อาจมีแค่จุดแรกเท่านั้นที่เราอยากให้ลูกค้าได้มาลอง เพราะถ้าเขาชอบแล้ว เขาจะไปบอกต่อเอง” พวกเขาบอกความเชื่อ

ส่วนผสมสำคัญ อยู่ในฝั่งของแม่ทัพ นั่นคือ “ระบบการบริหารจัดการที่ดี” เมื่อวันที่ต้องทำร้านมากกว่า 1 สาขา มีพนักงานถึง 500 คน เขาว่า “ต้องมีระบบที่ดี” เพื่อรักษามาตรฐานของสินค้าไว้ให้ได้

“ทำอย่างไรให้เมื่อเมย์ทำจบออกมาแล้ว ผมรับต่อ จนไปถึงปากลูกค้ามันยังเหมือนเดิมมากที่สุด ไม่ว่าจะวันไหน เวลาไหน ขายมาก ขายน้อย ซึ่งรายละเอียดมีตั้งแต่ การควบคุมวัตถุดิบ การจัดเก็บที่ดี การขนส่ง เตรียมการ สุดท้าย การเทรนคนที่ดี เพราะส่วนใหญ่ถ้าพลาดก็ตรงคนนี่แหล่ะ เราถึงต้องมีห้องเรียน มีเทรนเนอร์ มีระบบการสอนคน”

จากนั้นก็คอยติดตามและตรวจสอบให้เป็นไปตามแผน มีการให้คะแนน ติดตาม และตักเตือนพนักงาน ซึ่งเมื่อองค์กรใหญ่ขึ้น จำนวนพนักงานมากขึ้น ระบบก็ต้องยิ่งละเอียดยิบมากขึ้นไปด้วย

จากโพรดักส์ที่ต้อง “เป๊ะ” มาสู่ “บริการที่ดี” ซึ่งสิ่งสำคัญคือการดูแลคนให้ดี เพื่อที่จะได้ให้บริการที่มาจากใจ โดยต้องทำบรรยากาศการทำงานให้ดี ที่ทำงานดี หัวหน้าดี เงินดี สวัสดิการดี คุณภาพชีวิตดี เหล่านี้เป็นจุดเริ่มต้นของพนักงานผู้ให้บริการที่ดีทั้งสิ้น

โจทย์ต่อมาคือ การสร้างบรรยากาศการบริโภคให้ประทับใจ และคนรับรู้ได้ ทั้ง รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส แม่ทัพยกให้ “ความสะอาด” เป็นสิ่งสำคัญ ส่วนน้องสาวนั้น ตอบสั้นๆ แค่ “ความอร่อย”

“ผมเชื่อว่าอาฟเตอร์ยู คนที่ปลื้มกับอาหารของเมย์ก็มีเยอะ แต่คนที่ชอบมัน โดยที่ไม่รู้ชอบเพราะอะไรก็เยอะเช่นกัน มานั่งกินแล้วชอบ จากที่คิดว่าแพง แต่เขารู้สึกไม่แพงเลย เพราะมีรายละเอียดอยู่ในนั้น จากทั้งหมดที่ผมได้พูดไปแล้ว”

ปิดท้ายกับการทำสิ่งเล็กๆ ให้เป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ แม่ทัพบอกว่า ทุกงานใหญ่ ล้วนเกิดจากรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ร้อยเรียงเข้าด้วยกัน ฉะนั้นจะเกิดงานใหญ่ได้ ต้องเริ่มจากทำทุกสิ่งเล็กให้ดีที่สุด ถึงจะได้ผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ ยั่งยืน มั่นคง และมีที่มาที่ไป

“ผมใช้หลักการนี้มาตลอด อย่างบริษัทผมเวลาประชุมกัน บางทีเป็นการประชุมที่ตลกมาก เช่น ประชุมเรื่อง กระดาษเช็ดปาก ว่าควรวางตรงไหนดี ให้กี่แผ่น แจกใครบ้าง พูดยังไงตอนให้ลูกค้า ซึ่งรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ พวกนี้ เราใส่ใจมาก”

จากเรื่องเล็ก หลอมรวมให้อาฟเตอร์ยู กลายเป็นแบรนด์ที่มีเสน่ห์ และมีคนรัก จนวันนี้พวกเขาพิสูจน์ความสำเร็จด้วยการคว้ารางวัล Bai Po Business Awards by Sasin ครั้งที่ 11 ในมิติการบริหารจัดการด้านสินค้าและบริการที่สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า การบริหารจัดการด้านการปฏิบัติการ และการสร้างธุรกิจด้วยพลังแห่งการเป็นผู้ประกอบการ ขึ้นแท่นเอสเอ็มอีพันธุ์แกร่งได้อย่างเต็มภาคภูมิ

ในฐานะตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่ปลุกปั้นธุรกิจจนสำเร็จ พวกเขาบอกว่า ใครคิดจะทำธุรกิจขนม ต้องลองถามตัวเองดูก่อนว่า ชอบทำขนม หรือชอบขายของ เพราะสิ่งสำคัญกว่าการชอบทำนั้นคือต้องชอบขายด้วย เพราะถ้าไม่มีหัวการค้าเลย การทำธุรกิจให้สำเร็จนั้นยากมาก หากใครไม่มีมิตินี้ ก็ต้องไปหาพาร์ทเนอร์ที่มีมาเติมเต็ม ถ้าพร้อมแล้วก็ขอให้ทำทันที อย่าคิดเยอะ จงลงมือทำ และปรับไปเรื่อยๆ เพราะคงไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบตั้งแต่วันแรก

ขณะการคิดไอเดียอะไรออกมา ขอให้คิดเหมือนเด็ก คือคิดโดยไม่มีกรอบ แต่เวลาทำ ให้ทำเหมือนผู้ใหญ่ ต้องคิดให้รอบคอบ มีแผน และลงมือทำจริงจัง ที่สำคัญต้องใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เพื่อไปสู่ความสำเร็จเหมือนอย่างพวกเขา

จากคำถามที่เคยค้างคาใจ “เป็นไปได้อย่างไร?” ในวันนี้ทุกคนคงได้คำตอบนั้นแล้ว

...................................................

Key to success
สูตรเด็ดธุรกิจ “อาฟเตอร์ยู”

๐ ผสมผสานคนเก่งทำขนมและบริหารธุรกิจ
๐ เริ่มก่อน ทำตลาดที่คนอื่นยังไม่ทำ
๐ การตลาดคือไม่ทำตลาด อาศัย ปากต่อปาก
๐ มีระบบที่ดี โพรดักส์เยี่ยม บริการยอด
๐ รักษาความต่อเนื่องของธุรกิจ
๐ ลงรายละเอียด ใส่ใจในเรื่องเล็ก เพื่อสร้างสิ่งใหญ่
๐ คิดเหมือนเด็กทำเหมือนผู้ใหญ่
๐ ทำธุรกิจไม่ต้องคิดเยอะ แค่ลงมือทำ