ทีเอ็มบีหั่นคาดการณ์ส่งออกปีนี้เหลือหดตัว5.5%

ทีเอ็มบีหั่นคาดการณ์ส่งออกปีนี้เหลือหดตัว5.5%

ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวการส่งออกปีนี้ลงเหลือหดตัว 5.5% ต่ำสุดในรอบ 6 ปี

ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวการส่งออกปีนี้ลงเหลือหดตัว 5.5% จากประมาณการเดิมที่หดตัวร้อยละ 1.7 หดตัวแรงสุดในรอบ 6 ปี สาเหตุหลักจากเศรษฐกิจคู่ค้าเติบโตต่ำกว่าคาด ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ ส่วนบาทอ่อนช่วยได้เล็กน้อย

ล่าสุดกระทรวงพาณิชย์แถลงตัวเลขการค้าระหว่างประเทศของไทยเดือนกรกฎาคม โดยมูลค่าการส่งออกรูปดอลลาร์สหรัฐหดตัวร้อยละ 3.6 ชะลอลงจากเดือนก่อนที่หดตัวร้อยละ 7.9 ส่งผลให้การส่งออกในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมาหดตัวร้อยละ 4.7 เมื่อพิจารณาในเชิงราคาและปริมาณพบว่าการส่งออกในเชิงปริมาณหดตัวร้อยละ 2.9 สะท้อนให้เห็นถึงอุปสงค์ของตลาดส่งออกที่ลดลง ส่วนราคาสินค้าส่งออกหดตัวร้อยละ 1.8 ตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวลดลง และจากการส่งออกที่หดตัวต่อเนื่อง ส่งผลให้กระทรวงพาณิชย์ปรับเป้าหมายการส่งออกจากขยายตัวร้อยละ 1.2 เป็นหดตัวร้อยละ 3.0 นอกจากไทยที่เผชิญภาวะการส่งออกหดตัวแล้วประเทศผู้ส่งออกทั่วโลกต่างประสบปัญหาส่งออกหดตัวเช่นเดียวกัน อาทิ ประเทศในกลุ่มอาเซียนอย่างอินโดนิเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ การส่งออกครึ่งปีแรกหดตัวเฉลี่ยร้อยละ 6.8 ไต้หวันหดตัวร้อยละ 7.8 และอินเดียหดตัวสูงถึงร้อยละ 15.3

ทั้งนี้ ในระยะ 7 เดือนที่ผ่านมาตลาดส่งออกหลักส่วนใหญ่หดตัว ไม่ว่าจะเป็นตลาดยุโรปและญี่ปุ่นที่เศรษฐกิจเติบโตอย่างช้า ๆ และค่าเงินมีทิศทางอ่อนค่า ตลาดจีนประสบกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ตลาดอาเซียน 5 ฮ่องกงและไต้หวัน ที่การส่งออกชะลอตามเศรษฐกิจจีน เนื่องจากสัดส่วนการส่งออกไปจีนสูง ซึ่งตลาดดังกล่าวมีสัดส่วนรวมกันประมาณร้อยละ 54 ของการส่งออกรวมอยู่ในภาวะหดตัวร้อยละ 7.9 ส่วนตลาดที่เติบโตได้ดี ได้แก่ สหรัฐขยายตัวร้อยละ 3.7 จากเศรษฐกิจที่อยู่ในภาวะฟื้นตัว CLMV ขยายตัวร้อยละ 8.5 และออสเตรเลียขยายตัวร้อยละ 11.1 เติบโตจากการส่งออกรถยนต์ เนื่องจากมีการย้ายฐานการผลิตออกไปจากออสเตรเลีย

ส่วน 5 เดือนที่เหลือของปี สภาวะการเติบโตของเศรษฐกิจโลกคาดว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก โดยจะยังคงเติบโตได้อย่างช้า ๆ ความเสี่ยงหลัก คือ การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนที่อาจเติบโตต่ำกว่าคาด ขณะที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์จะยังคงอยู่ในระดับต่ำต่อไปหลังจากราคาน้ำมันดิบตลาดโลกทำสถิติต่ำสุดต่อเนื่อง มีเพียงค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่าลงส่งผลดีต่อรายรับในรูปเงินบาทของผู้ส่งออก โดยเฉพาะผู้ที่ใช้วัตถุดิบในประเทศสูงและมีสัดส่วนการส่งออกต่อยอดขายสูง เช่น อุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับสินค้าเกษตร ส่วนสินค้าส่งออกที่คาดว่าจะเติบโตดีในช่วงที่เหลือของปี ได้แก่ รถยนต์นั่ง รถจักรยานยนต์ เครื่องประดับ ไก่สดแช่แข็ง ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง เครื่องดื่ม และเครื่องจักรกล ซึ่งเป็นสินค้าที่ยังมีความต้องการจากต่างชาติและไทยยังคงได้เปรียบทางการแข่งขัน ทั้งนี้ จากปัจจัยเสี่ยงที่ยังคงรุมเร้า ประกอบกับยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามาช่วยให้ภาคการส่งออกดีขึ้น ส่งผลให้ศูนย์วิเคราะห์ฯ ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของการส่งออกลงจากเดิมหดตัวร้อยละ 1.7 เป็นหดตัวร้อยละ 5.5 ต่ำสุดในรอบ 6 ปี