ธนาคารพัฒนาเอเชียเล็งหั่นจีดีพีไทยต่ำกว่า2.9%

ธนาคารพัฒนาเอเชียเล็งหั่นจีดีพีไทยต่ำกว่า2.9%

ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย เตรียมปรับลดจีดีพีไทยปีนี้ต่ำกว่า 2.9% ส่วนส่งออกคาดต่ำกว่า 0% หลังเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวช้า-ไม่ห่วงเกิดสงครามค่าเงิน

นางลัษมณ อรรถาพิช เศรษฐกรอาวุโส ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย สำนักงานผู้แทนประจำประเทศไทย หรือ ADB กล่าวว่า ในวันที่ 22 กันยายนนี้ เอดีบีจะปรับประมาณการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือ จีดีพี ในประเทศลงต่ำกว่าที่ประมาณการครั้งก่อนที่ 2.9-3% ขณะที่การส่งออกจะต่ำกว่าประมาณการครั้งก่อนที่ 0% เนื่องจากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวช้า ประกอบกับการใช้จ่ายในประเทศยังชะลอตัว

อย่างไรก็ตาม แม้รัฐบาลจะออกมาตรการ เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายสำหรับผู้ที่มีรายได้น้อย และการช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ เอสเอ็มอี ซึ่งเชื่อว่าจะส่งผลดีต่อภาพรสมเศรษฐกิจอย่างแน่นอน แต่จะเห็นผลที่ชัดเจนที่สุดในปีหน้ามากกว่าปีนี้ เนื่องจากต้องอาศัยระยะเวลาในการส่งผ่านของเม็ดเงินที่จะเข้าสู่ระบบ

"มาตรการของภาครัฐช่วยฟื้นเศรษฐกิจแน่นอน โดยมองว่ามาตรการผู้ที่มีรายได้น้อยนั้น เม็ดเงินจะเข้าสู่ระบบได้ปลายปี และเอสเอ็มอีเงินคงเข้าสู่ระบบในปีหน้า ดังนั้นผลต่อจีดีพีคงชัดเจนปีหน้ามากกว่าปีนี้"นางลัษมณ กล่าว

สำหรับการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด ในวันที่ 16-17 กันยายนนี้จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่นั้น คงไม่สามารถตอบได้ แต่เชื่อว่า หากเฟดตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลให้เกิดเงินทุนไหลออกในตลาดเกิดใหม่ รวมถึงไทยด้วยแน่นอน ดังนั้นนักลงทุนจะต้องเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับความผันผวนที่จะเกิดขึ้นทั้งในตลาดทุนและตลาดเงินในช่วงสั้น

"ความผันผวนหลังเฟดขึ้นดอกเบี้ยต้องเกิดขึ้นแน่นอน เพราะจะมีเงินไหลออก แต่คงเป็นระยะสั้นเท่านั้น เนื่องจากมีการคาดการณ์อยู่แล้วว่าเฟดจะต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้"นางลัษมณ กล่าว

ส่วนกรณีที่ค่าเงินบาท รวมถึงค่าเงินในภูมิภาคอ่อนค่าลงนั้น จะส่งผลให้เกิดสงครามค่าเงินหรือไม่นั้น โดยส่วนตัวเห็นว่า คงไม่มีใครอยากให้เกิดสงครามค่าเงิน แต่แนวโน้มค่าเงินในภูมิภาคมันอ่อนค่าลงในทิศทางเดียวกัน แต่อย่างไรก็ตาม ตนมั่นใจว่าธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท.จะสามารถดูแลและบริหารจัดการได้ เนื่องจากมีทุนสำรองที่มีความเข้มแข็ง

อย่างไรก็ตาม ในปีหน้า คาดว่าจีดีพีจะขยายตัวได้ 4.1% โดยมีแรงขับเคลื่อนจากการลงทุนและการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐ ส่งผลให้เกิดการลงทุนและมีเงินเข้าสู่ระบบ รวมไปถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการต่างๆด้วย