"ธนกร"ซัด"ชลน่าน" อย่าใช้ "ชาวนา" เป็นเครื่องมือดิสเครดิต "รัฐบาล"

"ธนกร"ซัด"ชลน่าน" อย่าใช้ "ชาวนา" เป็นเครื่องมือดิสเครดิต "รัฐบาล"

"โฆษกรัฐบาล" ซัด "ชลน่าน" อย่าใช้ชาวนาเป็นเครื่องมือทางการเมือง ดิสเครดิต ยัน "นายกฯ" ดูแล ทุกอาชีพ อยากเห็นเกษตรกร เลี้ยงตัวเองได้ พร้อมโอนเงิน "ประกันรายได้" 9ธ.ค.นี้ ชี้ ทุกมาตรการอยู่บนความเป็นไปได้ ไม่บิดเบือนกลไกตลาด ป้องกัน นักการเมืองเกาะกินชาวนา

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุว่า ชาวนาไทยทุกข์ยากลำบาก แต่รัฐบาลไม่เคยใส่ใจ พรรคเพื่อไทยจะฟื้นศักดิ์ศรีให้ชาวนาไทยกลับมายืนตรงมองฟ้าอย่างองอาจอีกครั้งว่าขอให้นายแพทย์ชลน่านยึดข้อเท็จจริง อย่าใช้ชาวนาเป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อดิสเครดิตรัฐบาล ยืนยันว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ดูแลพี่น้องคนไทยทุกอาชีพ โดยเฉพาะเกษตรกรซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ ซึ่งล่าสุด ธกส. พร้อมโอนเงินช่วยเหลือพี่น้องชาวนา ทั้ง 2 โครงการ ทั้งประกันรายได้ข้าว ปี 64/65 งวดที่ 3-7 เริ่ม 9 ธ.ค. นี้ มูลค่า 6.4 หมื่นล้านบาท และอุดหนุนค่าปรับปรุงพันธุ์ข้าวโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการฯ เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ในวันที่ 13 ธ.ค. นี้ 

นายธนกร กล่าวว่า หากฝ่ายค้านติดตามผลงานรัฐบาลด้วยใจที่ไม่อคติก็จะทราบว่า ที่ผ่านมารัฐบาลไม่ได้ดูแลแค่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวเท่านั้น แต่ยังมีการช่วยเหลือพี่น้องพืชเกษตรชนิดอื่น ๆรวมทั้งมาตรการประกันรายได้ให้กับเกษตรในพืชอีก 4 ชนิดทั้งปาล์ม มันสำปะหลัง ยางพาราข้าวโพดเลี้ยงสัตว์  ซึ่งในรอบ 3 ปีนี้  (2562 – 2564) คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบงบประมาณอุดหนุนประกันรายได้ จ่ายส่วนต่างราคาสินค้าพืชเกษตร 5 ชนิด รวมยอดไปแล้วกว่า 276,193 ล้านบาท

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยระบุว่า โครงการประกันรายได้ไม่ส่งเสริมการลดต้นทุน ไม่ส่งเสริมการผลิต และไม่ส่งเสริมการตลาด เป็นเพียงการชดเชยส่วนต่าง แตกต่างกับ โครงการรับจำนำข้าว ที่เป็นการเข้าจัดการกลไกราคาตลาด ทำให้ราคาข้าวสูงขึ้น ชาวนาขายข้าวได้มากขึ้นนั้น ทุกมาตรการของรัฐบาลอยู่บนความเป็นไปได้ของงบประมาณ ไม่บิดเบือนกลไกตลาด เป้าหมายสำคัญคือ พัฒนาศักยภาพชาวนา ลดต้นทุนการปลูกข้าว ส่งเสริมความหลากหลายพันธุ์ข้าว สร้างความเข้มแข็งให้ข้าวไทยกลับมามีความสามารถทางการแข่งขันในตลาดโลก 

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงพาณิชย์ บูรณาการมาตรการช่วยเหลือชาวนาครอบคลุมทั้งกระบวนการผลิตข้าวทุกขั้นตอนอย่างเป็นระบบ ทั้งก่อนปลูก ระหว่างปลูก และหลังปลูก รวมทั้งช่วยจัดหาปัจจัยการผลิตที่เกี่ยวข้องกับการเพาะปลูกข้าว เช่น การจัดหาพันธุ์ข้าว การจัดหาปุ๋ย การจัดสรรที่ดินทำกินโครงการสินเชื่อเพื่อสนับสนุนเกษตรแปลงใหญ่ ส่วนหลังการเพาะปลูกยังมีโครงการชะลอการขายข้าว หรือจำนำยุ้งฉาง โครงการการลดดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการอย่างโรงสีเก็บข้าวไว้ในสต็อก รวมไปถึงการส่งเสริมองค์ความรู้และเทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น การวิจัยและพัฒนาพันธุ์ข้าว การปลูกพืชผสมผสาน หรือความพยายามช่วยเหลือในการปรับเปลี่ยนพื้นที่ทำนาที่ไม่เหมาะสมให้ไปทำเกษตรอย่างอื่น 

“นายกฯ อยากเห็นพี่น้องชาวนาไทยสามารถเลี้ยงตัวเองและครอบครัวด้วยการทำการเกษตรที่ยั่งยืน รวมทั้งต้องการยกย่องให้ชาวนาไทย มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี เพื่อไม่ให้ชาวนา และข้าว ถูกนักการเมืองเกาะกิน นำมาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง อย่างไรก็ตาม การจะให้ข้อมูลอะไรนั้นต้องครบและรอบด้านด้วย ซึ่งพรรคเพื่อไทยควรจะบอกกับประชาชนด้วยว่า ผลกระทบจากโครงการรับจำนำข้าวนั้น ได้สร้างความเสียให้กับประเทศไว้อย่างไรด้วย ถึงขนาดที่อดีตนายกฯ ยังต้องหนีไปอยู่ต่างประเทศ แล้วใจจืดใจดำปล่อยให้อดีตรัฐมนตรีต้องติดคุกอยู่คนเดียวไม่ใช่เอาแต่สร้างโลกสวยสร้างความสับสนให้ประชาชนไปวันๆ” นายธนกร กล่าว