ไอ.ซี.ซี.ชี้การเมืองฉุดยอดวาโก้ร่วง12%

ไอ.ซี.ซี.ชี้การเมืองฉุดยอดวาโก้ร่วง12%

ไอ.ซี.ซี.ชี้การเมืองฉุดตลาดรุนแรง 4 เดือน ยอดขายวาโก้ร่วง 12% เดินหน้าผนึกโคลเซ็ทส่งคอลเลคชั่นใหม่ หวังดันเป้ายอดขายสิ้นปี 3 พันล้าน

นายธรรมรัตน์ โชควัฒนา กรรมการผู้ช่วยผู้อำนวยการ บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ผู้จัดจำหน่ายชุดชั้นในวาโก้เปิดเผยว่า สถานการณ์ทางการเมืองแม้จะเป็นปัจจัยลบระยะสั้นแต่มีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจที่รุนแรง เมื่อเทียบกับปัญหาหนี้ครัวเรือน และราคาพืชผลทางเกษตรที่ตกต่ำ ที่เป็นปัจจัยลบระยะยาวแต่กระทบน้อย

โดยช่วง 2 เดือนแรกปีนี้ตลาดวาโก้ได้รับผลกระทบจากปัจจัยดังกล่าวทำให้ยอดขายติดลบ 20% โดยเฉพาะยอดขายจากสาขาในพื้นที่ชุมนุมทั้งสยามพารากอน และเซ็นทรัลเวิลด์ ที่ลดลง 50% แม้ว่าจะเริ่มมีสัญญาณบวกในช่วงปลาย มี.ค. ก็ตาม แต่ทำให้ 4 เดือนแรกมียอดขาย 700-800 ล้านบาท ลดลง 12% เทียบกับช่วงเดียวกันที่มียอดขาย 1,000 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นสัดส่วนการถดถอยสูงสุดนับตั้งแต่ทำตลาด 44 ปี

ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายวาโก้ปีนี้ 3,300 ล้านบาท เติบโต 10% โดยคิดเป็นสัดส่วนรายได้ 25% ของกลุ่มไอ.ซี.ซี. ซึ่งรายได้มาจากสินค้าผู้ใหญ่ 60% และเด็กและวัยรุ่น 30-40%

ขณะที่ภาพรวมตลาดชุดชั้นในช่วงเดียวกันติดลบ 10-15% แต่เชื่อว่าตลาดทั้งปีน่าจะมีการเติบโตไม่ถึง 10% หรือประมาณ 5% มาจากการเข้ามาของแบรนด์ใหม่ๆ รวมถึงการพัฒนาสินค้าให้มีความหลากหลายของแบรนด์ที่มีอยู่ในตลาดทั้งระดับแมสและพรีเมียม ขณะที่กลุ่มตลาดล่างที่นำเข้าจากประเทศจีน หรือระดับราคา 100 บาท ถือเป็นกลุ่มที่มีการเติบโตสูงสุด

ส่วนแผนการทำตลาดปีนี้ได้ร่วมมือกับโคลเซ็ทจัดทำชุดชั้นในและชุดว่ายน้ำ คอลเลคชั่นใหม่ โคลเซ็ท เอ๊กซ์ วาโก้ มู้ด จำนวน 15 แบบ แบ่งเป็นชุดชั้นใน 12 แบบ ราคาต่อชุด 1,350-1,650 บาท และชุดว่ายน้ำ ราคา 2,600-2,800 บาท ซึ่งจะทำเพียง 4 เดือน เริ่มตั้งแต่ พ.ค. นี้เป็นต้นไป ตั้งเป้ายอดขาย 2 หมื่นชิ้น หรือ 30 ล้านบาท ซึ่งการออกสินค้าใหม่ๆ จะสามารถผลักดันยอดขายเพิ่มขึ้นอีก 2-3%

นอกจากนี้ยังเตรียมเปิดช็อปในศูนย์การค้าอีออน มอลล์ ที่ประเทศกัมพูชา จากปัจจุบันได้สิทธิ์ทำตลาดใน 3 ประเทศ คือ พม่า ลาว และกัมพูชา โดยร่วมมือกับคู่ค้าในประเทศต่างๆ ขณะที่ตลาดในประเทศยังคงเดินหน้าเปิดช็อปวาโก้อย่างต่อเนื่อง เบื้องต้นตั้งเป้าว่าจะเปิดประมาณ 10 แห่งในปีนี้ นอกจากนี้ จะเน้นการขยายฐานลูกค้าให้เด็กลง หรืออายุ 20 ปีขึ้นไปทั้งนักศึกษาและนักศึกษาพึ่งจบใหม่ จากเดิมที่จับกลุ่มอายุ 35 ปีขึ้นไป