แทนไท : การเดินทางไม่มีคำนิยาม

แทนไท : การเดินทางไม่มีคำนิยาม

“ผมชอบการเดินทางที่ไปกับแฟน เป็นทริปที่เราแพลนเอง เราเป็นผู้นำทริป ความทรงจำมันคนละอย่างกับการไปกับที่บ้าน อารมณ์ไม่อินเท่าไปกับคนรู้ใจ แค่สองคน ความทรงจำมันตราตรึงกว่า การตัดสินใจแต่ละอย่างเเรามีอารมณ์อินเยอะ"

แทนไท ประเสริฐกุล นักสื่อสารวิทยาศาสตร์ นักเขียน นักแปล เจ้าของรายการ WiTcast รายการ พอดแคสต์ คุยสัพเพเหระ เน้นความรู้คู่ความฮา เรื่องวิทยาศาสตร์ รีวิวหนัง สัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญสาขาต่างๆ ทำให้ได้พบกับมุมมองที่ไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีอย่างนี้ด้วย

“ล่าสุด ไปสัมภาษณ์ตำรวจว่าเขาทำงานวิจัยอะไรกันบ้าง เขามีวิจัยเด็กแวนซ์ด้วยนะ หรือตอนก่อนหน้านี้ก็ไปคุยกับนักปรัชญาเรื่องซอมบี้ ซอมบี้เป็นศัพท์วิชาการทางปรัชญา คนละอย่างกับที่เรารับรู้จากในหนัง ในวิชาชีวะก็มีซอมบี้เหมือนกัน เพิ่งกลับมาจากมหาสารคาม ไปพูดเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ แล้วก็มีงานเขียนงานแปล กำลังแปลนวนิยายไซไฟชื่อ Children Of Time แปลไปได้เกินครึ่งเล่มแล้ว”

 เมื่อถามถึงการเดินทางท่องเที่ยว ประเทศที่ชื่นชอบ เขาตอบทันทีโดยไม่ต้องคิดว่า 'ญี่ปุ่น' เพราะมีหลายอย่างที่ชอบมาก

“ญี่ปุ่น มีแต่ของที่ชอบ อาหารก็ชอบ วัฒนธรรมแบบโบราณต่างๆ ก็ชอบ วัดวาอาราม การแต่งกาย วัฒนธรรมสมัยใหม่ การ์ตูน หุ่น โมเดล มีแหล่งชอปปิงอิเล็คทรอนิคส์มากมาย เป็นประเทศที่มีมุมที่มีเสน่ห์มากมายเยอะแยะเต็มไปหมด แล้ววิวที่จะต้องมาที่ญี่ปุ่นเท่านั้น อย่างฟูจิ นี่ผมก็ชอบมาก พอได้เห็น มันใหญ่แบบอลังการจนต้องหยุดดู เคยเห็นแต่ในโลโก้ภัตตาคารฟูจิ พอมาเห็นของจริงมันสวยมาก ก็เลยหลงเสน่ห์ ญี่ปุ่นยังมีอีกหลายจุดที่อยากจะไป”

ส่วนความผิดคาดผิดคิวที่เกิดขึ้นกับแทนไท เป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากเจอแน่นอน “ทริปล่าสุดไปจังหวัดนราธิวาส อุทยานแห่งชาติเขาบูโด ไปสัมภาษณ์ทีมวิจัยนกเงือก ตื่นแต่เช้าขึ้นไปยอดเขา ไปซุ่มดูรังนกเงือก ที่ต้นไม้มีโพรง มีแม่นกกับลูกนกอยู่ข้างใน ตัวผู้จะบินไปหาอาหารมาป้อนทุกสองชั่วโมง แต่ปรากฏว่า วันก่อนหน้านั้นอาหารเป็นพิษ เข้าห้องน้ำไม่หยุดมาสองวันแล้ว วันที่ขึ้นเขาคือวันที่หนักที่สุด วิ่งเข้าป่า 20 รอบ สภาพร่างกายแย่มาก ต้องรวบรวมสติไม่ให้เป็นลม มันอิดโรย ไม่มีแรง เดินทีละก้าว ประคองสติด้านบนแล้ว ด้านล่างก็ขมิบไว้ตลอด เวลามาที กลั้นไม่ได้ ถ่ายออกมามีแต่น้ำ 

ชั่วโมงแรกก็พยายามกลั้นไว้ตลอด ก้าวไปช้าๆ อยู่ดีๆ ต้องวิ่งเข้าป่า ออกไปข้างต้นไม้ คนอื่นก็นั่งกันอยู่แถวนั้น ก็อาย แต่สุดท้ายมันไม่ไหวแล้วจริงๆ ก็เลยต้องเข้าพุ่ม การถ่ายบนเขานี่ทุลักทุเลใช้ได้ มีอุปสรรคมากมาย ต้องหาที่หลบซ่อน ต้องดูว่าความลาดชันเป็นยังไง ต้องดูว่ามีมดไหม แล้วเป็นป่าที่ยุงเยอะมาก แค่ถอดกางเกงออกมา ยุงก็เต็มตูดแล้ว พอเสร็จไปรอบหนึ่งก็เดินต่อ อีกสักครึ่งชั่วโมง มาอีกแล้ววุ้ย ไม่รู้มาจากไหน ไม่ได้กินอะไรเพิ่มเลย มันมาเรื่อยๆ วันนั้นนกก็ไม่ได้เห็น กลับลงมาเย็นๆ สี่โมง พอมาลงมาถึง มันเป็นความรู้สึกที่เป็นประสบการณ์เลวร้ายมาก ผ่านมาได้แล้วโคตรดีใจเลย เราได้พิชิตยอดเขาในอีกรูปแบบหนึ่ง ไม่ใช่แค่เพียงขึ้นไปที่สูง เราแข็งแกร่งขึ้น จิตใจแข็งแกร่งขึ้น ได้รู้ได้สัมผัสน้ำใจของคนรอบข้างคอยมาดูแลช่วยเหลือตอนเราไม่ค่อยจะไหว แอดแวนเจอร์ไปอีกแบบหนึ่ง เอาไปเล่าไว้ใน WiTcast หนึ่งตอนเต็มๆ เลย”

การเดินทางในฝันของแทนไท มีคำว่าธรรมชาติอยู่ด้วยเสมอ “อยากใช้ชีวิตแบบเข้าป่า กับ ลงใต้น้ำ ไปดูตัวอะไรแปลกๆ ให้เยอะกว่านี้ แต่ทั้งสองอย่างนี้ ต้องใช้เวลา ใช้เงิน ใช้ความเชี่ยวชาญบางอย่าง ผมไม่ชอบอะไรที่ทัวริสต์มากๆ หรือไปแล้วมีแต่ของที่มาตั้งหลอกๆ บางทีก็ชอบขับรถไปใกล้ๆ ไปเขาใหญ่ ไปอัมพวา ไปเช้าเย็นกลับ ถ้าอยู่กรุงเทพฯก็ไปเที่ยวห้าง เย็นดี หรือเที่ยวโซนพระนคร มีของกิน ถ้าไปต่างประเทศ สิ่งทีิ่ชอบคือพิพิธภัณฑ์ จะเป็นธรรมชาติก็ได้  วิทยาศาสตร์ก็ได้ หรือของเก่า ภาพเขียน กระดูกไดโนเสาร์ ผมชอบหมดเลย

การไปเที่ยวแล้วประทับใจจะมีสองแบบ แบบแรก สถานที่ไม่ใช่ไฮไลท์ การไปกับแฟน อย่างญี่ปุ่นไปแล้วไปอีก มันประทับใจอยู่ในความทรงจำของเรามากกว่าไปที่ๆ แอดแวนเจอร์มากๆ สิ่งที่เราจำได้อาจจะเป็นตอนที่เขาหัวเราะ หรือตอนที่เราเดินกันในซอยๆ หนึ่ง 

แบบที่สอง ประทับใจสถานที่ ไปแล้วสวย ประทับใจสุดๆ ก็มี อุทยานแห่งชาติบาโก เกาะบอร์เนียว ประเทศมาเลเซีย ผมชอบหม้อข้าวหม้อแกงลิงมาก ที่นี่เป็นแหล่งที่หม้อข้าวหม้อแกงลิงขึ้นตามธรรมชาติ วันนั้นแฟนไม่สบาย เลยไปคนเดียว เรานั่งดู 20 นาที ถ่ายทุกมุม อินของเราไปเต็มที่ ไม่ต้องคิดว่าอีกฝ่ายเขาจะรอ ก็เลยเป็นอีกวันที่มีความสุขมากๆ มอสมันเขียวมาก ปูพรมสวยงาม”

ส่วนความหมายของการเดินทางในความคิดของแทนไท จะแปลกกว่าหลายๆ คนตรงที่  “ไม่มีนิยามตายตัว" 

"ไม่ต้องเป็นสูตรตายตัวว่าต้องเป็นอย่างนี้ๆ ขนาดอี้แตกแล้วรอดมาได้ก็ประทับใจ หรือได้ไปดูของที่อุตส่าห์ตั้งใจไปดูจริงๆ แล้วอินกับมันได้นานๆ ก็ประทับใจ ที่ประทับใจเพราะว่าเราวางทุกอย่างที่เป็นเรื่องที่เราคิดมากในชีวิตประจำวันไว้ แล้วเปิดหูเปิดตารับรู้สิ่งที่อยู่ตรงหน้าอย่างเต็มที่ สัมผัสกับมันเต็มที่ จะร้ายจะดี อะไรเข้ามาช่วงที่เดินทางมันก็ประทับใจ

ถ้าเราอยู่ในชีวิตปกติ ผ่านไปสิบวัน ลืมหมดแล้วว่าสิบวันที่ผ่านมาทำอะไรบ้าง แต่การเดินทางเป็นสิบวันที่ผ่านไป 20 ปีก็ยังจำได้ มันเป็นช่วงที่สมองเราเปิดรับทุกสิ่งทุกอย่าง ถ้ามันเป็นทริปที่เราพร้อมจะเปิดกับมัน ฝากติดตาม WiTcast ได้ในพอดแคสต์, เพจ, IG, Twitter, เว็บไซด์ ส่วนผลงานหนังสือ โลกจิต, โลกนี้มันช่างยีสต์, โลกนี้มันช่างยุสต์, ในคนมีปลา ในขามีครีบ สั่งซื้อมาได้ใน WiTcast นะครับ