ประกาศอ่าวพร้าวเป็นพื้นที่ภัยพิบัติทางทะเล

ประกาศอ่าวพร้าวเป็นพื้นที่ภัยพิบัติทางทะเล

ผู้ว่าระยองประกาศอ่าวพร้าวเป็นพื้นที่ภัยพิบัติทางทะเล หลังคราบน้ำมันทะลักเต็มหาด

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีท่อรับน้ำมันดิบกลางทะเลของบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด(มหาชน) เกิดรั่วไหลน้ำมันดิบไหลลงทะเลจำนวน 50,000 ลิตร เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม ที่ผ่านมา กระแสคลื่นลมทะเลได้พัดคราบน้ำมันเข้ามายังบริเวณเกาะเสม็ด จังหวัดระยอง เมื่อช่วงคืนที่ผ่านมา

ล่าสุดนายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง พร้อมด้วย นายภุชงค์ สฤษฎีชัยกุล ผอ.ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 เดินทางลงเรือข้ามเกาะเสม็ดไปยังอ่าวพร้าว หมู่ 4 ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง หลังจากเมื่อช่วงคืนที่ผ่านมากลุ่มคราบน้ำมันดิบได้ทะลักเข้าชายหาดบริเวณอ่าวพร้าวที่มีความยาวประมาณ 600 เมตร และห่างจากฝั่งประมาณ 20 เมตรคราบน้ำมันมีความหนาประมาณ 20-30 ซม.ห่างออกไปในทะเลประมาณ 200 เมตร คราบน้ำมันจะเป็นลักษณะสีดำหนา และห่างออกไปในทะเลจะเป็นลักษณะคล้ายแผ่นฟิล์มบางๆ

นายวิชิต กล่าวว่า ได้ประกาศพื้นที่บริเวณอ่าวพร้าวเป็นพื้นที่ภัยพิบัติทางทะเล และขั้นแรกจะต้องป้องกันไม่ให้คราบน้ำมันกระจายไปยังชายหาดอื่นที่อยู่ใกล้เคียง พร้อมกับสั่งการให้ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดระยอง ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 องค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)เพ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้าหมู่เกาะเสม็ด พร้อมกับประสานไปยังหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน กองทัพเรือ ขอกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร 100 นาย มาช่วยเหลือดำเนินการจัดเก็บคราบน้ำมันโดยด่วน และคาดว่าต้องใช้เวลามากกว่า 15 วัน ในการเก็บกู้คราบน้ำมันและฟื้นฟูชายหาดให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้

นายพรเทพ บุตรนิพันธ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทพีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณอ่าวพร้าวที่น้ำมันทะลักเข้าชายหาดในครั้งนี้ด้วย พร้อมจัดเจ้าหน้าที่นำแผ่นซับคราบน้ำมันมาเก็บคราบน้ำมันทั่วชายหาด นอกจากนี้บริษัทฯใช้เรือฉีดพ่นสารเคมีสลายคราบน้ำมัน พร้อมกับนำบูมยางมากั้นในวงจำกัด เพื่อไม่ให้คราบน้ำมันหลุดออกไปยังอ่าวบ้านเพ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่านักท่องเที่ยวจำนวนมากที่พักอยู่ตามโรงแรมบริเวณอ่าวพร้าวได้เช็คเอ๊าท์ออกจากที่พักและเดินทางออกก่อนกำหนดเพราะมีกลิ่นเหม็นของน้ำมันไปทั่วบริเวณ และไม่สามารถลงเล่นน้ำทะเลได้