เขาอยากให้ผมแพ้?..เปิดเบื้องลึก'บัวขาว'ทิ้งเวที

เขาอยากให้ผมแพ้?..เปิดเบื้องลึก'บัวขาว'ทิ้งเวที

เหตุผลหนึ่งที่ดูมีโอกาสเป็นไปคือความขัดแย้งระหว่าง บัวขาว กับ เค-วัน ได้เกิดขึ้นจริงๆมีสาเหตุของ "การพนัน"

ในวงการมวยไทย ช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า "ดำดอทคอม" บัวขาว บัญชาเมฆ หรือ ป.ประมุข เดิม คือนักชกที่เป็นที่รู้จักที่สุดของแฟนมวยชาวไทยและต่างชาติมากที่สุด เพราะนอกจากผลงานบนผืนเวทีผ้าใบที่โดดเด่น โชว์ศิลปะแม่มวยไทย ไล่เตะต่อยนักชกต่างชาติ กระเด็นกระดอนไปหลายต่อหลายรายแล้ว เรื่องราวชีวิตของเขาบนเส้นทางนักสู้ ยังเต็มไปด้วยความน่าติดตามอย่างยิ่ง

ก่อนหน้านี้บัวขาวโด่งดังเฉพาะตอนขึ้นเวที ในฐานะนักชกชาวไทยที่ออกไปต่อยมวยเค-วัน ที่ญี่ปุ่น เคยได้แชมป์มา 2 สมัยในปี 2004, 2006 จากนั้นค่อยๆ ขยับความโด่งดังเป็นที่รู้จักทั้งประเทศ เมื่อตกเป็นข่าวหายตัวออกจากค่ายชกไปยังไร้ร่องรอย เมื่อ 2 ปีก่อน ก่อนค่อยๆ โผล่ออกมาประกาศขอแยกตัวจากต้นสังกัดเดิม ด้วยเหตุผลเรื่องค่าตัว เพื่อไปชกในศึกไทยไฟท์ จากนั้นด้วยเหตุผลเรื่องธุรกิจ ก็แยกตัวออกจากไทยไฟท์มาชกและเป็นโปรโมเตอร์ในศึกแม็กซ์เวิลด์

เรียกว่าขยับความดังและการจับจ้องจากสังคมจากเฉพาะตอนอยู่บนเวที เพิ่มความสนใจมาเป็นตอนที่ยังไม่ขึ้นเวทีเข้าไปอีกฉากหนึ่ง

แต่เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ท่ามกลางการถ่ายทอดสดไปทั่วประเทศ บัวขาวก็ได้เพิ่มความโด่งดังให้ตัวเองอีกครั้ง เมื่อสร้างเซอร์ไพรส์เดินลงจากเวทีหน้าตาเฉย ขณะที่การชก ศึกเค-วัน เวิลด์ แม็กซ์ ไฟนอล รอบชิงชนะเลิศ รุ่น 70 กก. ที่เมืองพัทยา เมื่อคืนวันที่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมา สิ้นสุด 3 ยก

ชนิดไม่รอฟังการประกาศผลการตัดสิน ที่ตามกติการะบุไว้ว่า หากผลออกมาเสมอกันต้องมีการชกซัดเดนเดธ ด้วยยกที่ 4 รวมไปถึงอาจมียกที่ 5 ด้วยซ้ำ

ก่อนผู้จัดการแข่งขันที่ยืนงงเต็กกันอยู่หลายนาที จะตั้งสติได้ ได้ประกาศให้คู่ชกของบัวขาว คือ เอนริโก เคห์ล ชาวเยอรมัน เป็นฝ่ายชนะ คว้าแชมป์ไปครอง

ยิ่งไปกว่านั้น มีรายงานข่าวยืนยันว่า เจ้าตัวพร้อมด้วยทีมงาน ทันทีที่ลงจากเวที บัวขาวและทีมงานได้ขึ้นรถที่เตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว เดินทางออกจากสนามมวยไปในทันที

ถือเป็นความโด่งดังที่แปลกใหม่ ไม่ซ้ำใคร... กลายเป็นคนที่ถูกจับจ้องและจับตาครบ ทั้งก่อนขึ้นเวที ตอนอยู่บนเวที แถมตอนจะลงจากเวทีอีกต่างหาก

แต่น่าสนใจอย่างยิ่งว่า อะไรคือเหตุจูงใจสำคัญ ที่ทำให้ บัวขาว ตัดสินใจทำเช่นนั้น !!!

มีผู้วิเคราะห์กันไปต่างๆ นานา บ้างก็ว่า บัวขาว รู้ตัวดีว่าทำการ ฟิตซ้อม ในการชกครั้งนี้มา ไม่ดี มีแรงชกแค่ 3 ยก พอรู้ว่าจะต้องชกยกที่ 4 ก็เลยตัดสินใจเผ่นกลับ เพราะขึ้นชกต่อมีสิทธิ์ที่จะเป็นผู้แพ้ มีโอกาสเสียฟอร์มสูง เพราะที่ผ่านๆ มา บัวขาวสร้างชื่อโด่งดังจากการเอาชนะนักชกต่างชาติ ที่มีทั้งของจริงและหมูจริงมาเยอะ ที่แพ้ก็พอมี แต่ที่สำคัญคือ ไม่เคยแพ้นักชกต่างแดนในเมืองไทยแม้แต่หนเดียว

หรือบ้างก็ว่า นี่อาจเป็น "ดรามา" อีกฉากของบัวขาว ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเรียกกระแสความสนใจ เพราะก่อนหน้านี้ทั้งตอนแยกตัวออกจากค่าย ป.ประมุข หรือจากไทยไฟท์ ก็เคยเกิดเหตุอื้อฉาวทำนองเดียวกันนี้ ถึงขั้นจะเอาตำรวจไปดักจับหากขึ้นเวทีด้วยซ้ำ...

แต่สุดท้ายก็ลงเอยแบบไม่มีอะไรในกอไผ่ นัดเคลียร์กันลงตัวไปได้ทุกครั้ง

ส่วนอีกเหตุผลหนึ่งที่ดูมีโอกาสเป็นไปได้ก็คือ ความขัดแย้ง ระหว่าง บัวขาว กับ เค-วัน ได้เกิดขึ้นจริงๆ โดยมีสาเหตุของ "การพนัน" เข้ามาเกี่ยวข้อง

ย้อนไปเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม บัวขาว พร้อมทีมงานและฝ่ายกฎหมายได้เข้าแจ้งความกับตำรวจกองปราบปราม ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการพนัน ที่มีอัตราต่อรองการชกของตัวเองบนเว็บไซต์ต่างๆ แต่อย่างใด

นั่นคือสัญญาณแรกที่ถูกส่งออกมา แรกๆ ก็ไม่มีใครเอะใจ เพราะคิดว่าการมีราคาต่อรองในการชกมวยแบบนี้ ถือเป็นเรื่องธรรมดาๆ ที่เว็บไซต์การพนันบางแห่งก็เปิดมาเพื่อล่อใจพวกแมงเม่าให้มาลองเสี่ยงโชคกันดู

ซึ่งแน่นอนว่า ราคาที่ออกมานั้น บัวขาวจะเป็นต่อในอัตราที่ค่อนข้างสูง คือ ถ้าแทงบัวขาว 1 บาท จะได้คืนแค่ 1.2 บาทไม่รวมทุน แต่หากแทงฝ่ายตรงข้ามไว้ 1 บาท จะได้คืนถึง 3.6 บาท

แต่ที่ไม่ธรรมดาที่คนใกล้ชิดบัวขาวออกมาเปิดเผยก็คือ มีผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับการจัดแข่งขันบางคนไปแทงพนันฝ่ายตรงข้ามนักชกไทยไว้ แล้วมาบอกกับนักชกไทยว่าอยากให้บัวขาวเป็นฝ่ายแพ้ในการชกที่จะมีขึ้น แลกกับเงินก้อนใหญ่ และอนาคตที่จะโลดแล่นบนเวทีนี้ต่อไป

"เซย์โน" คือคำตอบที่นักชกไทยพูดกลับไป พร้อมกับการรู้ตัวแน่ๆ ว่า จะมีการเอาคืน หรือมีการกระทำอะไรบางอย่างเพื่อไม่ให้บัวขาวได้รับการชูมือในการชกไฟท์นี้แน่นอน

"ถ้าใครดูการถ่ายทอดสด จะเห็นว่าตลอดการชก 3 ยก บัวขาวพยายามจัดเต็ม ออกอาวุธใส่คู่ต่อสู้ตลอด เพราะรู้ดีว่า ต่อให้ต่อยยก 4 หรือยก 5 ต่อไป ยังไงก็ไม่ชนะ ดังนั้นจึงตัดสินใจทำแบบนี้ เพื่อทิ้งเป็นคำถามให้ผู้ชมได้ตอบกันเองว่า ใครควรที่จะเป็นผู้ชนะในการชก 3 ยกที่ผ่านไปแล้วกันแน่" แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับบัวขาว ที่ระบุว่าเจ้าตัวจะออกมาแถลงความชัดเจนของเรื่องนี้ ในวันที่ 14 ตุลาคมนี้ กล่าวทิ้งท้าย

ทั้งหมดล้วนเป็นความเป็นไปได้ที่เป็นสาเหตุของเรื่องสะท้านผืนผ้าใบที่เกิดขึ้น ซึ่งทั้งหมดคงต้องฟังจากปากของทั้ง 2 ฝ่ายให้หายคาใจ ซึ่งก็มีความเป็นไปได้อีกเช่นกันว่า ข้อมูลอาจจะตรงกันทั้งหมด หรือไม่ตรงกันโดยสิ้นเชิง

ซึ่งสุดท้าย ก็คงขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของทุกท่านล่ะว่า จะเลือกเชื่อใครดี !!!