พม่ายิ้มรอต้อนรับ'ประยุทธ์'เยือน

พม่ายิ้มรอต้อนรับ'ประยุทธ์'เยือน

ทูตฯแจ้งพม่ายิ้มรอต้อนรับ "ประยุทธ์" ไปเยือนเพื่อแนะนำตัวในฐานะนายกฯของไทย

นายพิษณุ สุวรรณะชฏ เอกอัครราชทูตไทยประจำย่างกุ้ง ให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบเเห่งชาติ (คสช.)จะเดินทางมาเยือนสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ ว่า เบื้องต้นยังไม่ทราบว่าจะมาเมื่อไหร่ ทางทีมงานนายกรัฐมนตรียังไม่ได้แจ้งกรอบเวลาที่แน่นอน แต่คงไม่ใช่วันที่1-2ตุลาคมนี้ ตามที่เป็นข่าว เพราะทราบว่าช่วงเวลานั้น ท่านติดภาระกิจที่ประเทศไทย เเต่คาดว่าน่าจะเป็นต้นเดือนตุลาคมนี้เพราะตามธรรมเนียมการเยือนประเทศเพื่อนบ้านเมื่อได้เป็นรัฐบาลหลังเเถลงนโยบายต่อรัฐสภาเสร็จ ก็ต้องเดินทางเยือนทันที

ผู้สื่อข่าวถามว่าได้วางตารางการจัดลำดับการเยือนประเทศเมียนมาร์ของ พล.อ.ประยุทธ์ อย่างไรบ้าง นายพิษณุ กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมา กำหนดการของนายกรัฐมนตรี ที่จะเดินทางเยือนต่างประเทศเป็นเรื่องที่ทางสถาทูตไทยในประเทศต่างๆที่เป็นเป้าหมายในการเยือนจะได้วางกรอบคร่าวๆว่าเป็นความประสงค์ ของนายกรัฐมนตรีที่จะเยือนประเทศต่างๆ เพื่อเชื่อมความสัมพันธไมตรี ซึ่งในส่วนของประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนมีความชัดเจนว่า นายกรัฐมนตรีจะมาเยือนเมียนมาร์เป็นประเทศเเรก ด้วยเหตุผล ที่ว่าเมียนมาร์เป็นประธานอาเซียนในปัจจุบันและเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีพรหมเเดนติดกับประเทศไทย และมีความสัมพันธ์ที่ดีกับไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และในส่วนของประเทศเมียนมาร์เองก็มีความกระตือรือร้นที่จะต้อนรับนายกรัฐมนตรีของไทย

นายพิษณุ กล่าวอีกว่า ส่วนโปรแกรมของรัฐมนตรีนั้น โดยเบื้องต้นการเยือนต่างประเทศของผู้นำรัฐบาล ที่พึ่งได้รับตำแหน่งจะมีแบบเเผนกำหนดทั้งที่เป็นสากล และวิธีการของประเทศไทยเอง เช่น กรณี ประเทศเมียนมาร์ต้องเดินทางมาที่เมืองหลวงคือ ที่เนปิดอร์ พร้อมกับเข้าเยี่ยมคาราวะประธานาธิบดีเตงเซ็ง ผู้นำสูงสุดของประเทศ รวมถึงการหารือข้อราชการที่เป็นเรื่องการส่งเสริมความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน พร้อมทั้งจัดงานเลี้ยงรับรองเพื่อสัมพันธไมตรี

นอกจากนี้ตนได้เตรียมการให้ พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางไปพบปะกับชุมชนไทยที่กรุงย่างกุ้ง ประเทศเมียนมาร์ เพราะมีชุมชนไทยอาศัยอยู่ประมาน2พันคน แบ่งเป็น2กลุ่มคือ กลุ่มคนที่ประกอบธุรกิจเอสเอ็มอีและอยู่ประจำ และนักธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี หรือ นักธุรกิจในบริษัทใหญ่ที่ขยายกิจการมาจากประเทศไทย ซึ่งกลุ่มนี้จะไม่อยู่ประจำ เชื่อมั่นว่านายกรัฐมนตรีจะเดินทาง ไปพบปะ และให้กำลังใจกับผู้ประกอบการไทย ในฐานะที่เป็นรัฐบาลที่ต้องเข้าหาประชาชน อย่างน้อยเพื่อใช้จังหวะเเละโอกาสในการชี้เเจงนโยบายการพัฒนา และการส่งเสริมต่างๆ เพราะรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี มีความสนใจในเรื่องนี ส่วนจะเดินทางไปพบหมดดูอีที หรือไม่นั้น ท่านนายกฯไม่น่าจะมีเวลา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับกำหนดการของท่านนายกฯด้วย "นายพิษณุ กล่าวและว่า

เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีกำหนดจะเข้าพบนางอองซานซูจี หรือไม่ นายพิษณุ กล่าวว่า ยังไม่ได้รับการยืนยัน โดยตามหลักการเเล้ว การเยือนต่างประเทศครั้งแรกของผู้นำรัฐบาล จะเน้นหนักการเเนะนำตัว การสร้างความสัมพันธ์ ตลอดจนการวางพื้นฐานพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ส่วนเรื่องที่เป็นการเมืองของสองประเทศ และเป็นเรื่องภายใน ถือว่าไม่เกี่ยวข้องกัน ทั้งนี้เชื่อว่าการเดินทางเยือนเมียนมาร์ของนายกรัฐในครั้งนี้จะเป็นประโยชร์อย่างมากในเรื่องการวางแนวทางกับกระบวนการดำเนินการความสัมพันธ์ระหว่างสองรัฐบาลในอนาคต

" ขณะนี้พม่าอยู่ในช่วงของการปฎิรูปเปลี่ยนผ่านระบบเศรษฐกิจ บริหารจัดการต่างๆ ไปสู่รูปแบบใหม่ที่ทันสมัย และเป็นสากลมากขึ้น หลายเรื่องเป็นโครงการที่มีความร่วมมืออยู่แล้ว เช่น.โครงการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกและนิคมอุตสาหกรรมทวาย ซึ่งเรื่องนี้จะทำให้ประเทศเมียนมาร์มีความมั่นใจรัฐบาลมากขึ้น รวมถึงมั่นใจการพัฒนาความสัมพันธ์ ระหว่างไทยกับเมียนมาร์ที่มีความชัดเจนว่าจะดำเนิการต่อไป รวมถึงความร่วมมือด้านเศษรฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เป็นไปตามนโยบายและยุทธศาสาตร์ของทั้งสองประเทศที่สอดคล้องและเกื้อกูลกัน เช่น การเป็นเศรษฐกิจพิเศษ ตามเเนวชายแดนเป็นแนวทางที่ส่งเสริมความร่วมมือให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมจับต้องได้ นอกจากนี้พล.อ.ประยุทธ์ ได้ให้นโยบายในการเสริมสร้างความสัมพันธ์กับเมียนมาร์ คือการสานต่อความสัมพันธ์ที่ดีอยู่แล้วให้เจริญงอกงามมากขึ้น การพัฒนาความสัมพันธ์ให้เป็นพื้นฐานที่จะเป็นประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศ"นายพิษณุ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คาดว่า นายกรัฐมนตรีจะเดินทางมาเยือนประเทศเมียนมาร์ ภายหลังจากที่มีการประชุมคณะ คสช. ในวันที่ 7 ตุลาคม เรียบร้อยแล้ว