AS IT WAS ตามติดชีวิต ‘เลียม กัลลาเกอร์’ หลังยุบ Oasis

เลียม กัลลาเกอร์ คือหนึ่งในศิลปินที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดบนโลกใบนี้ เขาเป็นคนที่สามารถทำให้คุณรู้สึกทึ่ง ลุ่มหลงในเสน่ห์ แม้จะมีฝีปากกล้า วาจาแสนจะร้ายกาจ ทว่าเพลงของเขาสะท้องก้องเข้าไปในจิตวิญญาณ และกลายเป็นบทเพลงที่ก้าวล้ำขีดจำกัดของกาลเวลา

เลียม กัลลาเกอร์ได้แสดงให้ทุกคนเห็นว่าวิถีของร็อคสตาร์จากวงดนตรีที่เคยสยบโลกมาแล้วต้องเป็นอย่างไรบ้าง

            ทว่าทั้งหมดนั้นคือตำนานที่เขาได้สร้างเอาไว้ในยุค 90 เพราะหลังจากที่ Oasis ยุบวงในปี 2009 และแตกหักกับ โนล กัลลาเกอร์ ผู้เป็นพี่ชาย เลียมก็พยายามค้นหาตัวตนของเขาใหม่อีกครั้ง ทั้งโดดไปทำธุรกิจแฟชั่นควบคู่ไปกับการต่อสู้ในสนามรบแห่งเสียงเพลงกับศิลปินที่ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดในยุคนี้

เขาต้องเผชิญการต่อสู้บนชั้นศาล ทะเลาะเบาะแว้งกับพี่ชายไม่หยุดหย่อน (เพราะความปากกล้าของตัวเอง) และต่อสู้กับความเบื่อหน่ายของชีวิต เขากลายเป็นเหมือนนักเดินทางผู้ไร้ซึ่งจุดหมาย ต้องเผชิญกับปัญหาด้านความสัมพันธ์ และการระรานจากจากสื่อ

ถ้าเป็นคุณจะทำอย่างไร......หากในอดีตคุณเคยเป็นคนที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของยอดเขา แต่ในปัจจุบันแค่ฐานแรกก็ดูเหมือนอยู่ไกลเกินเอื้อมซะแล้ว

            เราจะได้เห็นอีกมุมหนึ่งของนักร้องวัย 46 ปี ในภาพยนตร์สารคดีเรื่อง Liam Gallagher: As It was ที่ตามติดชีวิตนักร้องฝีปากกล้าจากเมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ เมื่อเขาพยายามหาหนทางใหม่บนถนนสายดนตรี

As It Was คือภาพยนตร์ที่บอกเล่าเรื่องราวของเลียมจากจุดสูงสุดในช่วง Champagne Supernova สู่ช่วงเวลาที่ความรุ่งโรจน์เป็นเพียงแค่เงาในอดีต ผู้คนในวงการเพลงได้ร่วมมือกันกีดกันเขา ผู้ถูกชื่อของพี่ชายบดบัง

            แต่แล้วเมื่อหลายปีที่ผ่านมา เลียมก็อนุญาตให้ 2 ผู้กำกับ ชาร์ลี ไลท์เทนนิ่ง และกาวิน ฟิทซ์เจอรัลด์ เข้ามาบันทึกทุกอย่างในชีวิตของเขา ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่ต้องเผชิญกับอุปสรรคนับตั้งแต่การล่มสลายของวง Oasis ทั้งในเรื่องส่วนตัวและเรื่องการงาน ถ่ายทอดตัวตนทุกอย่างของเขาทั้งในคราบของศิลปินและคราบของผู้ชายคนหนึ่งที่ทุ่มทุกอย่างให้กับการเดินทางในเส้นทางของศิลปินเดี่ยว ปลดเปลื้องทุกสิ่งทุกอย่างจนเหลือไว้เพียงแก่นแท้ของเสียงเพลง และคว้าท่วงทำนองที่เป็นเอกลักษณ์ของเขาเองเอามาไว้ในกำมือ

            นี่จึงเป็นโอกาสแรกของทุกคนทั่วโลกที่จะได้เห็น เลียม กัลลาเกอร์ บอกเล่าเรื่องราวในชีวิตด้วยปากและการกระทำของตัวเขาเอง เห็นชีวิตของชายคนนี้ที่ปราศจากการใส่ฟิลเตอร์ เผยแผ่ทุกมุมมองของการใช้ชีวิตแบบไร้ขีดจำกัด และให้คุณได้ใกล้ชิดกับหนึ่งในต้นตำรับของตำนานร็อคแอนด์โรลจากเกาะอังกฤษ

                                                              

 “ผมประหลาดใจนะที่เขาเป็นคนดี เขาเป็นคนขี้เล่น ตลก ขี้โอ่ และดูผ่อนคลายมากๆ ด้วย” ผู้กำกับ กาวิน ฟิตซ์เจอรัลด์ กล่าว

“ไม่ว่าจะด้วยความชอบหรือความเกลียดชัง เลียม กัลลาเกอร์ ก็ยังคงเป็นชายที่ดึงดูดสายตาของทุกคนได้อยู่เสมอมา ตั้งแต่ช่วงที่เขายังเป็นวัยรุ่น อิทธิพลของเขาก็ได้จารึกลงไปในวัฒนธรรมของพวกเราไปแล้ว มันยังคงอยู่ข้างในใจของทุกคน หลับไหลรอวันที่จะฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง การส่งต่อเรื่องเล่าของตำนานชาวร็อคที่โด่งดังข้ามยุคสมัยอย่างเขาจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น ด้วยภาพยนตร์เรื่องนี้ คุณจะได้เห็นตัวตนของ เลียม กัลลาเกอร์ ในช่วงเวลาที่น้อยคนเคยรู้ว่าเขาต้องเผชิญกับอุปสรรค ปัญหา ความสัมพันธ์ และความสำเร็จอะไรบ้าง”

ตัวตนในปัจจุบันของเลียมคือชายวัย 46 ปีที่สนุกสนานกับการวิ่งจ็อกกิ้งตอนเช้าตรู่ขณะกำลังออกทัวร์คอนเสิร์ต เขาเป็นคุณพ่อที่ภาคภูมิใจของลูกชายวัยรุ่นสองคน เช่นเดียวกับลูกสาวที่เขาได้ติดต่อเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1997

            แล้วขณะที่มีการกลับไปเยือนห้องสมัยเด็กที่เขาเคยใช้ร่วมกับพี่ชาย เลียมก็รู้สึกถึงบุญคุณต่อสิ่งที่ทำให้เขาเปลี่ยนจากวัยรุ่นเหลวแหลกกลายเป็นร็อกสตาร์

“ชีวิตมันมหัศจรรย์นะเมื่อคุณคิดถึงเรื่องนั้น” เลียมกล่าวในหนัง

            “เขาออกจะสุดโต่งอยู่บ้าง แต่ก็มีจิตใจงดงาม เขามีด้านที่แข็งกร้าว แต่ถ้าคุณคาดหวังให้เขาขึ้นบนเวที มันก็ต้องมีการเดือดดาลบ้าง” ชาร์ลี ไลท์เทนนิง เพื่อนและผู้กำกับสารคดีตามติดชีวิต เลียม กัลลาเกอร์ กล่าว

            พบกับเบื้องหลังชีวิตตลอดทศวรรษที่ผ่านมาของร็อคสตาร์ชื่อก้องโลก เลียม กัลลาเกอร์ อดีตนักร้องนำของวง Oasis ที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อน ใน As It Was กำหนดเข้าฉายในไทย 17 ตุลาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์