'โตโยต้า'ปรับทีมบริหารผลักดัน2โปรเจคใหญ่

'โตโยต้า'ปรับทีมบริหารผลักดัน2โปรเจคใหญ่

"โตโยต้ามอเตอร์"ปรับทีมงานบริหารระดับสูง ดึง"วุฒิกร"รองเอ็มดีอาวุโส หวนคืนสายงานการตลาดรอบใหม่

"โตโยต้ามอเตอร์"ปรับทีมงานบริหารระดับสูง ดึง"วุฒิกร"รองเอ็มดีอาวุโส หวนคืนสายงานการตลาดรอบใหม่ หลังคุมภารกิจฉลอง 50 ปีแล้วเสร็จ หวังพลิกฟื้นสถานการณ์ตลาดรถชะลอตัว พร้อมดัน"นิกร"ดูสายงานผลิตภัณฑ์เต็มตัว รุกหนักอีโคคาร์

แหล่งข่าวในวงการรถยนต์ เปิดเผยว่า ล่าสุดบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ผู้นำตลาดรถยนต์เมืองไทย ได้มีการปรับสายงานรับผิดชอบ สำหรับผู้บริหารระดับสูงคนไทย โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 56 เป็นต้นไป ซึ่งการปรับงานครั้งนี้ ถือเป็นการเกลี่ยงาน เพื่อรองรับการทิศทางของตลาดรถยนต์ในอนาคต โดยเป็นการเกลี่ยสายงานหลักที่ต้องให้ความสำคัญ และเป็นกุญแจสำหรับอนาคตของโตโยต้า คือ สายการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และสายการวางแผนการตลาด

โดยการปรับสายงานการตลาดเดิมซึ่งมี นายนิกร ประเสริฐสม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ รับผิดชอบฝ่ายวางแผนและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์ ฝ่ายวางแผนการขาย ฝ่ายบริหารการตลาดดูแลด้านฝ่ายวางแผนการตลาดฝ่ายส่งเสริมการตลาด ปรับเปลี่ยนมาให้รับมอบหมายดูแลเฉพาะ งานผลิตภัณฑ์ ซึ่งประกอบไปด้วยฝ่ายวางแผนและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์

ในขณะงานการตลาด ซึ่งประกอบไปด้วยงาน งานวางแผนการขาย ฝ่ายบริหารการตลาด ฝ่ายวางแผนการตลาด ฝ่ายส่งเสริมการตลาด ได้โยกมาให้ นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส เป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งเดิมนั้นนาย วุฒิกร จะรับผิดชอบเฉพาะนโยบายด้านการบริหาร การพัฒนาบุคลากรของบริษัท ภารกิจโครงการฉลอง 50 ปีของบริษัท ฝ่ายวางแผนองค์การ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ฝ่ายส่งเสริมกิจกรรมสังคม ฝ่ายรัฐกิจสัมพันธ์ ฝ่ายบริหารองค์กร

การปรับครั้งนี้ นายวุฒิกร ถือว่าเข้ามารับผิดชอบการตลาดของโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทยเป็นวาระที่สอง หลังจากเคยรับผิดชอบครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2553 ทั้งนี้ในวาระใหม่ ได้เพิ่มงานการตลาด แต่ได้โอนงานฝ่ายทรัพยากรบุคคล ฝ่ายพัฒนาทรัพยากรบุคคล(HR) และสถาบันโตโยต้า ไปให้นายศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อต้นปี 2556 นายศุภรัตน์ ได้โอนย้ายจาก ตำแหน่งผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ เอเชีย แปซิฟิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด เข้ามารับตำแหน่ง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ดูแลรับผิดชอบในส่วนงานการพัฒนาผลิตภัณฑ์ งานรัฐกิจสัมพันธ์ รวมถึงงานส่งเสริมกิจกรรมเพื่อสังคม

ฟื้นตลาด-ดันอีโคคาร์-ไฮลักซ์สู่ตลาดโลก

ทั้งนี้ โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย มีแผนงานสำคัญ 2 แผนงาน ที่เป็นการแนะนำรถยนต์ระดับโลก คือการแนะนำรถยนต์ ในโครงการอีโค คาร์ ซึ่งใช้เงินลงทุนประมาณ 4,600 ล้านบาท เพื่อผลิตรถอีโค คาร์ เครื่องยนต์และชิ้นส่วน ในนิคมอุตสาหกรรมเกตเวย์ซิตี้ 2 จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งจะผลิตรถ 1 แสนคันใน 5 ปีตามเงื่อนไขของบีโอไอ เพื่อขายในประเทศ 50% และส่งออกอีก 50% ไปยังอาเซียนและโอเซียเนีย

โดยโตโยต้าวางแผนจะแนะนำรถ อีโคคาร์ ในเร็วๆ นี้ และจะ ผลิตในปีแรก จำนวน 75,000 คัน เพื่อจำหน่ายในประเทศ 42,000 คัน ส่งออกเป็น (CBU) 33,000 คัน ก่อนจะเพิ่มการผลิตเป็น 100,000 คัน ในช่วงปี 2559 - 2562 สำหรับสถานการณ์ของ ตลาดรถเก๋ง ถือว่าอยู่ในช่วงปรับตัว เนื่องจากการเร่งซื้อล่วงหน้าของผู้บริโภคจากนโยบายรถคันแรก จนตลาดปั่นป่วน และส่งผลต่อการคาดการณ์ปริมาณตลาดต่อค่ายรถทุกค่ายไม่เว้นโตโยต้า ซึ่งดีมานด์ที่ถูกใช้ไปช่วงก่อนหน้านี้ ทำให้ปริมาณคนสั่งซื้อรถใหม่ในปีนี้น้อยลง ซึ่งการแนะนำรถเก๋งรุ่นใหม่ จะทำได้ยากลำบากยิ่งขึ้น

สำหรับโตโยต้าอีโคคาร์ เป็นที่คาดการณ์กันว่า โตโยต้า จะพัฒนาตัวถังรถเก๋งแบบ 5 ประตู โดยตัวรถจะมีขนาดใหญ่กว่า อีโค คาร์ คู่แข่งที่ออกสู่ตลาดมาก่อนหน้านี้ ทั้ง นิสสัน มาร์ช มิตซูบิชิ มิราจ ฮอนด้า บริโอ้ ยกเว้นซูซูกิ สวิฟท์ ที่จะมีขนาดตัวถังใกล้เคียงกัน เนื่องจากโตโยต้า พัฒนารถขึ้นจากแพลทฟอร์ม ของรถซับคอมแพคแบบ 5 ประตู

เช่นเดียวกันโครงการใหม่ของโตโยต้า ที่เตรียมส่งรถเข้าตลาดในปลายปีนี้ คือ โครงการพัฒนากระบะระดับโลก ในโครงการไอเอ็มวี 2 หรือ โตโยต้า นิวไฮลักซ์ วีโก้ กระบะโฉมใหม่ ที่มาทดแทน วีโก้โฉมปัจจุบัน ตลาดมีการแข่งขันรุนแรง ไม่แตกต่างไปจากรถเก๋ง และในตลาดมีการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่แข็งแกร่งไม่ว่าจากฟอร์ด มาสด้า เชฟโรเลตและอีซูซุ ซึ่งขณะนี้โตโยต้า ได้พัฒนากระบะเครื่องยนต์ใหม่ โดยใช้เครื่องยนต์ 2.8 ลิตรดีเซลทดแทนเครื่อง 3.0 คอมมอนเรล ในขณะที่ขนาดตัวถังรถขยายให้มีขนาดใหญ่ เหมือนรถ 1 ตันครึ่ง ซึ่งกระบะวีโก้ จะดำเนินกลยุทธ์ระดับโลก ด้วยการใช้ไทยเป็นฐานการผลิตและส่งออกไปยังตลาดต่างๆ ทั่วโลก