ศุภลักษณ์ อัมพุช เมื่อหงส์ "ท้าชน" มังกร

ศุภลักษณ์ อัมพุช เมื่อหงส์ "ท้าชน" มังกร

ปรากฏการณ์ ยักษ์ชนยักษ์ กระหึ่มวงการค้าปลีก สำหรับ 2 ค่าย "เซ็นทรัล-เดอะมอลล์" เมื่อเซ็นทรัล เปิดห้างหรูเอ็มบาสซี่ มีหรือเดอะมอลล์จะไม่ท้าช

เกือบ 1 ทศวรรษที่เดอะมอลล์ กรุ๊ป ไร้แผนลงทุนผุดโปรเจคใหม่ ทว่าเมื่อวันที่ 6-7 พ.ค.ที่ผ่านมา “แอ๊ว ศุภลักษณ์ อัมพุช” รองประธานกรรมการ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด หญิงเหล็กร่างเล็กรั้งตำแหน่งขุนศึกหญิงแห่งวงการค้าปลีก ก็ออกมาประกาศการลงทุนครั้งใหญ่ 6 โครงการยักษ์พร้อมกัน ด้วยงบลงทุนกว่า 5 หมื่นล้านบาท เมื่อรวมการลงทุนของพันธมิตรจะมีมูลค่าสูงกว่า 8 หมื่นล้านบาท

โดย 6 โครงการยักษ์ที่ว่า ประกอบด้วย ดิ เอ็ม โพเรียม ที่จะยกเครื่องใหม่ทั้งศูนย์ทุก “ตารางเมตร”, ดิ เอ็มควอเทียร์, ดิ เอ็มสเฟียร์ บนถนนสุขุมวิทอันเป็นย่านใจกลางธุรกิจ (CBD), บลูพอร์ท เจาะเมืองท่องเที่ยวอย่างหัวหิน, บลูเพิร์ล ยึดเมืองไข่มุกแห่งอันดามัน ภูเก็ตและแบงค็อก มอลล์ ทำเลทองจุดตัดถนนสุขุมวิทและบางนา-ตราด ที่จะทยอยเปิดให้บริการ โครงการสุดท้ายในปี 2017

6 พ.ค.ศุภลักษณ์ ควงขุนพลมือขวา “กบ เกรียงศักดิ์ ตันติพิภพ” ประธานกรรมการ บ.ดิเอ็มโพเรียม กรุ๊ป นั่งขนาบซ้าย เพื่อแถลงไขถึงเมกะโปรเจคครั้งนี้

หากแต่ความน่าสนใจของการเขยื้อนเคลื่อนตัวของเดอะมอลล์ครั้งนี้ มีไฮไลต์อยู่ในวันที่ 7 พ.ค. 2557 เมื่อเธอควักกระเป๋า 80 ล้านบาท ยึดฮอลล์ 103 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงนิทรรศการไบเทค บางนา ตรงข้ามพื้นที่โครงการ “แบงค็อก มอลล์” เนรมิตรงาน “THE OVERTURE TO THE NEW ERA OF THE MALL GROUP” ธีมงานประดับประดาพรมแดงประดุจงานประกาศรางวัลออสการ์ หาได้มีนัยยะเกี่ยวข้องทางการเมืองแต่อย่างใด

เวลาประมาณ 14.00 น. คือกำหนดการเปิดงาน บรรดาแขกเหรื่อมากมายนับพันชีวิต ตบเท้าทยอยเข้างานก่อนเวลา ทุกคนล้วนเป็นบุคคล “สำคัญ” ไล่เลียงตั้งแต่นักการเมืองที่เธอมีสายสัมพันธ์ใกล้ชิด ซ้ำยังเป็นพันธมิตรธุรกิจค้าปลีกอย่าง “สุวัจน์ ลิปตพัลลภ” อดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวง ที่ส่งทายาท (พราวพุธ ลิปตพัลลภ) ร่วมหุ้นกับเดอะมอลล์ในโครงการบลูพอร์ท หัวหิน , “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” อดีตเจ้ากระทรวงคมนาคม

สปอตไลท์ส่องตรงไปยังมหาเศรษฐีฟอร์บส นามเจ้าสัว “เจริญ สิริวัฒนภักดี” ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มไทยเจริญคอร์ปอเรชั่น หรือทีซีซี กรุ๊ป ที่ควงคู่มากับบุคคลในครอบครัว ,นายแบงก์ใหญ่ “ชาตรี โสภณพนิช” ประธานกรรมการธนาคารกรุงเทพ ลงทุนมาเองควงคู่มากับลูกชาย "ชาติศริ โสภณพนิช" กรรมการผู้จัดการใหญ่ และกรรมการบริหารธนาคารกรุงเทพ หรือแม้แต่เจ้าพ่อวงการรถยนต์ “ประจินต์ เอี่ยมลำเนา” ก็มาร่วมงาน และอีกมากมาย ฯลฯ

ฝั่งไทยใหญ่ไม่หยอก เมืองนอกก็ไม่น้อยหน้า เพราะบรรดา CEO แบรนด์เนมระดับโลกตบเท้าร่วมงานกันอย่างคึกคัก ไม่ว่าจะเป็น Cartier (คาร์เทียร์),Chanel (ชาแนล), PRADA (ปราด้า) ตัวแทนจาก LOUIS VUITTON (LV Group) แม้ผู้บริหารอินเตอร์แบรนด์จะมาไม่ได้ ก็ยังฝากวีดิโอเอื้อนเอ่ยถึงเดอะมอลล์กรุ๊ป โดยเฉพาะ “Sir Richard Charles Nicholas Branson” หรือริชาร์ด แบรนสัน เจ้าของโลโก้ธุรกิจการค้าก้องโลก “Virgin”(เวอร์จิ้น) ที่ยอมเทคิวทองให้แล้วว่าจะมาเยือนไทยเดือน ม.ค.ปีนี้ ทว่า..เดอะมอลล์เลื่อนเปิดตัวโครงการออกไป ทำให้การเดินทางผิดแผน

เวลาประมาณ 16.00 น. แขกถูกต้อนเข้าสู่ฮอลล์ 103 กระทั่งที่นั่งเต็มเอี๊ยดเบียดไม่ได้อีกแล้ว ความอลังการของแสงสีเสียงเริ่มบรรเลง คำกล่าวยกยอซีอีโอทั้งไทย-เทศถูกฉายผ่านจอแอลอีดีขนาด 70 เมตร ที่ศุภลักษณ์ การันตีว่า “ใหญ่ที่สุดในไทย” สำหรับการแถลงข่าว

สิ้นสุดคำเยินยอของพันธมิตรธุรกิจ โพเดียมค่อยๆ โผล่พ้นเวที ตามด้วย “สตรีเหล็กในชุดเดรสสีแดงสดเปิดไหล่” กรีดกรายมาจากด้านหลังเพื่อยืนอยู่เบื้องหน้าผู้คนนับพัน พรรณนา 6 โปรเจคอลังการอย่างไร้สคริปต์ ฉะฉาน ชัดเจน และเต็มเปี่ยมด้วยพลัง สะกดคนทั้งฮอลล์ให้สงบอยู่เบื้องหน้าเธอ

สมดังที่เธอปรารภว่า ..“ถ้าเราขึ้นชกในสังเวียนไหน เราต้องชนะ ถ้าไม่ชนะเราไม่ไป”

เพราะปัจจุบันคู่แข่งบนเวทีค้าปลีกประเภทห้างสรรพสินค้าเหลือเพียง 2 ค่ายใหญ่ (เดอะมอลล์-เซ็นทรัล) เท่านั้น เทียบกับเมื่อ 30 ปีก่อนที่มีคู่แข่งมากถึง 20-30 ราย

“ปัจจุบันธุรกิจค้าปลีกแข่งแรงมาก...!!!” เธอฟันธง

ถามว่าทำไม..ก้าวสู่สหัสวรรษใหม่ครั้งนี้ของเดอะมอลล์ต้องยิ่งใหญ่ระดับ “World class”

คำตอบของ “ศุภลักษณ์” คือ “หากทำแล้วเป็นการถอยหลัง จะทำทำไม ? ” ก่อนขยายความว่าจุดกำเนิดของเดอะมอลล์นั้น เริ่มต้นทำโปรเจคเล็กๆ และโจทย์ธุรกิจในวันหน้าล้วนเปลี่ยนแปลงไป จึงจำเป็นที่ต้องหลุดจากกรอบตลอดที่เคยคร่ำหวอด

อีกหนึ่งแรงผลักสำคัญ เมื่อเธออายุ 23 ปีต้องเดินทางไปต่างประเทศ โดยนั่งเครื่องบินชั้น “เฟิร์สทคลาส” แต่กลับถูกเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองรื้อค้นกระเป๋าทุกซอกทุกมุม เพราะสงสัยว่าเธอจะขนสิ่งของผิดกฎหมายประเภทยาเสพติดเข้าประเทศ เลยทำให้อยากลุกขึ้นมาทำอะไรบางอย่างให้โลกรับรู้ ที่สำคัญขอมีส่วนยกระดับประเทศไทยให้ดีขึ้น

นั่นคือความมุ่งหวังส่วนตัว !

กระทั่งสิ่งที่คิดหวังไว้เป็นจริง เมื่อครอบครัวกงสีต้องการวางมือจากธุรกิจ คิดจะขายกิจการค้าปลีกให้กับต่างค่าย มีแต่เธอที่ลุกขึ้น "ตบโต๊ะ" ขอเข้ามาสานต่อธุรกิจค้าปลีกของตระกูล “อัมพุช” ทั้งที่ไม่ได้เรียนจบบริหารมาด้วยซ้ำ

“จบการศึกษาด้านเภสัชศาสตร์ แต่มาทำธุรกิจรีเทล เพราะเห็นว่าเป็นธุรกิจที่ดี เกิดประโยชน์มากมาย มีการพัฒนาประเทศ ช่วยให้มีการค้าขาย เช่น ร้านแมงป่อง จากช็อปเล็กๆ ในห้างเดอะมอลล์1 ปัจจุบันเป็นคู่ค้าที่เติบโตมาด้วยกันกว่า 30 ปี”

ท่ามกลางการเมืองไร้เสถียรภาพ ความเชื่อมั่นนักลงทุนเป็นสิ่งสำคัญ ประกอบกับ อภิมหาโปรเจคของเดอะมอลล์ ก็ใช้เงินมหาศาล จังหวะนี้สำหรับเธอแล้วมองว่า “ดี” เพราะเสาะหาผู้รับเหมาก่อสร้างง่ายเมื่อพัฒนาโครงการแล้วเสร็จภายใน 2-3 ปี

เหตุการณ์ความวุ่นวายต่างๆ อาจยุติลง “นี่เป็น Long term vision ที่ผ่านมาเราไม่ได้ลงทุน เพราะยังไม่พร้อม และเราอยากได้อะไรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดจริงๆ เราเคยทำสยามพารากอน (ร่วมกับพันธมิตร สยามพิวรรธน์) มาแล้ว ให้ทำอะไรเล็กๆ คงไม่ได้ เพราะสิ่งที่เราสร้างไม่ได้ทำเพื่อตัวเอาเอง แต่ต้องการยกระดับประเทศไทยให้ทั่วโลกจับตามอง และต้องทำในสิ่งที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในวงการค้าปลีก”

ทว่า..ที่ผ่านมาเดอะมอลล์ ดูจะผลิตมืออาชีพไม่ทันความต้องการเติบโตขององค์กร แหล่งข่าวจากบริษัทเดอะมอลล์ กรุ๊ป ระบุว่า “ตระกูลศุภลักษณ์ผลิตทายาทสู่ธุรกิจไม่ทัน จึงต้องดึงมืออาชีพจากภายนอกเข้ามาช่วย” ไม่ว่าจะเป็นแมทธิว กิจโอธาน จากเครือไทยเบฟฯ, ทอม ฮูเซล จากอิเกีย, จักรกฤษณ์ กีรติโชคชัยกุล จากโซนี่ไทย เข้ามาร่วมงาน

นอกจากดึงมืออาชีพมาร่วมงาน อีกเหตุผลของความสำเร็จในธุรกิจค้าปลีกคือ การเลือก “ทำเล” ที่เป็น “เพชรน้ำเอก” เท่านั้น โดยทำเล 6 โปรเจคผ่านการคัดสรรมานานนับปี เช่น ที่ดินภูเก็ตใช้เวลา 3 ปีกว้านซื้อที่ดิน 150 ไร่, สุขุมวิท บางนา-ตราดใช้เวลา 2 ปี, สุขุมวิทใช้เวลา 5 ปี จนกระทั่งกินรวบตั้งแต่ต้นถนนสุขุมวิท ยาวถึงแยกบางนา ถึงขั้น “อากู๋ ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม” บิ๊กบอสแกรมมี่ ยกหูโทร.หาว่า “คุณแอ๊ว เดี๋ยวนี้ครองสุขุมวิทแล้วเหรอ” เธอหัวเราะ ก่อนเล่าต่ออีกว่า เมื่อครั้งก้าวลงถึงสนามบินภูเก็ต ได้ยินเสียงคนพูดว่า.. “เราไปซื้อที่ และนั่นทำให้เซ็นทรัลตามไปทันที” เธอเอ่ยถึงคู่แข่งในธุรกิจค้าปลีก

“หาพื้นที่ ทำเลที่เป็นเพชรเท่านั้น ถ้าเป็นพลอยเราไม่เลือก เพื่อให้การแข่งขันใหญ่จริงๆ” เธอย้ำโจทย์ธุรกิจ เงินทุนเรื่องใหญ่แต่มิใช่ปัญหาของเดอะมอลล์ เพราะวันนี้บริษัทมีเงินเหลือเยอะ! อัตราดอกเบี้ยก็ต่ำ ที่สำคัญนายแบงก์เข้ามาจีบทุกวัน และยังระดมทุนในช่องทางอื่นผ่านกองทุนอสังหาริมทรัพย์ (Property fund) ได้ด้วย

จึงไม่แปลกเมื่อสะสมทำเล “เพชร” ได้แล้ว จึงประกาศศักดากับภารกิจผุด 6 บิ๊กโปรเจค สอดคล้องกับเป้าหมายที่จะผลักดันรายได้ทะยานแตะ 1 แสนล้านบาท ใน 10 ปี จากปัจจุบันรายได้แตะระดับ 5 หมื่นล้าน

“เราจะต้องหาที่ดินเพื่อพัฒนาอีก 2-3 โครงการ จึงจะผลักดันรายได้ถึง 1 แสนล้านบาท”

แน่นอนว่า ทุกย่างก้าวจากนี้ไปจะไม่ใช่การ “ถอยหลัง” อย่างที่เธอบอก ..เมื่อสร้างชื่อให้เดอะมอลล์ เป็นค้าปลีกสัญชาติไทยที่ยืนตระหง่านให้ทั่วโลกประจักษ์แล้ว “ขั้นสุดท้าย” จะไปยังไงต่อ เธอพูดขึงขังว่าคงไม่ไปถึงจักรวาล แต่เรื่องอนาคตค่อยๆ คิด และปรับเปลี่ยนตามโจทย์ที่จะเผชิญในภายภาคหน้า

ทว่าไม่ว่าสองค้าปลีกยักษ์ จะแข่งขันกันอย่างไร

เซ็นทรัลก็คือเซ็นทรัล

เดอะมอลล์ก็คือเดอะมอลล์

------------------------------

ไม่รู้ใครตามใคร ...!!!

ชิงเปิดตัวโครงการ หายใจรดต้นคอ

จะเป็นความจงใจหรืออย่างไรสุดจะคาดเดา เมื่ออีกบิ๊กค้าปลีกของเมืองไทยอย่าง “เซ็นทรัล กรุ๊ป” เปิดตัวยิ่งใหญ่กับอภิมหาโปรเจค “เซ็นทรัลเอ็มบาสซี่” ในเวลาไล่เลี่ยกับเดอะมอลล์แบบหายใจรดต้นคอ โดยศุภลักษณ์เล่าติดตลกว่า...

"ไม่รู้ใครตามใคร"

เพราะเดิมเดอะมอลล์จะจัดงานในช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ. เช่นเดียวกับเครือเซ็นทรัล แต่ทั้งคู่ก็ใจตรงกันมาเลื่อนจัดงานเปิดตัววันที่ 6-7-8 พ.ค. ที่ผ่านมา

โดย “เซ็นทรัลเอ็มบาสซี่” ถือฤกษ์ดีตามคอนเซ็ปต์โครงการ “อินฟินิตี้” หรือเลข 8 ที่ความหมายดีคือ "ไม่มีวันสิ้นสุด" จึงเลือกใช้วันที่ 8 พ.ค.ทุ่มงบ 150 ล้านบาท เปิดโครงการลักชัวร์ รีเทล “แรก” ของเครือเซ็นทรัล เรียกว่าประกาศศักดาความยิ่งใหญ่อีกครั้งในรอบ 7 ปีเรื้อการลงทุน

ในงานเปิดตัวเซ็นทรัลเอ็มบาสซี่ ก็ไม่น้อยหน้า เพราะตั้งแต่ทางเข้างานมีบรรดาพนักงานมาสวัสดี ต้อนรับแขกผู้มีเกียรติ นักธุรกิจ เซเลบริตีฯ พร้อมดนตรีบรรเลงให้ฟังฉ่ำใจ

แน่นอนงานนี้ไม่พลาดที่คนในตระกูล “จิราธิวัฒน์” ยกโขยงมาร่วมงานแสดงศักยภาพครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ของกลุ่มเซ็นทรัล ไม่ว่าจะเป็น สุทธิธรรม, สุทธิชาติ, ทศ, วัลยา-จิราธิวัฒน์ และแขกคนสำคัญที่ตรงใจกับเดอะมอลล์อย่าง “สุวัจน์ ลิปตพัลลภ” อดีตรองนายกรัฐมนตรี, มารุต บูรณะเศรษฐกุล แม่ทัพโออิชิ,อากู๋ ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม แห่งแกรมมี่ เป็นต้น รวมทั้งผู้บริหารแบรนด์ดังระดับโลกอีกเพียบ!

เวลา 18.30 น. แขกสุดยอดวีไอพี 2,000 คน ตบเท้าเข้างาน พร้อมด้วยทัพสื่อมวลชน กระทั้ง 19.30 น. โดยประมาณ ฤกษ์ดีที่ “ชาติ จิราธิวัฒน์” ผู้กุมบังเหียนโครงการนี้เริ่มกล่าวสุนทรพจน์

อาจเพราะงานเต็มไปด้วยเซเรบริตี คนดังที่สนทนากันอื้ออึง ทำให้เสียงของ “แม่ทัพมือใหม่” ถูกกลบด้วยเสียงคนในงานจนแทบจะไม่ได้ยินคำกล่าว

ทว่า..นี่ถือเป็นจุดเริ่มต้นในการลับคม “ทายาทจิราธิวัฒน์” ราชาค้าปลีกเมืองไทย ในการต่อกรกับนางพญาค้าปลีกแห่งตระกูล อัมพุช

หงส์ จะชูคอเหนือ มังกร หรือ มังกรจะผงาดเหนือหงส์ ยังมีภาคต่อต้องติดตาม

--------------------------------------

เจ้าสัวเจริญ "ยาหอม"

แอ๊ว ถือเป็นคนเก่ง เป็นหญิงเก่ง

ในงานเปิดตัว 6 บิ๊กโปรเจคของเดอะมอลล์ กลายเป็นงานรวมพลของ "บิ๊กธุรกิจ" ทั่วฟ้าเมืองไทย แสดงให้เห็นถึง "สายสัมพันธ์" แน่นปึ่ก ระหว่าง "เจ้าของงาน กับ แขกที่มาร่วมงาน" อย่างไม่ต้องสงสัย

อาทิ การเดินทางมาของมังกรซ่อนกาย เศรษฐีแสนล้าน “เจริญ สิริวัฒนภักดี” ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มไทยเจริญคอร์ปอเรชั่น หรือทีซีซี กรุ๊ป ที่ควงลูกสาว ลูกชาย ลูกเขย และผู้ติดตามอีกมากมาย แม้เขาปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ถึงธุรกิจในเครือ แต่เมื่อถูกขอให้พูดถึง "ศุภลักษณ์" เจ้าสัวยิ้มก่อนพูดว่า..

“แอ๊ว (ศุภลักษณ์) ถือเป็นคนเก่ง เป็นหญิงเก่ง งานที่จัดขึ้นก็ช่วยยกระดับเศรษฐกิจไทยโดยรวม ที่สำคัญยังเป็นโครงการค้าปลีกที่ดีระดับโลก”

กรุงเทพธุรกิจ BizWeek ยังถามเจ้าสัวเจริญต่อว่า ...ทีซีซี กรุ๊ป สนใจจะรุกธุรกิจค้าปลีกหรือไม่ ? เจ้าตัวย้ำภาพราชันย์น้ำเมาว่า “ผมทำเครื่องดื่ม” ส่วนเทียบเชิญครั้งนี้ใช้เวลาตัดสินใจนานแค่ไหน เจ้าสัวยิ้มก่อนจะตอบว่า “ไม่นาน” พร้อมย้ำเหตุผลที่มางานว่า เพราะเป็นโครงการดี

ขณะที่ “ชาติศิริ โสภณพนิช” กรรมการผู้จัดการใหญ่ และกรรมการบริหารธนาคารกรุงเทพ กล่าวชมกับความสำเร็จและความก้าวหน้าของเดอะมอลล์กรุ๊ปตลอดระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมา รวมทั้งยกย่องในความคิดสร้างสรรค์ของผู้บริหาร ความทุ่มเทของทีมงานทุกคนๆ ในการพัฒนาธุรกิจค้าปลีกไทย

ด้าน “ภาณุ อิงคะวัต” เป็นผู้ร่วมก่อตั้งและผู้ถือหุ้นหลักของบริษัท เกรย์ฮาวด์ แบรนด์เสื้อผ้าและร้านอาหารสัญชาติไทย “เกรย์ฮาวด์” บอกว่า เดอะมอลล์สำหรับเขาเปรียบเป็นผู้ที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์พัฒนารูปแบบรีเทลได้ทุกยุคทุกสมัย ทุกครั้งที่เปิดโครงการใหม่ๆ จะบวกความคิดสร้างสรรค์กับประสบการณ์ด้านรีเทล ทำให้เกิดรีเทลที่มีผู้ซื้อผู้ขายมาเจอกัน พลิกโฉมวงการค้าปลีก

“สมชัย ส่งวัฒนา” ประธานบริหารและผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ บริษัท แอท แบงค็อก จำกัด เจ้าของแบรนด์ “ฟลายนาว” กล่าวว่า เดอะมอลล์ กรุ๊ป ถือเป็นผู้พลิกวงการค้าปลีก และสร้างมุมมองใหม่ๆ ตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัวเดอะมอลล์ เอ็มโพเรียม สยามพารากอน เป็นกระแสที่ทำให้คนในวงการแฟชั่นสนใจ ปลุกให้วงการค้าปลีกมีการตื่นตัวเสมอ เพราะการเปิดตัวแต่ละครั้งสร้างความยิ่งใหญ่ครั้งหนึ่งประวัติศาสตร์ค้าปลีก นั้นเพราะผู้บริหารมีความละเอียดอ่อน ลึกซึ้งเข้าใจ ทั้งลูกค้าและผู้บริโภค

"ดร.วิชิต สุรพงษ์ชัย” ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ บอกว่า เมื่อนึกถึงเดอะมอลล์ ก็ต้องนึกถึงดิ เอ็มโพเรียม และสยามพารากอน ผลงานที่น่าภูมิใจคนไทย เดอะมอลล์ กรุ๊ป ยังเดินหน้าอย่างสง่าผ่าเผยสร้างคุณค่ากับเศรษฐกิจไทย การสร้างประสบการณ์ใหม่ที่แตกต่างพิเศษกว่าคนอื่นเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องพยายามจะค้นหาให้เจอ การสร้างความหนาแน่นใครก็สร้างได้ทั้งนั้น แต่การสร้างชอปปิง เซ็นเตอร์ ที่เต็มไปด้วยความพิเศษมีคุณค่านั้นเดอะมอลล์ทำได้ดีเยี่ยม

“วิชา พูลวรลักษณ์” ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป กล่าวว่า เดอะมอลล์ กรุ๊ปถือเป็นผู้บุกเบิกในการทำออล อิน วัน เอ็นเตอร์เทนเมนท์ รีเทล มอลล์ ซึ่งมาตรฐานที่ทำเป็นระดับเวิลด์คลาส ทุกครั้งที่ทำโครงการจะมีความพิเศษ รูปแบบใหม่ ตื่นเต้นและทำให้อยากเห็นโครงการใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา

ขณะที่ “นวลพรรณ ล่ำซำ” บริษัท วรรณมานี จำกัด และบริษัท ซังออนอเร่ (กรุงเทพ) จำกัด ผู้นำเข้าแบรนด์หรู “Hermes” “Empolio” และ“TODS Rodo” บอกว่า รู้จักเดอะมอลล์มานานหลายสิบปี และดำเนินธุรกิจร่วมกันราบรื่นตลอด เธอเริ่มต้นลงทุนกับเดอะมอลล์ตั้งแต่ปี 2540 โดยนำเข้า “Hermes” ที่ถือเป็นการตัดสินใจถูกต้องอย่างยิ่ง ที่เข้าไปเปิดช็อปในดิ เอ็มโพเรียม