วาโก้โชว์นวัตกรรม 'Re-Energy Bra'

วาโก้โชว์นวัตกรรม 'Re-Energy Bra'

วาโก้โชว์นวัตกรรม 'Re-Energy Bra' กำจัดซากบรา มาตรฐานสากล รายแรกของไทย

ปัจจุบันปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมกำลังเป็นที่สนใจของคนทั่วโลก ขณะที่การนำวัสดุกลับมาใช้ใหม่ หรือการรีไซเคิลวัสดุ ก็นับเป็นหัวข้อหนึ่งที่มีการศึกษาวิจัยกันมาก ซึ่งหลายคนคงรู้ว่าวัสดุที่สามารถนำมา รีไซเคิลได้มีหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นโลหะชนิดต่างๆ พลาสติก แก้วและกระจก เป็นต้น โดยจะเห็นได้ว่าอุตสาหกรรมต่างๆ พยายามหันมาให้ความสำคัญด้านการรีไซเคิล-รักษาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และหนึ่งในนั้นก็คือ บริษัท ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไทยวาโก้ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุดชั้นในอันดับ 1 ของไทย ได้ใช้ระบบจัดการซากของผลิตภัณฑ์ชุดชั้นในที่ได้มาตรฐาน ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ผ่านกระบวนการ “รี เอ็นเนอร์จี บรา” (Re-Energy Bra)

หลายคนอาจสงสัยว่าซาก “บรา-ชุดชั้นใน” มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วยหรือ วันนี้นายธรรมรัตน์ โชควัฒนา กรรมการผู้ช่วยผู้อำนวยการ บริษัท ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) จะเล่าถึงที่มาของกระบวนการ “Re-Energy Bra” ว่า บรา 1 ตัว กว่าจะย่อยสลายเองตามธรรมชาติต้องใช้เวลาเฉลี่ยกว่า 100 ปี เนื่องจากวัสดุส่วนใหญ่เป็นโพลีเมอร์ หากทิ้งให้เป็นขยะตกค้างด้วยการฝังกลบไม่ได้ช่วยสิ่งแวดล้อมเลย แต่หากนำไปเป็นเชื้อเพลิงพลังงานทดแทนกลับช่วยลดการใช้แก๊ส, น้ำมัน, ถ่านหินได้ รวมทั้งลดปัญหาสภาวะโลกร้อนได้มากกว่า

ที่ผ่านมาตลอดระยะเวลา 3 ปี (2555 – 2557) วาโก้ได้จัดโครงการ “วาโก้ บราเดย์” อย่างต่อเนื่อง โดยได้เชิญชวนให้ผู้หญิงทุกคนร่วมกันบริจาคบราที่ไม่ใช้แล้ว ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีและมียอดบริจาคบรารวมมากถึง 30,000 ตัว โดยบราที่ได้ทั้งหมดจะนำเข้าสู่กระบวนการย่อยสลายอย่างถูกวิธี ผ่านกระบวนการเผาร่วมในเตาปูนซีเมนต์แบบปิด โดยไม่ส่งผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม ซึ่งช่วยลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมแทนการฝังกลบ ลดปริมาณขยะในชุมชนได้ถึง 3 ตัน และลดการเกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์ได้ 4,500 kg.Co2e. ซึ่งเทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ 76 ต้น

ด้านนายพงษ์สันติ์ วงษ์เสริมหิรัญ ผช.ผอ.ฝ่ายศูนย์วิจัยพัฒนาและนวัตกรรม บมจ.ไทยวาโก้ เล่าว่า “บริษัทฯ ได้สนับสนุนและดำเนินการในเรื่องของ Re-Energy Bra ซึ่งถือเป็นโครงการนำร่องของกลุ่มผลิตภัณฑ์ชุดชั้นในของประเทศไทยที่มีการจัดการซากของผลิตภัณฑ์อย่างมีระบบและได้มาตรฐาน ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งประโยชน์ที่ได้รับ แบ่งเป็น 3 ข้อหลัก คือ 1.องค์กร กากของเสียถูกเผาอย่างสมบูรณ์ ลดความต้องการพื้นที่กักเก็บลดความเสี่ยงต่อการเสียชื่อเสียง สอดคล้องกับกฎหมายโดยเฉพาะอย่างยิ่งของเสียอันตราย 2.ชุมชน ลดปริมาณกากของเสียที่จะต้องนำไปฝังกลบ 3.สิ่งแวดล้อม ลดและชะลอการนำทรัพยากรธรรมชาติมาใช้ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซมีเทนจากหลุมฝังกลบ ลดโอกาสการปนเปื้อนสู่สิ่งแวดล้อมเนื่องจากการฝังกลบ นอกจากนี้การเผาผลิตร่วมในเตาปูนซีเมนต์ ยังไม่ก่อให้เกิด “ขี้เถ้า” หรือ “สิ่งตกค้าง” เหลือจากกระบวนการเผา เนื่องจากขี้เถ้าที่เกิดขึ้นทั้งหมดจะหลอมรวมเป็นส่วนหนึ่งของปูนซีเมนต์ ถือเป็นการจัดการอุตสาหกรรมแบบครบวงจร ได้มาตรฐานระดับสากล

“ถือเป็นครั้งแรกของกลุ่มผลิตภัณฑ์ชุดชั้นในของประเทศไทยที่มีการจัดการซากของผลิตภัณฑ์อย่างมีระบบและได้มาตรฐาน ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ผ่านกระบวนการ Re-Energy Bra เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งโครงการดีๆ ที่สร้างสรรค์และกระตุ้นให้ประชาชนเกิดความตื่นตัวและหันมามีส่วนร่วมในการช่วยแก้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมมากขึ้น”