มาตรการฆ่ากระบี่

ผมเอารายชื่อมาจากเพจของส่วนประชาสัมพันธ์กรมอุทยานฯมาให้ดูกัน ซึ่งที่เขียนว่า cc ต่อท้ายชื่อด้านหลังคือจำนวนคนเข้าไปใช้บริการในช่วงเวลาหนึ่งหรือการจำกัดจำนวนคน ซึ่งต่อไปนักท่องเที่ยวจะต้องเรียนรู้ถึงกฎกติกาใหม่ในการเข้าไปใช้บริการ ซึ่งรายชื่อเหล่านี้เป็นรายชื่อเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 63

ซึ่งในการเปิดให้บริการในครั้งนี้ จะมีมาตรการเข้มข้นขึ้นในการให้บริการเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด-19 เช่น ต้องดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นไทยชนะมาไว้เพื่อแจ้งการเข้าใช้พื้นที่ เพื่อการตรวจเช็คตามตัว มีการตรวจคัดครอง มีการทำความสะอาดห้องน้ำบ่อยขึ้น มีการเว้นระยะห่างในแหล่งท่องเที่ยวที่มีการชุมนุมกันมากๆ เช่น จุดดูพระอาทิตย์ขึ้นหรือตก ซึ่งจะเป็นช่วงเวลาที่คนไปออกัน ในอุทยานแห่งชาติที่มีร้านอาหารให้บริการ ต้องมีการเว้นระยะห่าง ฯลฯ ซึ่งแน่นอนว่าในช่วงแรก อาจจะมีการขลุกขลัก ไม่สะดวก ไม่ชินกับกฎกติกาใหม่ๆ บ้าง แต่ให้อดทนไปสักระยะ เข้าใจว่าเมื่อมีวัคซีนเข้ามาใช้แล้ว มาตรการต่างๆ คงจะผ่อนคลายลง

เรื่องที่ผมอยากจะบอกกล่าวคือการปิดอุทยานฯ ซึ่งที่ผ่านมา เราเข้าใจว่า เขาปิดอุทยานฯเพื่อให้คนอยู่กับบ้าน ไม่ออกไปมีกิจกรรมที่อื่น แม้กระทั่งไปตามอุทยานแห่งชาติก็ตาม เมื่อสถานการณ์เริ่มผ่อนคลายก็มีการเปิดให้ท่องเที่ยวได้ โดยมีการจัดแบ่งเป็นสามกลุ่มดังกล่าว แต่ที่ผมค่อนข้างจะติดใจและสงสัยอย่างมากคือกลุ่มที่ยังให้ปิดอยู่ จำนวน 28 แห่งที่ดูแล้วผมว่าออกจะแปลกๆ และชวนสงสัยว่าทางกรมอุทยานฯเอาหลักเกณฑ์อะไรมาพิจารณา

ในบรรดาอุทยานแห่งชาติที่ยังคงให้ปิด ซึ่งเป็นอุทยานฯที่เขาปิดตามฤดูกาลคือปิดในช่วงมรสุมหรือปิดประจำปีอยู่แล้ว เช่น อช.หมู่เกาะสุรินทร์ อช.สิมิลัน อช.ตะรุเตา อช.ภูกระดึง ซึ่งนักท่องเที่ยวเข้าใจอยู่แล้ว นอกนั้นสงสัยมากกว่า ปิดทำไม เช่น อช.ภูเวียง อช.ลานสาง อช.ออบขาน อช.น้ำตกชีโป อช.ภูสวนทราย อช.ศรีพังงา อช.ทะเลบัน อช.น้ำตกบัวตอง-น้ำพุเจ็ดสี อช.ศรีลานนา อช.เขาปู่-เขาย่า อช.แม่วาง อช.แม่โถ อช.ผาแดง อช.ขุนชาน อช.สาละวิน หรือแม้กระทั่ง อช.อินทนนน์ อุทยานแห่งชาติเหล่านี้เป็นอุทยานฯทางบกแหล่งท่องเที่ยวมีไม่มาก อย่างอุทยานฯผาแดง คนก็ไปเที่ยวแค่น้ำตกศรีสังวาลย์ อช.ดอยเวียงผา คนก็ไปแต่น้ำตกทรายขาว อช.เขาปู่-เขาย่า คนเขาก็ไปไม่กี่แห่ง อุทยานฯศรีพังงาคนก็ไปแค่น้ำตกตำหนัง ไม่ได้ไปกระจัดกระจาย

บางอุทยานฯ เช่น อินทนนท์ ในส่วนพื้นที่ที่เปราะบาง อย่างเช่น เส้นทางเดินกิ่วแม่ปาน ในฤดูฝนอุทยานฯก็ปิดของเขาอยู่แล้ว แต่บรรดาน้ำตกต่างๆ ควรจะเปิดไว้ ถ้ามีน้ำป่ามาทางอุทยานฯก็ประกาศปิดได้ชั่วคราวในทุกๆ ครั้งอยู่แล้ว

ควรจะเปิดช่องให้ภาคส่วนที่เขาทำท่องเที่ยวได้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจบ้าง เปิดให้คนท่องเที่ยวในประเทศ แต่เราปิดพื้นที่เกือบทั้งหมด แล้วจะให้เขาไปเที่ยวที่ไหน ใครบ้างไปเชียงใหม่แล้วไม่ไปอินทนนท์ แล้วแบบนี้จะเปิดให้คนไปเที่ยวอะไร บางทีก็อดเห็นใจผู้ประกอบการท่องเที่ยวไม่ได้ ที่ทางการไม่เปิดช่องให้เขาทำมาหากินกันบ้างเลย ที่หนักหนาก็เห็นจะเป็น จ.กระบี่ ที่มีการปิด อช.นพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี และ อช.ธารโบกขรณี ที่ยังคงปิดต่อไป

โดยปกติคนไปทะเลที่กระบี่ เขาเที่ยวกันทั้งปี เพราะบรรดาเกาะต่างๆ อยู่ใกล้ฝั่ง ช่วงที่มีมรสุมแรงจริงๆ ผู้ประกอบการเขาก็หยุดบริการกันอยู่แล้วแทบไม่ต้องบอกเขาเลย

เมื่อปิด อช.นพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี หมายถึง เกาะไก่ เกาะปอดะ ทะเลแหวก ทะเลใน ถ้ำไวกิ้ง เกาะไม้ไผ่ หรือแม้กระทั่งหมู่เกาะพีพี พวกนี้ไปไม่ได้เลย (ส่วนมาหยานั้นปิดมาก่อนหน้าแล้ว)

ครั้นปิด อช.ธารโบกขรณี ซ้ำเข้าไปอีก หมายถึงหมู่เกาะห้อง ซึ่งมีเกาะเหลาปีเละ เกาะเหลาลาดิง เกาะผักเบี้ย ทะเลใน รวมทั้งส่วนอื่นๆ ในพื้นที่อุทยานฯ เขากาโรส ถ้ำผีหัวโต เหล่านี้เที่ยวไม่ได้เลย เรียกว่าจังหวัดกระบี่ทั้งจังหวัด แทบจะปิดสนิทเลย ซึ่งย้อนแย้งกับนโยบายที่รัฐบาลสนับสนุนให้บุคลากรทางการแพทย์ออกมาเที่ยวกัน โดยมีงบประมาณสนับสนุนสองพันกว่าล้าน ให้กลุ่มก้อนทางการท่องเที่ยวได้จัดทัวร์ เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบ หรือแม้กระทั่งจะให้เงินอุดหนุนให้คนออกไปท่องเที่ยว เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ปรากฏว่าแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง...ปิด โดยเฉพาะกระบี่นี่เห็นชัดมาก ปิดสองอุทยานฯ เหมือนปิดน่านน้ำกระบี่ทั้งหมด

ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการท่องเที่ยวในกระบี่ เขาให้ความร่วมมืออย่างดี แม้บางอย่างจะขัดใจกันบ้าง (อย่างการปิดอ่าวมาหยา) แต่อันไหนที่สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้จังหวัด อย่างการงดใช้โฟม ไปใช้ปิ่นโตใส่อาหารกลางวันขึ้นไปบริการนักท่องเที่ยวบนเกาะห้องจนเป็นข่าวโด่งดัง ผู้ประกอบการเขาก็ยินดีให้ความร่วมมือเต็มที่ เพียงแต่ต้องเปิดช่องไว้ให้เขาได้ทำมาหากินบ้าง

จังหวัดกระบี่นั้นเป็นจังหวัดท่องเที่ยวไปแล้ว ปีหนึ่งๆ เศรษฐกิจจังหวัดกระบี่อยู่ได้ด้วยการท่องเที่ยว คนมาทะเลก็มุ่งลงทะเลกระบี่ทั้งนั้น โรงแรม ร้านอาหาร รถรับจ้าง สร้างเงิน สร้างงานให้คนมากมายมหาศาล ครั้นปิดสองอุทยานฯ เหมือนปิดเส้นเลือด ปิดลมหายใจของกระบี่ที่รวยรินมาจากการปิดแหล่งท่องเที่ยวเพื่อหยุดการระบาดมาสามเดือนนั่นก็แทบจะขาดใจอยู่แล้ว พอสถานการณ์ผ่อนคลายก็มาถูกปิดแหล่งท่องเที่ยวอีก เหมือนเป็นการฆ่ากระบี่ชัดๆ

สิ่งที่เป็นข้อเสนอคือ น่าจะมีการพูดคุย ผ่อนคลาย หาทางออกกัน ฟังเหตุผลซึ่งกันและกัน อะไรที่สุดโต่งไปทางใดทางหนึ่งย่อมไม่ดีทั้งนั้น ทางสายกลาง ยืดหยุ่นกัน เป็นหนทางที่ดีที่สุด

ไหนว่าประเทศไทยเราจะชนะไปด้วยกัน ตอนนี้เหมือนจะไม่ใช่แล้วนะ...