'วัณโรค' เป็นแล้ว รักษาได้

'วัณโรค' เป็นแล้ว รักษาได้

โรคติดต่อในระบบทางเดินหายใจร้ายแรงในอดีต ที่คนหวาดกลัว เพราะเป็นแล้วเสียชีวิตแทบทุกคน แต่ในปัจจุบันสามารถรักษาให้หายได้

 

ปัจจุบันการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 กำลังแพร่ระบาดไปในทุกทวีปทั่วโลก ในอดีต 'วัณโรค' ก็เคยเป็นหนึ่งในโรคติดต่อในระบบทางเดินหายใจที่สร้างความหวาดกลัวและคร่าชีวิตของใครหลายคนมาเช่นเดียวกัน

 

วัน ‘วัณโรคโลก’ ถูกกำหนดขึ้นในวันที่ 24 มีนาคมของทุกปี ก็เพื่อสร้างการรับรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องว่าปัจจุบัน 'วัณโรค' ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดและสามารถรักษาให้หายได้

 

  • วัณโรค เป็นแล้วตายทุกคน ?

 

ย้อนกลับไป 10-20 ปีก่อน ความก้าวหน้าทางวิทยาการและเทคโนโลยีทางการแพทย์ยังไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร ผู้ป่วยวัณโรคมักไม่ได้รับการรักษาทันท่วงที อีกทั้งยาในสมัยก่อนมีผลข้างเคียงค่อนข้างมาก ทำให้ผู้ป่วยกิน ๆ หยุด ๆ และกินยาไม่ครบทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ ตามมา เป็นสาเหตุทำให้เสียชีวิตมากมาย

 

ปัจจุบันวัณโรคไม่ใช่โรคที่น่ากลัวอีกต่อไป ถ้าหากผู้ป่วยได้รับการรักษาที่ทันท่วงที กินยาจนครบ ก็สามารถรักษาให้หายได้ แต่ก็มีโอกาสที่จะกลับมาเป็นซ้ำได้เช่นเดียวกัน ข้อมูลจากองค์การอนามัยโรค ได้คาดการณ์ตัวเลขของผู้ที่มีเชื้อวัณโรคนี้อยู่ในร่างกายมีมากถึง 54 ล้านคนทั่วโลก แต่จะมีผู้ที่ป่วยด้วยโรคนี้อยู่แค่ประมาณ 6-7 ล้านคนเท่านั้น ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นกับคนที่มีร่างกายอ่อนแอ แม้จะรักษาจนหายดีแล้ว หากวันไหนที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานตกต่ำลง โอกาสที่จะกลับมาเป็นซ้ำก็มีความเป็นไปได้สูง

 

  • วัณโรคติดเชื้อที่ปอดเท่านั้น ?

 

การติดเชื้อของวัณโรค นอกจากจะติดเชื้อที่ปอดแล้ว ยังสามารถลุกลามไปอวัยวะอื่นได้ เช่น การติดเชื้อที่สมอง ต่อมน้ำเหลือง เยื่อหุ้มปอด ไขกระดูก ตับ ต่อมหมวกไต ฯลฯ  ซึ่งถ้าหากการติดเชื้อลุกลามไปในอวัยวะส่วนอื่น การรักษาจะยิ่งยากขึ้น และอาจมีภาวะแทรกซ้อนมากขึ้นตามมา ตัวเลขของการติดเชื้อที่ปอดอยู่ที่ประมาณ 70-80% ส่วนอวัยวะอื่น ๆ พบได้ประมาณ 20-30% ขึ้นอยู่กับระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายแต่ละคนและความรุนแรงของโรคด้วย

 

  • เมื่อวัณโรคกระจายไปอวัยวะอื่น ๆ          

 

ขึ้นอยู่กับว่าเชื้อได้กระจายไปยังอวัยวะส่วนไหน เช่น ถ้ากระจายมาที่ต่อมน้ำเหลือง จะมีอาการต่อมน้ำเหลืองโต มีก้อนอยู่บริเวณคอ ดูภายนอกจะแยกไม่ออกว่าเป็นโรคมะเร็งหรือโรคอะไร ต้องใช้วิธีการตรวจชิ้นเนื้อถึงจะรู้ผล หรือถ้าเชื้อกระจายไปที่สมอง ส่วนมากจะพบในเด็ก จะมีอาการซึม ปวดศีรษะ ชัก แต่ถ้าพบในผู้ใหญ่จะมีอาการปวดศีรษะเรื้อรัง คอแข็ง ชักหรือกระตุก เช่นเดียวกับเด็ก

 

  • ไอ 100 วันเป็นวัณโรค ?

 

“เป็นความเชื่อของคนโบราณสมัยก่อน โดยทั่วไปคนที่มีร่างกายปกติจะไอและหายได้ภายใน 2-3 สัปดาห์ แต่คนที่เป็นวัณโรคส่วนใหญ่จะมีอาการไอเรื้อรัง และไอติดต่อกันนาน 8 สัปดาห์ขึ้นไป แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคนที่มีอาการไอเรื้อรังจะต้องเป็นวัณโรคเสมอไป ต้องดูสัญญาณและอาการอื่น ๆ ควบคู่ไปด้วย เช่น น้ำหนักลด เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย มีไข้ ไอมีเลือดปน เจ็บหน้าอก หายใจขัด ฯลฯ ซึ่งถ้าหากใครมีอาการเหล่านี้ให้รีบมาตรวจทันทีโดยที่ไม่ต้องรอให้ครบ 100 วัน” ผศ. นพ.ธีระศักดิ์ แก้วอมตวงศ์ สาขาวิชาโรคระบบการหายใจและเวชบำบัดวิกฤต ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าว