'ซัปโปโร' สนุกสุด Cool

'ซัปโปโร' สนุกสุด Cool

โบยบินไปหาอากาศหนาว ณ ดินแดนที่มีแต่หิมะขาวโพลน แล้วโยนความกังวลใจทิ้งไป พร้อมสนุกกับทุกกิจกรรมที่ทั้งสุดคูลและสุดขั้ว

เป็นแบบเดียวกันหรือเปล่า...เมื่อเข้าสู่ช่วงปลายปี บรรยากาศของฤดูหนาวกับปฏิทินบอกวันหยุดยาวจะเร่งเร้าความรู้สึกให้โหยหาการเดินทางท่องเที่ยว และพาลจะรู้สึกขี้เกียจเพราะบรรยากาศพาไป จนบางทีกลายเป็นหมดไฟไปเสียดื้อๆ

ผมแบกความขี้เกียจตัวใหญ่ๆ ยัดใส่กระเป๋าเดินทาง โหลดไว้ที่ใต้เครื่องบินลำโต (โบอิ้ง 777) ของสายการบินนกสกู๊ตซึ่งกำลังบินตรงสู่สนามบินนิวชิโตเสะ (New Chitose Airport) จังหวัดฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งตลอดการเดินทาง ห้องโดยสารที่กว้างขวาง และที่นั่งกว้าง ช่วยให้เวลากว่า 6 ชั่วโมงเป็นช่วงเวลาที่ผ่อนคลาย แต่ก็อดไม่ได้ที่จะแอบตื่นเต้นกับทุกอย่างที่รออยู่

หลังจากผ่านขั้นตอนต่างๆ ทันทีที่ประตูของสนามบินเปิดออก ก็มีความหนาวระดับช่องแช่แข็งมาคอยต้อนรับ ถึงไม่มีคำกล่าวทักทายแต่รู้สึกได้ ความหนาวจับใจทำให้เราต้องรีบขึ้นรถเพื่อหาไออุ่นจากฮีตเตอร์ และอีกเหตุผลหนึ่งคืออดไม่ไหวที่จะรีบเดินทางต่อ

 

  • สุดฟินในดินแดนหัวหงอก

ขณะที่รถบัสฟรีของรีสอร์ทแล่นไป แทบจะไม่มีสีสันอื่นผ่านเข้ามาในสายตาเลยนอกจากสีขาวของหิมะ อาจแทรกแซมด้วยต้นไม้บ้าง บ้านเรือนบ้าง แต่ทุกอย่างก็ดูเหมือนจะถูกปกคลุมด้วยหิมะอยู่ดี ถึงจะสวยแค่ไหน แต่ด้วยระยะทางที่ค่อนข้างไกล เพราะต้องออกไปยังเขตอะบูตะซึ่งอยู่นอกเมืองซัปโปโร ทำให้ตลอดเวลาราว 2 ชั่วโมง เป็นช่วงเวลาแห่งการพักสายตาสลับกับตื่นมาดูวิวที่มีทีท่าว่าจะทวีความขาวมากขึ้นๆ จนกระทั่งมาถึง สกีรีสอร์ทรุซุสึ (Rusutsu Ski Resort) สกีรีสอร์ทอันดับต้นๆ ของฮอกไกโดในแง่ความใหญ่โตและคุณภาพ แน่นอนว่าจำนวนนักสกีและนักสโนว์บอร์ดที่เดินกันขวักไขว่ไปมาคงการันตีได้แล้วว่าช่วงฤดูกาลเล่นกีฬาฤดูหนาวหรือ Winter Sport แบบนี้ ที่นี่เป็นตัวเลือกชั้นดี

หลักๆ แล้วที่รีสอร์ทประกอบด้วยตัวโรงแรม โดยแบ่งเป็นตึกรุซุสึ ทาวเวอร์ ตึกทางเหนือ ตึกทางใต้ ไฮแลนด์ลอดจ์ และกระท่อมหลายหลังกระจายตัวอยู่รอบๆ สำหรับภายในอาคารเหล่านี้คือที่พักพิงของคนขี้หนาว เพราะทั้งหมดมีฮีตเตอร์ให้ความอบอุ่น ส่วนคนที่มาเล่นสกีและสโนว์บอร์ดก็ยังคงเดินเข้าเดินออกไม่ขาดสาย เห็นแล้วก็อยากเล่นซะเดี๋ยวนั้น แต่ด้วยความที่เดินทางมาทั้งวันบวกกับฤดูหนาวที่นี่จะค่อนข้างมืดเร็วมาก แค่บ่ายสี่โมงแสงสุดท้ายก็ลับฟ้าแล้ว คงไม่มีอะไรดีไปกว่าเดินเล่นในโรงแรมแล้วเข้านอน

80280564_2707209042671224_6425302277753405440_o

81016523_2707209002671228_7254198865295835136_o

รู้ดีว่า...พรุ่งนี้คือไฮไลท์ที่รอคอย เพราะจะเป็นครั้งแรกที่ได้เล่นกีฬาในฝันอย่างสโนว์บอร์ด ทั้งบรรยากาศและอะไรต่อมิอะไรในโรงแรมล้วนปลุกความรู้สึกให้ฮึกเหิม โดยเฉพาะพวกร้านขายอุปกรณ์กีฬาฤดูหนาวที่ยกเอา Shop แบรนด์ดังมาตั้งไว้ในโรงแรมเลยทีเดียว มีตั้งแต่เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า อุปกรณ์จิปาถะ ไปจนถึงแผ่นสโนว์บอร์ดและสกีให้เลือกอย่างละลานตา

แต่สำหรับมือใหม่อย่างผม ครั้งแรกคงไม่คุ้มค่ากับการเสียเงินซื้อ เพราะที่นี่มีให้เช่าอุปกรณ์เล่นสโนว์บอร์ดและสกีในราคาที่ถือว่าไม่แพง คือ สกี 4,900 เยน, สโนว์บอร์ด 4,900 เยน และเสื้อผ้า 3,400 เยน ส่วนคนที่เล่นไม่เป็นก็มีคอร์สเรียน สอนโดยนักสกีและสโนว์บอร์ดตัวจริง

แน่นอนว่าถ้าเช่าอุปกรณ์พร้อมชุดไปก็เท่านั้น สำหรับมือใหม่อย่างผมจำเป็นอย่างมากที่จะต้องเรียนพื้นฐาน...

เช้าวันใหม่ที่ต้องบอกว่าอากาศเป็นใจอย่างมาก แม้จะเป็นต้นฤดูกาลที่หลายคนบอกว่าอาจเจอสภาพอากาศแปรปรวน มีโอกาสเจอและไม่เจอหิมะได้พอๆ กัน แต่เราโชคดีเพราะช่วงที่ไปหิมะมาเต็ม ฟ้าสดใส ลักษณะของหิมะเป็นแบบที่เรียกกันว่าพาวเดอร์ (Powder) คือตกมาใหม่ๆ นุ่มๆ ปุยๆ เหมือนแป้ง ทำให้การเล่น (บวกเรียน) สโนว์บอร์ดในวันนี้จะง่ายกว่าลักษณะหิมะแบบไอซ์ซี่ (Icezy) คือเริ่มเป็นน้ำแข็งซึ่งจะลื่นมากและแข็งกว่า

ก่อนออกสู่สนามจริง ต้องไปเช่าอุปกรณ์และชุดกันก่อน ข้อดีอย่างหนึ่งของการเช่าที่สกีรีสอร์ทที่ได้มาตรฐานแบบนี้ คือ จะได้ของคุณภาพค่อนข้างดี และมีผู้เชี่ยวชาญแนะนำรวมถึงเลือกขนาดที่เหมาะสมให้เราได้ด้วย เพราะตั้งแต่หัวจรดเท้ายันแผ่นสโนว์บอร์ด ทุกอย่างมีขนาดแตกต่างกัน ทว่า เพียงกรอกรายละเอียดส่วนสูง น้ำหนัก ฯลฯ ให้ครบถ้วน พนักงานก็จะจัดอุปกรณ์มาให้ เรียกได้ว่าแค่สวมชุดธรรมดากับถุงเท้ายาวสักหน่อยก็เล่นสกีและสโนว์บอร์ดได้เลย

ชุดพร้อม ใจพร้อม ได้เวลาลุย ด้วยจุดเด่นอย่างหนึ่งของรีสอร์ทแห่งนี้คือเล่นสกีได้เลยตั้งแต่ออกจากประตู เพราะติดกับลานสกีซึ่งครอบคลุมพื้นที่ภูเขาถึง 3 ลูก ทำให้มีเส้นทางเล่นหลากหลาย เหมาะกับทุกระดับฝีมือ อย่างมือใหม่ก็อาจเล่นแถวๆ ตัวโรงแรม ส่วนมือเก๋าก็นั่งสกีลิฟท์ขึ้นไปยังสถานีที่อยู่บนยอดเขาได้ เช่นที่ Mt.Isola Base Station เป็นอีกจุดยอดนิยมที่นักสโนว์บอร์ดและสกีขึ้นไปเล่นลงมาบนเส้นทางสุดท้าทายและไกลหลายกิโลเมตร ยังไม่รวมเส้นทางอื่นๆ ทั่วภูเขารวมระยะทางกว่า 40 กิโลเมตร

และบนยอดเขา Mt.Isola นี้เองคือจุดที่มองเห็น ภูเขาโยเทอิ (Mt.Yotei) หรือที่รู้จักกันในนามฟูจิแห่งฮอกไกโด ส่วนชื่อทางการคือ ภูเขาชิริเบชิ (Mt.Shiribeshi) ซึ่งได้รับเลือกเป็น 1 ใน 100 ภูเขาที่ดีที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ด้วยรูปร่างเป็นทรงกรวย สูงจากระดับน้ำทะเล 1,898 เมตร เมื่อถูกปกคลุมด้วยหิมะจึงยิ่งดูงดงามราวภาพวาด

หลายคนขึ้นมากว่าจะไหลลงไปข้างล่าง ก็ยืนชมวิวที่สวยงามอลังการอยู่นาน แน่นอนว่าผมที่ขึ้นมาดูเฉยๆ เพราะยังไม่เก่งพอที่จะไหลลงไปได้ ก็ใช้เวลาอยู่บนนี้นานนับชั่วโมง ทั้งดื่มด่ำความงามของธรรมชาติ ทั้งยืนดูนักสโนว์บอร์ดเก่งๆ เล่นเหมือนมันง่ายมาก และใช้เวลาครุ่นคิดถึงบรรยากาศของดินแดนที่ปกคลุมด้วยหิมะแบบนี้ ไม่ต่างจากดินแดนที่มีหัวหงอก

80112717_2707209502671178_2149362833630953472_o

80581329_2707209209337874_5137696835036512256_o

81245009_2707209429337852_1116021104104701952_o

80411155_2707209399337855_5255212315690663936_o

 

  • สนุก Snow

จากการทดลองเรียนสโนว์บอร์ดครั้งแรก ถือว่าไม่ยากมากนักสำหรับคนที่พอจะมีพื้นฐานด้านกีฬามาบ้าง หลักๆ คือ เรื่องการทรงตัว พละกำลังโดยเฉพาะกล้ามเนื้อขาและหลัง ส่วนที่ขาดไม่ได้เลยคือสติ เพราะทันทีที่บอร์ดเริ่มไหลไปบนหิมะ ต้องควบคุมทิศทางและความเร็วให้ได้ มิเช่นนั้นไม่แหกโค้งก็ลงไปนอนเล่นหิมะแน่ๆ

ถึงจะลองเล่นจนติดใจ ทว่าที่นี่ยังมีอีกหลายกิจกรรมหนาวๆ แต่สนุกให้ได้เล่นกัน โดยเฉพาะคนที่ตอบตัวเองได้แล้วว่า “ไม่ชอบกีฬาอย่างสโนว์บอร์ดและสกี...แต่ยังชอบหิมะ” การได้เดินลุยไปบนหิมะหนาๆ นุ่มๆ คือความสุขอย่างบอกไม่ถูก แต่บางครั้งรองเท้าที่สวมอยู่ก็ไม่เหมาะ ขาจมหายไปในหลุมพรางหิมะอย่างไม่ทันตั้งตัว แนะนำให้สวม Snowshoe หรือรองเท้าหิมะ เป็นรองเท้าที่มีพื้นขนาดใหญ่ แถมยังมีอุปกรณ์กันลื่นติดอยู่ด้วย ทีแรกอาจไม่คุ้นเท้า เดินติดขัด แต่รับรองว่าถ้าเริ่มชินจะฟินกับการได้ลุยไปบนหิมะไม่ว่าจะที่ไหนก็ได้

ซึ่ง Snowshoe Trekking เป็นอีกกิจกรรมยอดนิยมของฮอกไกโดเลยทีเดียว เพราะไม่ต้องใช้เงินเยอะ ไม่ต้องมีทักษะด้านกีฬา สำคัญสุดคือเป็นกิจกรรมที่ไม่สร้างมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม เพียงมีแรงเดินก็สำรวจธรรมชาติได้อย่างใกล้ชิด

79645734_2707222116003250_770239141144166400_o

79811081_2707222096003252_7202174214202195968_o

79825965_2707222112669917_4057036578931867648_o

ส่วนคนที่อยากเพิ่มดีกรีความมันขึ้นหน่อย ที่รุซุสึมี Snow Mobile ให้เช่าขี่ ซึ่งเจ้า Snow Mobile ก็มีหน้าตาคล้ายเจ็ทสกี เพียงแต่จะแล่นไปบนหิมะโดยมีสายพานเป็นเหมือนล้อให้เคลื่อนที่ไปข้างหน้า ควบคุมทิศทางด้วยขาคล้ายสกี ขี่ง่ายมาก เพียงแค่สตาร์ทเครื่องแล้วกดคันเร่ง กับกดเบรก

ความง่ายของยานพาหนะคันนี้ทำให้เราไปได้ทุกที่ ไม่ว่าจะพื้นที่ที่เป็นน้ำแข็งหรือบุกป่าฝ่าดงที่เต็มไปด้วยหิมะ เพียงแต่ต้องขับขี่อย่างระมัดระวัง คอยดูสัญญาณมือจากผู้นำขบวนและคันข้างหน้า เว้นระยะห่างให้พอดี แค่นี้ก็สนุกไปกับสองข้างทางอันสวยงามแบบที่ไม่เคยเห็นแล้ว

80395036_2707222429336552_5047815062295674880_o

80550700_2707222386003223_1653354240485097472_o

นอกจากนี้ Snow Mobile ยังถูกต่อยอดให้เป็นอีกกิจกรรมสุดมัน ที่เรียกอะดรีนาลีนให้หลั่งกันพรั่งพรู แค่นำเรือยางมาพ่วงท้าย ก็จะได้ Snow Rafting หรือเรียกกันแบบบ้านๆ ว่า “ล่องแก่งหิมะ”

เหล่าผู้กล้าขึ้นไปนั่งเรียงรายบนเรือยาง จับให้มั่น ทันทีที่เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญขึ้นไปสตาร์ท Snow Mobile นั่นหมายถึงความสนุกได้เริ่มขึ้นแล้ว

79650140_2707222222669906_4740229497628917760_o

81224973_2707222249336570_327131174851837952_o

จำไม่ได้ว่ากี่นาที และจำไม่ได้ว่าผ่านไปกี่โค้ง กระโดดไปกี่เนิน เพราะมัวแต่โหวกเหวกโวยวายกับความเสียวที่ต้องโดนลากไปบนหิมะที่มีสภาพภูมิประเทศหลากหลาย และเหมือนพอเรายิ่งเสียงดัง เจ้าหน้าที่ก็ยิ่งเร่งความเร็วแล้วพาสาดโค้ง ถึงจะน่าหวาดเสียวแต่รับรองว่าปลอดภัย เพราะน้ำหนักของเรือยางและผู้โดยสารบวกกับฐานที่กว้างทำให้ไม่พลิกคว่ำแม้จะเข้าโค้งหักศอก

ปิดท้ายความมันด้วยอีกกิจกรรมความเร็วบนเส้นทางสีขาว นั่นคือ การขี่ Snow Bike หรือเรียกมอเตอร์ไซค์หิมะนั่นเอง จะว่าไปนี่เป็นส่วนผสมระหว่าง Moto Cross หรือมอเตอร์ไซค์วิบาก กับ Snow Mobile เพราะรูปร่างหน้าตาเหมือนมอเตอร์ไซค์วิบากแค่ระบบขับเคลื่อนเหมือน Snow Mobile สำหรับกิจกรรมนี้อาจไม่เหมาะกับทุกคน เพราะต้องมีพื้นฐานด้านการขี่มอเตอร์ไซค์พอสมควร ทางเลือกหนึ่งที่จะได้สัมผัสแต่ไม่ต้องขี่ คือ การซ้อนท้าย

แล้วก็เป็นอย่างที่คิดไว้จริงๆ นี่คือมอเตอร์ไซค์วิบากบนหิมะดีๆ นี่เอง ทั้งความเร็ว การลุยไปในสภาพเส้นทางทั้งขรุขระและลื่น ถึงจะมั่นใจในคนขี่แค่ไหนก็ยังแอบเสียวไส้จนเผลอกอดเอวอย่างแนบแน่น...คุณน้าคนขี่จะเข้าใจว่าเราคิดอะไรกับเขาไหมนะ (ฮา)

79725877_2707222432669885_8040871208444493824_o

80458581_2707222542669874_8531583539978698752_o

 

  • ซัปโปโร So Chill

ตลอดเวลาหลายคืนที่รุซุสึ เปิดประสบการณ์ใหม่มากมายโดยเฉพาะเกี่ยวกับ Winter Sport และเป็นช่วงเวลาของการพักผ่อนที่ ‘เต็มอิ่ม’ ที่สุด แม้จะไม่ได้ไปไหนนอกจากพื้นที่ของรีสอร์ทซึ่งก็ครบครันอยู่แล้ว ถึงเวลาที่ต้องโบกมือลาสถานที่แสนวิเศษนี้ กลับสู่แสงสีและวิถีคนเมือง

รถ Social Bus ที่จะพาเราเข้าเมือง ซัปโปโร (Sapporo) มาจอดรอรับแล้ว นี่เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับนักเดินทางที่ต้องการเช่ารถบัสเหมาเที่ยวในฮอกไกโด โดยแจ้งพนักงานขับรถได้ว่าจะแวะที่ไหนก็ได้ ซึ่งมีให้เลือกทั้งแบบ 12 และ 24 ที่นั่ง ถ้ามากันหลายคน หารค่าเช่ารถซึ่งตกวันละ 40,000 เยน ถือว่าคุ้มค่ามาก เพราะไม่ต้องแบกกระเป๋าขึ้นลงรถไฟหรือรถโดยสารสาธารณะ (ข้อมูลเพิ่มเติมที่ http://social-bus.jp)

80553724_2707230259335769_5482285840765812736_o

และจุดแลกระหว่างทางที่ต้องแวะคือ ทะเลสาบโทยะ (Lake Toya) แม้จะไม่ได้เป็นอย่างที่คาดหวังไว้เพราะวันที่ออกจากรุซุสึหิมะของต้นฤดูกาลกำลังละลายแล้ว บริเวณทะเลสาบโทยะที่หวังว่าจะได้เจอหิมะขาวสะอาดเป็นฉากหน้า ก็กลายเป็นเศษน้ำแข็งเกาะอยู่ตามริมน้ำ แต่ถึงจะไม่มีหิมะ ทะเลสาบโทยะก็สวยอีกแบบหนึ่ง ว่ากันว่าทะเลสาบแห่งนี้ไม่เคยแข็งเป็นน้ำแข็งแม้จะอยู่ตอนเหนือสุดของญี่ปุ่นก็ตามที และที่นี่ก็ขึ้นชื่อว่าเป็นทะเลสาบที่น้ำใสเป็นอันดับสองของญี่ปุ่น หากมองจากอากาศลงมาจะเห็นว่าทะเลสาบนี้มีลักษณะคล้ายไข่ดาว คือมี เกาะนากาโนะอยู่ตรงกลางนั่นเอง

ดื่มด่ำบรรยากาศท่ามกลางอากาศที่อุ่นขึ้นแต่ก็ยังอุณหภูมิติดลบกันพอหอมปากหอมคอ ได้เวลาเดินทางต่อไปยังเมืองซัปโปโร เมืองศูนย์กลางของจังหวัดฮอกไกโด ซึ่งรวบรวมของขึ้นชื่อของฮอกไกโดไว้มากมาย ไม่ว่าจะสถานที่ท่องเที่ยว อาหาร ศิลปวัฒนธรรม หรือแม้แต่วิถีชีวิตของผู้คน

80961204_2707228526002609_5819658262055747584_o

80984472_2707228482669280_3281208182097051648_o

หลายคนรู้จักซัปโปโรจากเทศกาลหิมะที่จัดขึ้นทุกปีในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ หลายคนรู้จักซัปโปโรผ่านเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ในชื่อเดียวกับเมือง แต่วันนี้เราจะพาไปรู้จักซัปโปโร เอ่อ...ไม่สิ จะพาไปรู้จักฮอกไกโดผ่านอาหารชนิดหนึ่งเลยต่างหาก

ซุปแกงกะหรี่ (Soup Curry) อาจทำให้บางคนเข้าใจผิดว่าคือชนิดเดียวกับแกงกะหรี่ แต่จริงๆ แล้วนี่คืออาหารขึ้นชื่อของฮอกไกโดเลยทีเดียว และ Garaku ก็เป็นร้านซุปแกงกะหรี่เจ้าดังที่สุดของเมืองนี้ เพียงแค่เข้าไปในร้านก็สัมผัสได้ถึงความร้อนแรง จนเริ่มสงสัยว่ายังไม่ทันกินแต่ทำไมถึงร้อน

...อ่อ ที่แท้คือร้านเปิดฮีตเตอร์...

หยุดขำแล้วมาเริ่มอร่อยกับเมนูที่อาจไม่คุ้นปากคนไทย เพราะต้องยอมรับว่าคนไทยส่วนมากรู้จักแต่แกงกะหรี่ญี่ปุ่น พอเป็นซุปที่ดูจะเจือจางกว่าก็ยังไม่พร้อมเปิดใจ จนกว่าจะได้ลิ้มรส

ไม่ว่าจะสั่งเมนูไก่ ทะเล หรือเนื้อ แนะนำให้สั่งเพิ่มความเผ็ดไม่น้อยกว่า 5 เนื่องจากความเจือจางและมีให้เลือกความเผ็ดถึง 40 ระดับ มั่นใจมากว่าแม้จะขึ้นหลัก 10 ลิ้นคนไทยส่วนมากก็ยังนับว่าธรรมดา ซึ่งปัจจุบันร้าน Garaku ได้มาเปิดสาขาในไทยแล้ว ถ้าอยากซ้อมลิ้นก่อนก็ได้

80881204_2707228552669273_171851790520680448_o

นอกจากสถานที่สำคัญของเมืองนี้จะมีมากมาย เช่น สวนสาธารณะโอโดริ (Odori Park), ตลาดปลาของเมืองซัปโปโร (Nijo Market), หอนาฬิกาซัปโปโร (Sapporo Clock Tower) ฯลฯ ช่วงค่ำใน ย่านซุซุกิโนะ (Susukino) ยังเป็นอีกสีสันหนึ่งที่มาซัปโปโรแล้วต้องไม่พลาด เพราะเป็นย่านที่คึกคักและมีชีวิตชีวาที่สุดของเมือง เต็มไปด้วยร้านค้า บาร์ ร้านอาหาร ร้านคาราโอเกะ แสงไฟจากตึกและป้ายต่างๆ เป็นอีกมุมที่แตกต่างหลังจากไปสัมผัสธรรมชาติมาหลายวัน ไม่แน่ว่าอาจได้ของฝากกลับบ้านจากย่านนี้ก็ได้

แต่ถ้าแสงไฟในมุมมองปกติยังธรรมดาเกินไป ต้องลองขึ้นไปบน ซัปโปโร ทีวี ทาวเวอร์ (Sapporo TV Tower) แลนด์มาร์คของเมืองที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของสวนโอโดริ ค่าขึ้นเพียง 720 เยน ก็จะได้เห็นเมืองซัปโปโรทั้งเมืองในมุมที่แปลกตา มุมหนึ่งซึ่งนิยมถ่ายภาพเป็นที่ระลึกมากคือฝั่งที่หันไปทางสวนสาธารณะโอโดริทอดยาวไปด้านหน้า

79784473_2707228656002596_2164106077673619456_o

80216391_2707228692669259_4064577940208222208_o

80124559_2707228732669255_8543036572784656384_o

  ช่วงเวลาที่อยู่บนนั้นมันไม่ยาวนานสักเท่าไร เพราะใกล้เวลาปิด แต่สิ่งที่ผมมองเห็นตรงหน้าคืออีกเมืองหนึ่ง อีกจังหวัดหนึ่ง ที่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้มา แต่ทุกครั้งจะมีความประทับใจใหม่ๆ เกิดขึ้นเสมอ ความแตกต่างกันสุดขั้วตอนถูกห้อมล้อมด้วยหิมะกับช่วงเวลาที่อยู่ท่ามกลางแสงไฟและผู้คน ทำให้มั่นใจว่าจะมีคราวหน้าอีกแน่นอน

 

***
การเดินทาง
สายการบินนกสกู๊ตบินตรงจากท่านอากาศยานดอนเมืองไปยังสนามบินนิวชิโตเสะ ฮอกไกโด ทุกวันอังคาร, พฤหัสบดี, เสาร์ และอาทิตย์

เที่ยวบิน XW146 กรุงเทพฯ (ดอนเมือง) - ซัปโปโร (ชิโตเสะ) เวลาเดินทาง 04.00 น. เวลาถึงปลายทาง 12.15 น. เที่ยวบิน XW145 ซัปโปโร (ชิโตเสะ) - กรุงเทพฯ (ดอนเมือง) เวลาเดินทาง 14.55 น. เวลาถึงปลายทาง 20.35 น.
นอกจากนี้สายการบินนกสกู๊ตยังมีเส้นทางบินไปประเทศญี่ปุ่นอีกหลายเส้นทาง ทั้งโตเกียวและโอซาก้า