เชื่อมั่นพลัง ‘เคป๊อป’ เกาหลีทุ่มหมื่นห้าพันล้านสร้างคอนเสิร์ตอารีนา

รัฐบาลกรุงโซลเล็งเห็นถึงกระแสความนิยมในวัฒนธรรมเคป๊อปที่กำลังได้รับความนิยมเป็นวงกว้างมากขึ้น ถึงขั้นเตรียมสร้างสนามกีฬาความจุเกือบ 20,000 ที่นั่งเอาไว้รองรับความต้องการของนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้าประเทศเพื่อมาดูการแสดงของศิลปินเคป๊อปโดยเฉพาะ

สำนักข่าวยูพีไอรายงานว่า ขณะนี้เทศบาลมหานครกรุงโซลกำลังทำงานร่วมกับบริษัทอีก 10 แห่ง ในการทุ่มงบประมาณถึง 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (กว่า 15,000ล้านบาท) สร้าง ‘เคป๊อป อารีนา’ ซึ่งมีความจุ 18,400 ที่นั่งขึ้น เพื่อรองรับการจัดงานของศิลปินเกาหลีที่กำลังได้รับความนิยมจนสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เดินทางเข้าประเทศได้มากเป็นประวัติการณ์ โดยการก่อสร้างจะเริ่มขึ้นในปี 2020 นี้แล้ว

“ความเป็นจริงที่เกิดขึ้นก็คือ กระแสเคป๊อป และการท่องเที่ยวนั้นไปด้วยกัน มีการขายตั๋วคอนเสิร์ตกับตั๋วเครื่องบินให้กับนักท่องเที่ยวด้วย” เบอร์นี โช ประธานบริษัท DFSB Kollective ซึ่งเป็นเอเยนซีให้กับค่ายเพลงและศิลปินในกรุงโซล เผยกับยูพีไอ

‘บีทีเอส’ มีมูลค่าเศรษฐกิจเท่า ‘ฮุนได’

ปัจจุบันกระแสเคป๊อปไม่เพียงได้รับความนิยมในแถบเอเชียเท่านั้น แต่ยังแพร่ไปถึงฝั่งตะวันตกอย่าง ยุโรป อเมริกา รวมถึงตะวันออกกลาง ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์

เราได้เห็นวงบีทีเอส (BTS) ไปออกรายการทอล์คโชว์ชื่อดังของสหรัฐฯ หลายรายการ อาทิ The Tonight Show with Jimmy Fallon นอกเหนือไปจากการมีอัลบั้มติดอันดับ 1 บิลบอร์ดชาร์ตถึง 3 อัลบั้ม เท่ากับวงระดับตำนานอย่าง เดอะ บีทเทิลส์ ทั้งที่ทำเพลงเป็นภาษาเกาหลี สามารถจัดคอนเสิร์ตสเกลใหญ่ระดับสเตเดี้ยมได้ในแถบอเมริกา ยุโรป อเมริกาใต้ โดยที่บัตรโซลเอาท์ทุกรอบ นอกจากนี้ยังได้ขึ้นแสดงบนเวทีประกาศรางวัลใหญ่ระดับโลกอย่าง บิลบอร์ด, อเมริกัน มิวสิค อวอร์ดส และได้ขึ้นมอบรางวัลบนเวทีแกรมมี่

ขณะที่วงเกิร์ลกรุ๊ป แบล็คพิงค์ (Blackpink) ก็สามารถจัดทัวร์แถบอเมริกาเหนือได้ในปี 2019 นี้ โดยที่บัตรโซลด์เอาท์ทุกรอบ แถมยังสร้างประวัติศาสตร์ให้กับวงการเคป๊อปด้วยการได้ขึ้นแสดงในเทศกาลดนตรีระดับโลกอย่างCoachella อีกด้วย

พูดง่าย ๆ ว่า แค่เฉพาะวงบีทีเอสเพียงวงเดียวก็สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจของเกาหลีใต้ได้ไม่แพ้กลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ ล่าสุด นิตยสารบันเทิงชั้นนำของสหรัฐอย่าง The Hollywood Reporter รายงานว่า วงบีทีเอสสร้างรายได้คิดเป็นมูลค่า 4,650 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ของจีดีพีประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเท่ากับว่าวง 7 หนุ่มกลุ่มนี้มีมูลค่ามากพอ ๆ กับบริษัทข้ามชาติอย่าง ฮุนได หรือ ซัมซุง กันเลยทีเดียว

ขณะที่ข้อมูลจากสถาบันวิจัยฮุนได เมื่อปี 2018 ระบุว่า บีทีเอสส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจเกาหลีใต้คิดเป็นมูลค่า 3,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ต่อปี และเชื่อว่าทางวงสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากถึง 1 ใน 13 ของจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้าเกาหลีใต้มาในปี 2017

“การจะพูดว่า คานเย่ เวสต์ (แรปเปอร์ชื่อดัง) ดึงนักท่องเที่ยวเข้าสหรัฐได้ 1 ใน 13 นั้นมันไม่สมเหตุสมผล แต่สำหรับที่เกาหลีแล้ว การจะพูดว่าบีทีเอสเป็นคนทำเรื่องนี้ มันเป็นเรื่องที่สมเหตุผล” Cho กล่าว

ความเชื่อมั่นที่รัฐบาลเกาหลีใต้มีต่อวงการเคป๊อปยังได้รับการสนับสนุนจากอดีตผู้บริหาร Virgin Music ค่ายเพลงชื่อดังของสหรัฐที่บอกว่า วงบีทีเอสได้ช่วยเปิดประตูให้ศิลปินเคป๊อปก้าวเข้าตลาดเพลงสหรัฐ ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 1 ของโลก ได้สะดวกขึ้น

"บีทีเอสคือเรื่องราวความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ และความสำเร็จอย่างยอดเยี่ยมของบีทีเอสนี้อาจนำไปสู่ความสำเร็จที่มากขึ้นของเคป๊อปโดยรวมในตลาดสหรัฐด้วย" นายฟิล ควอร์ทาราโร ซีอีโอของ Tripod Partners กล่าวในงาน MU:CON ซึ่งเป็นงานเคป๊อปแฟร์ที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้

โดยก่อนหน้านี้เขาเคยดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงของค่ายเพลงยักษ์ใหญ่อย่าง Virgin Music, Warner Bros. Records และ EMI Marketing แล้วยังมีบทบาทอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของศิลปินระดับตำนานของโลกอย่าง วงโรลลิง สโตนส์, แจเน็ต แจ็คสัน และวงสไปซ์ เกิร์ลส์ มาแล้วด้วย

“สำหรับบีทีเอส มันคือการเปิดประตู เราสามารถส่ง (ศิลปินเกาหลี) ตามหลังบีทีเอสไปได้อีกเยอะเลย ผมเชื่อว่ายังมีโอกาสมากมายรอศิลปินรายอื่นๆ อยู่” ฟิลกล่าว “แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องชมอุตสาหกรรมเคป๊อปที่มีโปรดักชั่นทางดนตรีที่มีคุณภาพสูงด้วย”

คอนเสิร์ตฮอลล์ยังขาดแคลน

รายงานข่าวระบุว่า เคป๊อป อารีนา แห่งใหม่นี้มีกำหนดเปิดในปี 2024 แล้วจะรองรับการจัดงานทั้งของศิลปินเกาหลี และศิลปินต่างชาติ ขึ้นอยู่กับว่างานนั้นเป็นงานใหญ่พอที่จะมาจัดที่นี่ได้หรือเปล่า โดยในอดีตเคยมีศิลปินเบอร์ใหญ่ระดับโลกอย่าง มาดอนนา ต้องล้มเลิกแผนมาเล่นคอนเสิร์ตที่เกาหลีใต้เพราะไม่มีสถานที่จัดการแสดงขนาดใหญ่พอที่จะรองรับสเกลการโชว์ของเธอมาแล้ว ซึ่งสนามกีฬาแห่งนี้จะมาช่วยแก้ปัญหาตรงจุดนั้น

ถึงแม้ว่าตอนนี้ในกรุงโซลจะมีสนามกีฬาขนาดใหญ่ใกล้เคียงกันรองรับการแสดงเหล่านี้อยู่บ้างแล้วก็ตาม อาทิ Olympic Park ในกรุงโซลที่มีความจุ 15,566 ที่นั่ง และอารีนาที่คาสิโนแห่งใหม่ ซึ่งมีความจุ 15,000 ที่นั่ง แต่ Cho มองว่า สถานที่จัดคอนเสิร์ตที่มีอยู่ในปัจจุบันยังเติบโตไม่รวดเร็วพอที่จะรองรับความต้องการในตลาดและอุตสาหกรรมบันเทิง ทำให้ผู้จัดงานต้องประสบปัญหาฮอลล์ใหญ่ไปบ้าง เล็กไปบ้าง หรือเก่าไปบ้าง

ด้วยเหตุนี้เอง กรุงโซลเลยจำเป็นจะต้องมีสนามที่ใหญ่ที่สุด มีสิ่งอำนวยความสะดวกดีที่สุด และพร้อมพรั่งที่สุดสำหรับการจัดคอนเสิร์ตขึ้นมา

กระตุ้นการพัฒนาชานเมือง

ทั้งนี้ โดยปรกติแล้วอีเวนต์เกี่ยวกับดนตรีส่วนใหญ่ที่จัดขึ้นในเกาหลีใต้มักจะไปกระจุกตัวกันอยู่ในย่านฮงแด (Hongdae) ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักท่องเที่ยว แต่ เคป๊อป อารีนา แห่งใหม่จะไปสร้างแถบชานเมืองที่เรียกว่าย่าน Dobong-gu ใกล้สถานี Chang-dong

โดยแผนการสร้างสนามกีฬาแห่งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่นายกเทศมนตรีกรุงโซล นาย Park Won-soon เดินทางไปเยือนจังหวัดไซตามะของญี่ปุ่น แล้วไปเห็นตัวอย่างมาว่า การสร้างสนามกีฬาขึ้นในจังหวัดช่วยกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาตัวเมืองขึ้นมาได้

“เราต้องการเปลี่ยนย่าน Chang-dong ให้เป็นย่านวัฒนธรรม และย่านที่พัฒนาแล้วในอนาคต” Kang Kyeong-ku เจ้าหน้าที่เทศบาลกรุงโซลเผยกับยูพีไอ พร้อมเสริมว่า นอกจากสนามความจุเกือบ 20,000 ที่นั่งแล้ว อารีนาแห่งนี้ยังจะมีโรงภาพยนตร์อีก 8 โรง ฮอลล์จัดงานนิทรรศการเคป๊อป 1 แห่ง แล้วยังมีเคป๊อป ฮอลล์ ออฟ เฟม กับฮอลล์จัดแสดงขนาดกลางที่มีความจุราว 2,000 ที่นั่งอีกแห่งด้วย

“สถานที่จัดการแสดงดนตรีแห่งใหม่นี้จะช่วยกระตุ้นทั้งการอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว แล้วก็กระตุ้นอุตสาหกรรมดนตรีได้มากพอ ๆ กัน” นาย Cho กล่าว “เคป๊อปกลายเป็นประตูดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามายังเกาหลีมากขึ้น ๆ ทุกวัน”