ธุรกิจรับส่งเอกสาร ขายปลีกออนไลน์ ดันยอดธุรกิจจัดตั้งใหม่พ.ย.เพิ่ม 26 %

ธุรกิจรับส่งเอกสาร  ขายปลีกออนไลน์ ดันยอดธุรกิจจัดตั้งใหม่พ.ย.เพิ่ม 26 %

พาณิชย์ เผย จัดตั้งธุรกิจใหม่เดือนพ.ย. จำนวน 5,642 รายเพิ่ม 26% ชี้ ธุรกิจรับส่งเอกสาร สิ่งของ ขายปลีกทางอินเทอร์เน็ต ดันยอดจัดตั้งเพิ่ม ผลจากพฤติกรรมผู้บริโภคนิยมใช้จ่ายออนไลน์มากขึ้น รวม 11 เดือน 69,253 ราย เพิ่มขึ้น 15% คาดเป็นไปตามเป้าหมาย 7 หมื่นราย

นางโสรดา  เลิศอาภาจิตร์  รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า  เปิดเผยว่า  การจดทะเบียนธุรกิจใหม่เดือนพ.ย. 2564   พบว่า มีจำนวนธุรกิจจัดตั้งใหม่ มีทั่วประเทศ จำนวน 5,642 ราย เพิ่มขึ้น 26 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนและเพิ่มขึ้น 2 %เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้านี้  โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 16,983.40 ล้านบาท โดยธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 566 ราย คิดเป็น 10% รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 287 ราย คิดเป็น 5% และอันดับ 3 คือ ธุรกิจขนส่งและขนถ่ายสินค้ารวมถึงคนโดยสาร จำนวน 195 ราย คิดเป็น 3%ทั้งนี้การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ 11 เดือนแรก (ม.ค.-พ.ย. 2564) มีจำนวนทั้งสิ้น 69,253 ราย เพิ่มขึ้น 15% ทั้งปีน่าจะเป็นไปตามเป้าหมาย 70,000 ราย  

ส่วนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ มีจำนวน 2,892 ราย  เพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 46% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า มีมูลค่า ทุนจดทะเบียนจำนวน 109,271.11 ล้านบาท ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มการเลิกกิจการในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 204 ราย   คิดเป็น 7% รองลงมาคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 148 ราย คิดเป็น 5% และธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน   77 ราย คิดเป็น 3%  

ธุรกิจรับส่งเอกสาร  ขายปลีกออนไลน์ ดันยอดธุรกิจจัดตั้งใหม่พ.ย.เพิ่ม 26 %

 

สำหรับภาพรวมธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ทั้งสิ้น  (ณ วันที่ 30 พ.ย. 64) มีธุรกิจที่ดำเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศ จำนวน 811,224 ราย  มูลค่าทุน 19.23 ล้านล้านบาท จำแนกเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด/ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จำนวน 197,245 ราย      คิดเป็น 24.31% บริษัทจำกัด จำนวน 612,664 ราย คิดเป็น 75.53% และบริษัทมหาชนจำกัด จำนวน 1,315 ราย      คิดเป็น 0.16%

“การจดทะเบียนเพิ่มขึ้นนั้น เป็นผลมาจากกลุ่มธุรกิจที่มีจำนวนการจดทะเบียนจัดตั้งเติบโต ได้แก่ ธุรกิจรับส่งเอกสาร สิ่งของ จัดตั้งเพิ่มขึ้น 62 ราย คิดเป็น 6.9 เท่า และขายปลีกทางอินเทอร์เน็ตจัดตั้งเพิ่มขึ้น 55 ราย คิดเป็น 94.83% ซึ่งสอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปในยุคปัจจุบัน เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ผู้บริโภคหันมาใช้จ่ายผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น”

 อย่างไรก็ตาม นโยบายการเปิดประเทศเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ จะเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในไตรมาสที่ 4 ของปี 2564 ผู้ประกอบธุรกิจจึงควรติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง

นางโสรดา   กล่าวว่า  การลงทุนประกอบธุรกิจในไทยภายใต้กฎหมายต่างด้าว เดือนพ.ย. มีการอนุญาตให้คนต่างชาติประกอบธุรกิจทั้งสิ้น มีจำนวน 68 ราย โดยมีเม็ดเงินลงทุนทั้งสิ้น 7,002 ล้านบาท  นักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในไทยมากที่สุด ได้แก่ ญี่ปุ่น จำนวน 15 ราย เงินลงทุน 3,516 ล้านบาทรองลงมา ได้แก่ สหรัฐอเมริกา จำนวน 13 ราย เงินลงทุน 497 ล้านบาท และสิงคโปร์ จำนวน 10 ราย เงินลงทุน 1,183 ล้านบาท