สนุกกลางแจ้งท้าแดดจ้า

สนุกกลางแจ้งท้าแดดจ้า

การดูแลผิวเมื่อต้องออกแดดเป็นสิ่งจำเป็น เพราะหากละเลยมะเร็งผิวหนังอาจถามหาไม่รู้ตัว

ไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ นอกจากจะทุ่มเทให้กับการทำงานแล้ว การมีเวลาทำกิจกรรมที่ตัวเองชื่นชอบก็สำคัญไม่แพ้กัน โดยเฉพาะหนุ่มสาวยุคใหม่ดูจะชื่นชอบกีฬากลางแจ้งมากเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นฟุตบอลที่ฮิตติดลมบนมาแต่ไหนแต่ไร บาสเก็ตบอล วอลเลย์บอล เรื่อยไปจนถึงกีฬาทางน้ำ ทั้งว่ายน้ำ ดำน้ำ และกีฬาที่ค่อนข้างผาดโผนอย่าง เซิร์ฟบอร์ด เวคบอร์ด เจ็ทสกี ฯลฯ

นพ. วรพล สุขีวัฒนา แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณ บอกว่า อันตรายจากแสงแดดมีอยู่ด้วยกันสองอย่าง คือรังสี UVB และ UVA จำง่ายๆ ว่า B ก็คือ Burn ซึ่งเป็นตัวการที่ทำให้ผิวไหม้ โดยมีผลกับผิวหนังชั้นตื้น ส่วน A คือ Aging เป็นตัวการทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่นและแก่ก่อนวัย

นอกจากจะเป็นตัวการทำร้ายผิวสวยแล้ว หากปล่อยให้ผิวถูกแสงแดดทำร้ายไปเรื่อยๆ จนถึงจุดหนึ่งก็จะทำให้เกิดโรคได้ ขั้นแรกเลยคือภาวะก่อนมะเร็งผิวหนัง ซึ่งถ้าหากปล่อยให้โดนแดดต่อเนื่องไปอีกก็มีโอกาสพัฒนาเป็นมะเร็งได้ถึงสามชนิดด้วยกัน

โดยสองชนิดแรกเป็นมะเร็งที่เกิดบริเวณผิวหนัง ในขณะที่ชนิดสุดท้ายสามารถลามไปยังอวัยวะต่างๆ ได้ และเป็นชนิดที่มีอัตราการตายสูง ดังนั้นการป้องกันแสงแดดจึงไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อความสวยงามเท่านั้น แต่ยังหมายรวมไปถึงการป้องกันโรคด้วย

ม.ล. รังษิอาภา ภาณุพันธ์ เล่าถึงประสบการณ์การปกป้องผิวสวยว่า เลือกปกป้องผิวจากแสงแดดเพราะที่บ้านปลูกฝังมาตั้งแต่เล็กๆ แต่ปัญหาคือครีมกันแดดทั่วไปมักจะเปื้อนเสื้อผ้า โดยเฉพาะถ้าเป็นสีเนื้อก็ยิ่งเห็นชัด ตนจึงเลือกครีมกันแดดที่ไม่มีสี โดยเฉพาะสเปรย์กันแดดเพราะไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่เลอะ ใช้ง่าย ที่สำคัญคือต้องซึมซาบเร็ว และสะดวกต่อการพกพา

ด้านม.ล. รังษิธร ภาณุพันธ์ นั้นโปรดปรานกีฬาฟุตบอลเป็นพิเศษ แต่แอบสารภาพว่าสมัยเป็นวัยรุ่นไม่เคยใส่ใจเรื่องการดูแลผิวเลย และถึงตอนนี้รู้สึกได้เลยว่าผิวของตัวเองต้องการการปกป้องมากขึ้น

ด้วยวัย ปัญหามลภาวะ และแสงแดดที่แรงขึ้น ส่วนคุณสมบัติของครีมกันแดดที่หนุ่มโก้มองหาก็คือต้องไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึมสู่ผิวได้รวดเร็ว และเมื่อทาแล้วให้การปกป้องทันที ซึ่งผลิตภัณฑ์กันแดดที่ตอบโจทย์ที่สุดก็เห็นจะเป็นผลิตภัณฑ์กันแดดในรูปแบบสเปรย์นั่นเอง

สำหรับวิธีการปกป้องผิวจากแสงแดดนั้น แพทย์ผิวหนังบอกว่า คนที่ชอบเล่นกีฬาหรือทำกิจกรรมกลางแจ้งควรเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50 ขึ้นไป และมีค่า PA+++ ส่วนผู้ที่เล่นกีฬาทางน้ำก็ควรใช้ครีมกันแดดประเภท Water Resistant หรือ Very Water Resistant ซึ่งมีสารที่ทำให้เนื้อครีมติดกับผิวได้นานกว่า และไม่ถูกน้ำชะล้างง่าย แต่ยังไงเวลาลงน้ำเนื้อครีมก็ต้องโดนน้ำชะไปบ้างอยู่ดี เพราะฉะนั้นทุกครั้งที่ขึ้นจากน้ำจึงควรทาครีมกันแดดซ้ำอีกรอบ

ในงานวิจัยบอกว่าคนส่วนใหญ่ทาครีมกันแดดบางเกินไป ทำให้ค่า SPF ที่ได้ไม่ถึงหน้าฉลากที่บอก ดังนั้นการทาครีมกันแดดในปริมาณที่เหมาะสมจึงควรทาเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าของปริมาณปกติ และทาซ้ำทุกๆ 2-3 ชั่วโมง เพื่อให้ได้ค่า SPF เท่าเดิม เนื่องจากครีมกันแดดอาจถูกเหงื่อและน้ำชะล้างออกไป สำหรับคนที่ไม่ได้ทำกิจกรรมกลางแจ้งก็ควรต้องใช้ครีมกันแดดอยู่ดี แต่อาจไม่ต้องใช้ค่า SPF สูงนัก แค่ 15-30 ก็พอ

อีกเรื่องสำคัญเกี่ยวกับการปกป้องผิวจากแสงแดดที่น้อยคนรู้ ก็คือเรื่องของ Life-Time Sun Exposure Limit หรือขีดจำกัดที่แต่ละคนสามารถรับปริมาณแสงแดดได้ตลอดช่วงชีวิตหนึ่งๆ เพราะผิวของคนเราจะสะสมปริมาณการโดนแดดทุกครั้งนับตั้งแต่วันแรกที่เกิดมา

จำนวนครั้งที่ผิวไหม้จากแดดเมื่อครั้งยังเด็กสัมพันธ์กับอัตราการเกิดมะเร็งผิวหนังเมื่อเป็นผู้ใหญ่ หลายคนอาจคิดว่าการตากแดดขณะอายุยังน้อยนั้นไม่มีอันตรายอะไร แต่ที่จริงแล้วการปกป้องผิวจากแสงแดดอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งจำเป็น

นพ.วรพล กล่าวอีกว่า ที่จริงแล้ว ขีดจำกัดในการรับแสงแดดของคนไทยกับฝรั่งไม่ได้แตกต่างกัน แต่คนไทยมีผิวเข้มกว่า มีเมลานินหรือเม็ดสีผิวเยอะกว่า ผิวจึงปกป้องตัวเองได้มากกกว่า ในขณะที่ผิวของฝรั่งนั้นมีเมลานินน้อยกว่า จึงเซนซิทีฟมากกว่า เมื่อโดนแดดจะเกิดอาการไหม้และเหี่ยวย่นง่าย ดังนั้นจึงมีโอกาสที่จะเกิดโรคจากแสงแดดได้มากกว่าคนไทยด้วย

แต่รู้อย่างนี้แล้วอย่าเพิ่งชะล่าใจไป เพราะแม้แต่คนไทยหรือคนเอเชียก็ควรปกป้องผิวจากแสงแดดเป็นประจำทุกวัน ซึ่งครีมกันแดดที่ดีนั้นควรมีคุณสมบัติดังนี้

1.ป้องกันได้ทั้งรังสี UVB และ UVA

2.มีค่า SPF สูง พอที่จะปกป้องผิวจากแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3.ไม่เหนียวเหนอะหนะ สามารถใช้ได้เป็นประจำทุกวัน

นอกเหนือจากคุณสมบัติทั้งสามประการ เทคโนโลยีใหม่ๆ ยังช่วยให้ผลิตภัณฑ์กันแดดสมัยนี้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และมีตัวเลือกใหม่ๆ ที่ตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค ซันสเปรย์ หรือผลิตภัณฑ์กันแดดในรูปแบบสเปรย์ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ฉีดแล้วให้การปกป้องกันผิวในทันที สามารถออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้งได้เลย โดยไม่ต้องรอให้เนื้อครีมซึมเข้าผิวเหมือนครีมกันแดดรุ่นก่อนๆ

นอกจากนี้ยังมีนวัตกรรมใหม่ๆ อย่าง นีเวีย ซัน โพรเทค & รีเฟรช อินวิซิเบิ้ล คูลลิ่ง มิสต์ ที่ฉีดแล้วให้ความรู้สึกเย็นสดชื่นในทันทีด้วยส่วนผสมของเมนทอล อีกทั้งให้สัมผัสเบาสบาย ไม่เหนียวเหนอะหนะ และไม่ทิ้งคราบขาว ปกป้องผิวจากแสงแดดอย่างมีประสิทธิภาพด้วยสูตรเอสพีเอฟ 50 และสูตรวอเตอร์ รีซิสแทนต์ และยังใช้งานง่ายด้วยหัวสเปรย์ 360 ที่สามารถฉีดได้ทั่วเรือนร่างแม้ในบริเวณที่ทาไม่ถึง ซึ่งก็ยิ่งเพิ่มลูกเล่นและความน่าใช้ให้กับผลิตภัณฑ์กันแดดจนชวนให้หยิบมาใช้ได้ทุกวัน