"สุดารัตน์"ชูนโยบาย "บำนาญปชช.3พันต่อเดือน" ตอบโจทย์กว่า เบี้ยผู้สูงอายุ

"สุดารัตน์"ชูนโยบาย "บำนาญปชช.3พันต่อเดือน" ตอบโจทย์กว่า เบี้ยผู้สูงอายุ

"สุดารัตน์" ชู นโยบาย พรรคไทยสร้างไทย "บำนาญประชาชน 3,000 บาทต่อเดือน" เป็นของขวัญปีใหม่ ชี้ ตอบโจทย์กว่าเบี้ยผู้สูงอายุ แบ่งเบาภาระลูกหลาน เพิ่มกำลังซื้อ กระตุ้นบริโภค ยัน ไม่ใช่ประชานิยม ที่คิดแต่แจกเงิน

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย โพสต์เฟซบุ๊คส่วนตัว ระบุว่า "นโยบายบำนาญประชาชน 3,000 บาทต่อเดือน" ของขวัญปีใหม่ ที่พรรคไทยสร้างไทย ตั้งใจมอบให้แก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้ไม่เพียงพอต่อการยังชีพทุกคน เนื่องจากประเทศไทยกำลังเข้าสู่ "สังคมผู้สูงวัย" ซึ่งแน่นอนว่าจะมีผู้สูงอายุมากขึ้น และส่วนใหญ่ประสบปัญหาแก่ก่อนรวย มีรายได้ไม่พอรายจ่าย ดังนั้น นโยบายบำนาญประชาชน 3,000 บาทต่อเดือนจะเข้ามาตอบโจทย์ทั้งผู้สูงอายุให้มีรายได้เพียงพอต่อการยังชีพ แทนที่เบี้ยผู้สูงอายุที่ผู้สูงอายุได้เพียงน้อยนิด ไม่เพียงพอในการครองชีพอย่างมีคุณภาพอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

โดยนโยบาย บำนาญประชาชน จะเป็นการตอบแทนผู้สูงอายุที่ได้ทำงานมาตลอดชีวิต ให้ผู้สูงอายุอยู่อย่างมีศักดิ์ศรี อีกทั้งยังช่วยแบ่งเบาภาระของลูกหลานในการเลี้ยงดูพ่อแม่ของตน ให้มีเงินเหลือเพียงพอที่จะดูแลครอบครัวของตัวเอง ซึ่งในสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันนี้ ทำให้คนวัยทำงานหารายได้ยากขึ้น

นอกจากนั้น เงินบำนาญประชาชนเดือนละ 3,000บาท ที่ให้แก่ผู้สูงอายุ จะเป็นการทำให้เกิดกำลังซื้อเพิ่มขึ้น เป็นการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศให้กลับมา 

พรรคไทยสร้างไทย สร้างนโยบายนี้เพื่อเตรียมรองรับโครงสร้างประชากรไทย ที่เปลี่ยนเป็นสังคมผู้สูงวัย 

จากข้อมูลของกรมกิจการผู้สูงอายุ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 พบว่า จำนวนประชากรผู้สูงอายุมีทั้งหมด 11.62 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 17.57 ของประชากรไทยทั้งหมด

ยิ่งไปกว่านั้นไทยกำลังจะเป็นประเทศกำลังพัฒนาประเทศแรกของโลกที่ก้าวเข้าสู่สังคมสูงอายุแบบสมบูรณ์ (Aged Society) ในปี 2565 และคาดว่าจะเข้าสู่ ไทยน่าจะขยับขึ้นเป็นสังคมสูงอายุแบบสุดยอด (Hyper Aged Society) หรือมีสัดส่วนประชากรสูงอายุเข้าหา 20% ในปี2574 (ข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย)

ดังนั้น เราจึงต้องเตรียมที่จะดูแลผู้สูงวัยให้แข็งแรง เราจะปล่อยให้ประเทศไทยมีแต่คนแก่ที่อ่อนแอ และยากจนอย่างในปัจจุบันไม่ได้แล้ว เพราะจะส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต ของผู้สูงวัยและครอบครัว ตลอดจนจะส่งผลกระทบต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ

พรรคไทยสร้างไทย จึงได้สร้างนโยบาย บำนาญประชาชนเดือนละ 3000 บาท ขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาให้ผู้สูงอายุได้มีรายได้เพียงพอต่อการยังชีพ โดยผู้สูงอายุที่ได้รับบำนาญประชาชนเดือนละ 3000 บาท จะต้องเข้าโปรแกรมการสร้างสุขภาพ ที่พรรคไทยสร้างไทย จะจัดทำขึ้นโดยผู้สูงอายุต้องไปสร้างเสริมสุขภาพให้แข็งแรง ที่ศูนย์สร้างสุขภาพของผู้สูงวัย จะมีการฝึกสมองไม่ให้ฝ่อ มีความจำที่ดี ฝึกกล้ามเนื้อให้แข็งแรงมีแรงทั้งแขนและขา และมีกิจกรรมสันทนาการเพื่อให้ผู้สูงอายุได้มีจิตใจที่เบิกบาน 

\"สุดารัตน์\"ชูนโยบาย \"บำนาญปชช.3พันต่อเดือน\" ตอบโจทย์กว่า เบี้ยผู้สูงอายุ

โดยตั้งเป้าที่จะลดโรคสำคัญของผู้สูงอายุทั้งความดันสูง ไขมันสูง และเบาหวาน ซึ่งทั้ง3 โรคทำเกิดโรคที่ร้ายแรงตามมาทั้งโรคหัวใจอัมพฤกษ์อัมพาตเป็นต้น

เมื่อประเทศไทยเข้าสู่สังคมสูงวัย เราต้องทำให้ผู้สูงอายุของเราแข็งแรง ทั้งสมอง กาย ใจ เพื่อที่ผู้สูงอายุของเราจะได้แข็งแรง และสามารถกลับไปทำงาน ทำประโยชน์ให้กับครอบครัว สังคมและประเทศชาติต่อไปได้และจะเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลของครอบครัวและประเทศชาติได้อีกด้วย

สำหรับผู้สูงวัยที่ป่วยติดเตียง หรือผู้พิการ พรรคไทยสร้างไทยก็จะดูแลให้สวัสดิการเดือนละ3000 บาทเช่นกัน

โครงการบำนาญประชาชนเดือนละ 3000 บาทจึงไม่ใช่โครงการประชานิยมหรือประชารัฐ ที่คิดแต่เพียงการแจกเงินให้กับประชาชนเท่านั้น แต่จะเป็นโครงการที่สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้ผู้สูงวัย มีรายได้เพียงพอต่อการยังชีพ มีสุขภาพที่ดี ลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างเศรษฐกิจไทยให้เดินหน้าต่อไปได้