มอร์นิ่งสตาร์ ชี้ปีนี้หุ้นเทรนด์ขาขึ้น คนโยกเงิน LTF ไหลออก แตะ2หมื่นล้าน
“มอร์นิ่งสตาร์” เผยปีนี้คาดมีเงินไหลออกจาก กองทุน LTF แตะ 2หมื่นล้าน จาก 11 เดือน ออกไปแล้ว 1.7 หมื่นล้าน สูงกว่าปีก่อนทั้งปีที่ 1.5หมื่นล้าน และช่วงเดือนม.ค.ปีหน้า คาดยังออกต่อเนื่อง โดยมีเงินครบกำหนดปี 65 อีกราว 2.1 หมื่นล้าน เหตุดัชนีหุ้นไทยยังเป็นเทรนด์ขาขึ้น
นางสาวชญานี จึงมานนท์ นักวิเคราะห์อาวุโส บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช ( ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) คาดว่าทั้งปีนี้จะเป็นเงินไหลออกแตะ 20,000 ล้านบาท ได้ไม่ยากหรือ มากกว่าปีก่อนทั้งปีที่ 15,000 ล้านบาท เนื่องจากในช่วง 11 เดือนปีนี้ (ม.ค.-พ.ย.2564) LTF มีเงินไหลออกแล้วราว 17,000 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าปีก่อนทั้งปีแล้ว
โดยเงินลงทุน LTF ส่วนใหญ่จะเป็นการไหลออกต่อเนื่องตั้งแต่ ช่วงปลายปีเดือนธ.ค.และช่วงต้นปีเดือนม.ค. เป็นเช่นนี้มาตลอด 10 ปี เมื่อเดือนธ.ค.ปี 2563 มีเงินไหลออกราว 2,300 ล้านบาท คาดว่าในเดือนธ.ค.ปี 2564 จะเป็นเงินไหลออกมากกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน ส่วนในช่วงเดือนม.ค.ปี 2565 อาจมีเงินไหลออกจากเงินลงทุนใหม่ LTF ที่ไหลเข้าสุทธิมาในปี 2559 (เริ่มนับ 7 ปีปฏิทิน) จะครบกำหนดในปี2565 ราว 21,000 ล้านบาทหรืออาจมากกว่านี้
นางสาวชญานี กล่าวว่า ช่วงปลายปีนี้จะมีเงินลงทุน LTF ส่วนหนึ่งที่ขายยได้ของคนที่ลงทุนตั้งแต่ปี 2558 และมีกำไรจากดัชนีปรับตัวขึ้น รวมถึงต้นปีหน้าจะมีเงินใหม่ของปี 2559 อีกส่วนหนึ่งเพิ่มขึ้นมา ทำให้อาจมีแรงขายออกมาได้ต่อเนื่อง
เนื่องจากแม้ดัชนีตลาดหุ้นไทยจะมีโอกาสปรับฐานย่อลงได้จากความเสี่ยงโควิดโอมิครอนเพิ่มเติมเข้ามา แต่ภาพรวมของดัชนีตลาดหุ้นไทยทั้งปีนี้ยังให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าหรือเป็นเทรนด์ขาขึ้นต่อเนื่องในปีหน้า เมื่อเทียบปีก่อนดัชนีตลาดหุ้นไทยอยู่ที่ระดับ 1,400 จุด ในปีนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยอยู่ระดับแนวรับ 1,560 จุด และปีหน้านักวิเคราะห์หลักทรัพย์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ที่ 1,750-1,800 จุด
แต่อย่างไรก็ตามประเมินว่า เงินไหลออกจาก LTF คงไม่ได้ขายออกมาทั้งหมดทันที ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความจำเป็นของการใช้เงินและการบริหารจัดการเงินลงทุนของแต่ละคน มองว่า บางคนอาจต้องการเงินไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวันหรือเป็นสภาพคล่อง และบลจ.จะแนะนำให้ถือเงินสดตามความเสี่ยงของลูกค้า เพื่อรอจังหวะเหมาะสมกลับเข้าไปลงทุน
ซึ่งสุดท้ายแล้วเงินลงทุน LTF ก็ไม่ได้หายไปจากอุตสาหกรรมกองทุนรวมทั้งหมด แต่น่าจะไหลกลับเข้ามาลงทุนในกองทุนประเภทอื่นๆ หรือกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) ที่มีการลงทุนหลากหลายทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งก็ได้รับความนิยมจากนักลงทุนมากขึ้น
พร้อมกันนี้แนะนำว่า การถือกองทุน LTF ไว้ก่อนจริงๆก็ไม่ได้เสียหาย เพราะเป็นเงินลงทุนระยะยาวสามารถรอจังหวะเวลาตลาดที่เหมาะสม ขายออกแล้วนำเงินไปต่อเงินเข้าลงทุนในสินทรัพย์อื่นตามความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนรับได้ โดยการลงทุนต่างประเทศและหุ้นยังเป็นธีมการลงทุนในปีหน้า ที่ให้ผลตอบแทนที่ดีต่อเนื่อง
