“เพื่อไทย” ซัด “บิ๊กตู่” ปิดรับ นทท.เข้าไทยเหมือนประหารธุรกิจท่องเที่ยว

“เพื่อไทย” ซัด “บิ๊กตู่” ปิดรับ นทท.เข้าไทยเหมือนประหารธุรกิจท่องเที่ยว

รองเลขาฯ “เพื่อไทย” ออกโรงซัด “นายกฯบิ๊กตู่” ปมปิดรับนักท่องเที่ยว ป้องการแพร่ระบาด “โอมิครอน” ชี้เหมือนคำสั่ง “ประหาร” ทางธุรกิจท่องเที่ยว ทำเศรษฐกิจไทยย่ำแย่หนัก

เมื่อวันที่ 25 ธ.ค.2564 นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ และรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้สั่งปิดรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 21 ธันวาคมที่ผ่านมานี้ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิดสายพันธุ์โอมิครอน นั้นนับเป็นเรื่องน่าประหลาดใจอย่างมาก เพราะหากจำกันได้เพียงไม่กี่วันก่อนหน้านี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ยังเพิ่งจะบอกว่าไวรัสโอมิครอนเป็นไวรัสกระจอก ไม่สามารถทำอันตรายคนไทยได้ แต่ไม่กี่วันให้หลังกลับต้องปิดรับนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ และอาจจะถึงกับต้องล็อกดาวน์ ซึ่งสร้างความสับสนให้กับคนทั้งประเทศ โดยเฉพาะคนในภาคธุรกิจท่องเที่ยว ที่เพิ่งเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวได้ไม่นานมานี้ และเตรียมตัวรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่จะเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทยเพื่อฉลองในช่วงปีใหม่ ต้องถึงกับฝันสลาย และเหมือนกับเป็นคำสั่งประหารสำหรับธุรกิจท่องเที่ยวเลยก็ว่าได้ เพราะต้องทนลำบากกันมากว่า 2 ปีแล้ว แต่พอจะเปิดรับนักท่องเที่ยวก็มาถูกปิดอย่างฉับพลัน

นายจักรพล กล่าวต่อว่า การที่พลเอกประยุทธ์ เติบโตมาจากการเป็นทหาร อาจจะไม่ทราบเรื่องธุรกิจและไม่เคยทำธุรกิจมาก่อน จึงไม่ทราบว่า การเตรียมการต้อนรับนักท่องเที่ยวต้องใช้เวลาการเตรียมพร้อมหลายด้าน ทั้งการเตรียมบุคลากรและฝึกฝนบุคลากร การเตรียมวัตถุดิบ อาหาร ทำการรีโนเวทใหม่ และทำการตลาดเพื่อรับจองล่วงหน้า เป็นต้น ที่มีต้นทุนที่สูงมาก ซึ่งเมื่อเจอการปิดห้ามนักท่องเที่ยวเข้าจึงเป็นความเสียหายอย่างมาก อีกทั้งธุรกิจภาคท่องเที่ยวต่างคาดหวังว่าจะมีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างประเทศในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้มาเยียวยาธุรกิจ

"การปิดรับนักท่องเที่ยวจะทำให้เศรษฐกิจไทยที่ย่ำแย่อยู่แล้ว และคาดหวังว่าจะฟื้นต้องได้นับผลกระทบอย่างมาก เพราะภาคท่องเที่ยวต้องรับผลกระทบจากการปิดประเทศมานานเกือบ 2 ปีแล้ว และที่คาดกันว่าจะปิดถึงวันที่ 4 มกราคมปีหน้า อาจจะต้องลากนานกว่านั้น ซึ่งทำให้ธุรกิจท่องเที่ยวต้องเสียหายหนักกันอีกยาว หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้จากภาคท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นอีกมาก" รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าว

รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวอีกว่า ดังนั้นจึงอยากให้พลเอกประยุทธ์ได้ตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนอย่างใกล้ชิด จากข้อมูลล่าสุดพบว่าการแพร่ระบาดในทวีปแอฟริกาที่เป็นแหล่งกำเนิดกลับลดลงอย่างรวดเร็ว และ ไวรัสนี้แม้แพร่กระจายเร็วแต่ความรุนแรงของอาการมีไม่มาก โอกาสที่จะเสียชีวิตมีน้อย อีกทั้งบริษัทผลิตวัคซีนและบริษัทผลิตยาหลักของโลก ต่างได้คิดค้นวัคซีนและยารักษาไวรัสนี้กันได้แล้ว ซึ่งหากมีความชัดเจนในเรื่องดังกล่าว พลเอกประยุทธ์ควรจะเร่งสั่งยา และ หาทางเปิดรับนักท่องเที่ยวโดยเร็ว เพื่อฟื้นเศรษฐกิจไทย โดยหากจำกันได้คณะทำงานเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทยได้เคยเตือนพลเอกประยุทธ์แล้วว่า การเปิดๆ ปิดๆ หรือที่เรียกว่า โรคลักปิดลักเปิด จนเลือดซึมออกจะหมดร่างนี้จะสร้างความเสียหายอย่างมากต่อภาคธุรกิจท่องเที่ยว และ จะทำลายความมั่นใจของคนในประเทศและนักท่องเที่ยวต่างประเทศด้วย

"อย่างไรก็ตามในภาวะที่พลเอกประยุทธ์ได้ตัดสินใจปิดรับนักท่องเที่ยว พลเอกประยุทธ์ควรจะต้องคิดหาวิธีที่จะเยียวยาธุรกิจภาคท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบอย่างมากจากเรื่องนี้ ซึ่งภาคธุรกิจท่องเที่ยวแทบจะไม่ได้รับการช่วยเหลือและดูแลจากรัฐบาลเลยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งหนักหนาสาหัสมาก ดังนั้น รัฐบาลควรพิจารณา การช่วยเหลือด้านซอฟต์โลน การลดหนี้ การลดดอกเบี้ย เพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินการต่อได้ ซึ่งเมื่อการระบาดของไวรัสผ่านพ้นไป ภาคธุรกิจท่องเที่ยวจะสามารถดำเนินกิจการต่อ และ นำรายได้เข้าประเทศเพิ่มขึ้นในอนาคต" นายจักรพล กล่าว