คสช.แจง4ข้อ เชิญกลุ่มคนปรับทัศนคติ

คสช.แจง4ข้อ เชิญกลุ่มคนปรับทัศนคติ

คสช.แจง 4 ข้อ เชิญกลุ่มคนปรับทัศนคติ ยันไม่ได้เลือกอาชีพ-สาขา วอนแยกแยะ มั่นใจไม่ได้ใช้อำนาจเกินขอบเขต ระบุยังไม่แจ้งข้อกล่าวหาใคร

ทำเนียบรัฐบาล พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)พร้อมด้วย พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษก คสช. ร่วมกันแถลงถึง การเชิญตัวบุคคลมาปรับทัศนคติ ยืนยันว่า การเชิญตัวดังกล่าวเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูล เพื่อทำความเข้าใจ โดยเฉพาะการให้ข้อมูลที่พาดพิงบุคคลและองค์กร ซึ่งมีผลต่อความขัดแย้ง ทำให้ความเชื่อมั่นขององค์กรลดลง โดยการเสนอข้อมูลต่างๆยังไม่มีข้อพิสูจน์และความชัดเจน ทำให้เกิดความสับสน จนนำไปสู่ความขัดแย้ง สร้างความไม่สงบเรียบร้อย ทั้งนี้ การเชิญกลุ่มคนมาปรับทัศนคติ จะใช้เวลาไม่เกิน 7 วัน โดยเจ้าหน้าที่ยังเน้นการใช้วิธีแลกเปลี่ยนความคิดทำความเข้าใจเป็นหลัก จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ใด ตลอดจน นายพิชัย นริพทะพันธุ์ สมาชิกพรรคเพื่อไทย โดยทุกอย่างขึ้นอยู่กับการให้ความร่วมมือ ขณะนี้อยู่ในระหว่างดำเนินการ

ด้าน พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าวว่า หลักเกณฑ์ในการพิจารณาเชิญตัวกลุ่มคนมาปรับทัศนคติของ คสช.นั้น ดูที่ 1.พฤติกรรม 2.ทำผิดข้อตกลงที่ได้ให้ไว้ 3.ให้ข้อมูลคลาดเคลื่อน 4.สร้างความเสียหายต่อองค์กร ทั้งนี้การพิจารณาไม่ได้มุ่งเน้นว่า บุคคลนั้นจะทำอาชีพใด สาขาใด จึงอยากให้แยกแยะ เพราะ คสช.ดำเนินการกับคนทุกกลุ่มทุกฝ่ายบนบรรทัดฐานที่เท่าเทียมกัน ส่วนข้อคิดเห็นหรือข้อเสนอขององค์กรทั้งในและต่างประเทศ ในเรื่องสิทธิมนุษยชนนั้น ขอเรียนว่า ประกาศและคำสั่งของ คสช.ถือเป็นกฎหมาย ใครไม่ปฏิบัติตาม เจ้าหน้าที่ต้องเข้าไปดำเนินการ เป็นหลักการเดียวกันที่ทุกประเทศยึดถือ ยืนยันว่าการเนินการของ คสช.ไม่ได้ใช้อำนาจหรือสิทธิเกินขอบเขต ทุกอย่างอยู่บนฐานกฎหมาย