"ชไตน์ อัม ไรน์" เมืองน่ารักริมแม่น้ำไรน์

เมืองนี้ตั้งอยู่บนฝั่งตะวันตกของทะเลสาบอุงเตอร์ซีและตั้งอยู่ในส่วนที่ดีที่สุดของแม่น้ำไรน์

เมืองที่มีชื่อแปลว่า หินบนแม่น้ำไรน์นี้มีประชากรเพียง 3,000 กว่าคน และมีพื้นที่เพียง 6.06 ตารางกิโลเมตร เมืองนี้ให้ความรู้สึกเหมือนหลงเข้าไปในประวัติศาสตร์ที่ซึ่งกลิ่นอายของอดีตปรากฏอยู่ในบ้านไม้สักและป้อมปราการในสมัยกลาง ทัศนียภาพของธรรมชาติที่ยังไม่ถูกทำลาย และสถานที่สำคัญในประวัติศาสตร์ที่ไม่เคยคลายเสน่ห์ดึงดูดใจ

อาคารบ้านเรือนปลูกสร้างมาตั้งแต่สมัยยุคกลาง บ้านเรือนในเมืองนี้จะมีลักษณะเด่นคือ บางบ้านจะมีมุขหน้าต่างยื่นออกมา และผนังนอกบ้านมีการวาดภาพสีน้ำปูนเปียกบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ เอาไว้

ด้วยความที่เป็นเมืองขนาดเล็ก ชไตน์ อัม ไรน์ จึงเป็นเมืองที่เหมาะแก่การเดินเที่ยว ในเมืองมีถนนสายหลักเพียงสายเดียว ศูนย์กลางเมืองคือจัตุรัสราเธาส ซึ่งมีน้ำพุอยู่ตรงกลางจัตุรัส กลางน้ำพุมีอัศวินสวมเสื้อเกราะยืนอยู่ ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะเริ่มต้นเดินชมเมืองจากใจกลางเมือง ซึ่งเป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเมืองที่สร้างขึ้นสมัยกลางศตวรรษที่ 15

ไม่ไกลจากศาลาว่าการเมืองเป็นที่ตั้งของโบสถ์เซนต์ จอร์จ ซึ่งเป็นตึกทางการตึกแรกของเมือง โบสถ์นี้มีความสำคัญในเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมและมีคุณค่าแก่การเยี่ยมชม มันถูกย้ายมาอยู่ที่เมืองนี้ในช่วงศตวรรษที่ 10 ปัจจุบันแปรสภาพเป็นพิพิธภัณฑ์ ที่ใกล้ๆ กับโบสถ์มีแกเลอรีภาพของเจ้าอาวาส เดวิด วอน วินเคลสไฮม์ ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์เช่นกัน

พิพิธภัณฑ์ลินด์เวิร์มเป็นสถานที่ที่น่าสนใจอีกที่หนึ่ง ภายในมีนิทรรศการของวิถีชีวิตของคนชั้นกลางและการทำเกษตรกรรมในยุคศตวรรษที่ 19

สำหรับนักท่องเที่ยวที่มีทั้งกำลังวังชาและเวลาเหลือเฟือ ขอแนะนำให้เดินขึ้นเขาไปยังปราสาทโฮเฮนคลิงเกน ข้างบนหอคอยของปราสาทเป็นจุดชมวิวที่สวยงามที่มองไปเห็นทะเลสาบคอนสแตนซ์และเทือกเขาแอลป์

จุดท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดอีกจุดหนึ่งก็คือ เคิร์ช เบิร์จใน วอร์ เดอร์ บรูจจ์ เขตที่อยู่ทางฝั่งซ้ายของแม่น้ำไรน์ ที่นั่นมีซากกำแพงของป้อมปราการโบราณสมัยโรมันหลงเหลืออยู่ จากจุดนั้นสามารถเดินเลาะริมแม่น้ำไรน์ไปยังเกาะขนาดเล็กที่มีชื่อว่า เวิร์ด และโบสถ์เซนต์ ออตมาร์ ที่อยู่ในความดูแลของพระนักบวช

การนั่งเรือล่องแม่น้ำไรน์จากเมืองชาฟท์เฮาเซนสู่ชไตน์ อัมไรน์ เป็นกิจกรรมหนึ่งที่จะได้ดื่มด่ำกับทัศนียภาพอันสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป และยังสามารถไปเยี่ยมชมโบสถ์ประจำเมืองซึ่งตั้งอยู่บริเวณริมน้ำมีหอคอยที่โดดเด่นเป็นโบสถ์โปรแตสแตนซ์ประจำเมือง ซึ่งเป็นศูนย์รวมของผู้คนในเมืองนี้ในวันหยุดสุดสัปดาห์

เมือง ชไตน์ อัม ไรน์ ได้รับรางวัล The First Wakker Prize เมื่อปีค.ศ. 1972 ในฐานะที่อนุรักษ์มรดกทางสถาปัตยกรรมไว้ได้เป็นอย่างดี บ้านและตึกบางหลังได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกแห่งชาติของสวิสเซอร์แลนด์ เช่น โบสถ์เซนต์ จอร์จ รวมถึงบ้านที่มีลักษณะพิเศษกว่าบ้านหลังอื่นๆ เช่น บ้านเวสเซอร์ แอดเลอร์ หรือ อินทรีขาว บ้านหลังนี้ตั้งอยู่ตรงข้ามศาลาว่าการเมือง เป็นบ้านที่มีภาพวาดผนังปูนเปียกในยุคเรอเนสซองส์ตอนต้นที่เก่าแก่ที่สุดและมีค่ามากที่สุดของเมืองด้วย

บ้านวอร์เดอร์ โครน เป็นบ้านที่มีลักษณะเด่นมากที่สุดหลังหนึ่งของเมือง บ้านหลังนี้สร้างขึ้นในยุคศตวรรษที่ 17 มีมุขหน้าต่างขนาดใหญ่ยื่นออกมา การตกแต่งภายในก็เป็นแบบเรอเนสซองส์และบาร็อค และบ้านซอนน์ หรือ พระอาทิตย์ เป็นเกสท์เฮ้าส์ที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองสร้างขึ้นในยุคศตวรรษที่ 16

ภาพวาดบนผนังของตึกเก่าในเมืองถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันยิ่งใหญ่ของเมืองและเป็นความภาคภูมิใจของชาวเมืองชไตน์ อัม ไรน์ มันเป็นเหมือนหน้าต่างให้คนรุ่นหลังได้ชื่นชมกับอดีต พวกเด็กๆ ได้เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของบรรพบุรุษผ่านภาพวาดที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์เหล่านั้นที่บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับวัฒนธรรม ความเป็นอยู่ของคนโบราณ มีทั้งการทำไวน์ งานแกะสลัก งานเทศกาลต่างๆ ในยุคดั้งเดิม นอกจากนี้ภาพวาดบนผนังของบ้านยังเป็นตัวบ่งบอกถึงฐานะของเจ้าของบ้านว่าเป็นคนร่ำรวย ในยุคต่อมาเจ้าของใหม่ที่เข้ามาครอบครองตึกเหล่านั้นจะต้องให้คำมั่นสัญญาว่าจะไม่ลบภาพวาดบนผนังออก

นักท่องเที่ยวที่อยากได้ประสบการณ์และเห็นวิถีชีวิตแบบคนสวิสอย่างแท้จริงต้องไม่พลาดมาเยือนชไตน์ อัม ไรน์

.....................

ที่มา www.luxurytraveler.com