'พีเอสไอ'ส่งช่อง6ลงตลาด'จาน-ทีวีดิจิทัล'

นายสมพร ธีระโรจนพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีเอสไอ โฮลดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่าหลังจากปลายปีก่อนได้ร่วมทุนกับ บริษัทเวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) จัดตั้งบริษัทฟรีไซซ์ บรอดแคสติ้ง จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท ถือหุ้นสัดส่วน 50% เท่ากัน เพื่อลงทุนในธุรกิจช่อง"ทีวีดาวเทียม" โดยวันที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมาได้ทดลองออกอากาศทีวีดาวเทียมช่องแรก คือ "ช่อง6" สถานีโทรทัศน์ครอบครัว "รอบรู้ดูสนุก" และเตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนเม.ย.นี้

สำหรับช่อง 6 ใช้งบลงทุนราว 100 ล้านบาท นำเสนอคอนเทนท์สำหรับครอบครับและเยาวชนรูปแบบเอ็ดดูเทนเม้นต์ ซึ่งมีช่องว่างในการทำตลาด ช่วงแรกเป็นคอนเทนท์นำเข้าจากต่างประเทศ 70% ทั้งจากญี่ปุ่น ยุโรป และผลิตเองโดยทีมเวิร์คพอยท์ 30%

ส่วนกลยุทธ์การทำตลาดจะขายแพ็คเกจโฆษณาในช่องพร้อมการจัดกิจกรรมให้ลูกค้า ในรูปแบบ "ออน แอร์และออน กราวน์" เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายครอบคลุมทุกช่องทาง จากการแนะนำช่อง6 ให้กับลูกค้าและเอเยนซี ได้รับความสนใจซื้อแพ็คเกจระยะยาวจำนวนมาก เนื่องจากอัตราการใช้งบประมาณผ่านช่องทีวีดาวเทียมมีราคาไม่สูง ทำให้ลูกค้ามีการจัดสรรงบประมาณจากฟรีทีวี มาใช้ในทีวีดาวเทียมจำนวนมาก โดยช่อง 6 วางเป้าหมายปีแรกทำรายได้คุ้มทุน หรือกว่า 100 ล้านบาท และอาจเห็นตัวเลขกำไรในปีแรก

ด้านกลยุทธ์สร้างการรับรู้ในการเปิดตัวช่อง6 ที่จะเปิดตัวในวันที่ 1 เม.ย.นี้ ผ่านแพลตฟอร์มกล่องรับสัญญาณซีแบนด์ พีเอสไอ และเคยูแบนด์ พีเอสไอ โอเค ที่มีอยู่ในตลาดจำนวน 14 ล้านกล่อง คือการใช้ซอฟท์แวร์กำหนดให้ทุกครั้งที่เปิดเครื่องโทรทัศน์ที่รับชมผ่านกล่องพีเอสไอ อยู่ที่ช่อง 6 จากเดิมจะเป็นช่อง 0 เพื่อให้ผู้ชมได้มีโอกาสเห็นช่อง6 เป็นช่องแรก

"เชื่อว่าจากฐานแพลตฟอร์มกล่องรับสัญญาณดาวเทียมขนาดใหญ่ของพีเอสไอ จะทำให้ช่อง 6 เป็นที่รู้จักในฐานผู้ชมโดยเร็ว" นายสมพร กล่าว

อย่างไรก็ตามพีเอสไอและเวิร์คพอยท์ ได้วางแผนจะใช้บริษัทฟรีไซซ์ เข้าประมูลทีวีดิจิทัล ประเภทช่องเด็ก โดยเตรียมงบประมาณไว้ราว 1,000 ล้านบาท หากชนะการประมูลจะนำช่อง 6 ไปออกอากาศในช่องทีวีดิจิทัล พร้อมทั้งขยายการรับชมผ่านช่องทางไอพีทีวี เพื่อให้ช่อง6 เข้าถึงฐานผู้ชมได้ในทุกแพลตฟอร์ม

ทั้งนี้ ตามเป้าหมายของบริษัทร่วมทุนฟรีไซซ์ จะลงทุนเปิดช่องทีวีดาวเทียมในปีนี้ 3 ช่อง โดยในเดือนก.ย.นี้จะเปิดตัวช่องที่สอง นำเสนอคอนเทนท์สำหรับผู้ชาย ซึ่งสามารถใช้เป็นช่องทางการประชาสัมพันธ์สินค้าสำหรับผู้ชาย หลายประเภทที่มีข้อจำกัด ไม่สามารถใช้พื้นที่โฆษณาทางฟรีทีวีได้ และช่องที่สาม จะเปิดตัวช่วงปลายปี อยู่ระหว่างการสรุปคอนเทนท์รายการ

ปัจจุบันรายได้หลักของพีเอสไอ จะมาจากธุรกิจฮาร์ดแวร์กว่า 70% จากการผลิตและจัดจำหน่ายชุดอุปกรณ์จานและกล่องรับสัญญาณดาวเทียมพีเอสไอ ทั้งระบบซีแบนด์และเคยูแบนด์ และอีก30% มาจากธุรกิจซอฟท์แวร์และคอนเทนท์ การให้บริการรับและส่งสัญญาณดาวเทียมทั้งระบบซีแบนด์และเคยูแบนด์ให้กับช่องทีวีดาวเทียมต่างๆ อย่างไรก็ตามนับจากปีนี้เป็นต้นไปรายได้จากฝั่งซอฟท์แวร์และคอนเทนท์จะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 40% จากการขยายบริการรับและส่งสัญญาณช่องทีวีดาวเทียม และการดำเนินธุรกิจของฟรีไซซ์ โดยปีนี้ตั้งเป้าหมายรายได้ 3,500 ล้านบาท