"อัศวิน" เปิดแผนคุมเข้มนักท่องเที่ยวเข้าเมือง 1 พ.ย. สั่งประเมินสถานการณ์ 7-21 วัน

วันที่ 28 ตุลาคม พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดงาน “ฟื้นเมือง เชื่อมย่าน สานอนาคต” ที่ทางเดินลอยฟ้าสกายวอล์ก (Skywalk) สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ช่องนนทรี ถึงกรณีความพร้อมเปิดกรุงเทพฯ รับนัดท่องเที่ยว วันที่ 1 พ.ย.ว่า ในวันที่ 29 ต.ค. เวลา 10.00 น. จะมีการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โรคโควิด-19 (ศบค.) โดยมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมเพื่อพิจารณาสรุปมาตรการต่างๆ ซึ่งขณะนี้ในเรื่องการเตรียมการแผนฉุกเฉินต่างๆ ของกรุงเทพฯ กทม.ได้ดำเนินการเตรียมไว้หมดแล้ว ทั้งในเรื่องการเตรียมรองรับผู้ที่เข้าไปชมสถานที่สำคัญ อาทิพระบรมมหาราชวัง วัดพระแก้ว วัดโพธิ์ ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง โดยบุคลากรของ กทม.ได้รับการประสานให้ช่วยไปช่วยตรวจวัดไข้ จัดคิว และอย่าให้ใกล้ชิดกันมาก โดยเฉพาะหากใครไม่สวมหน้ากากผ้า หรือหน้ากากอนามัย จะดำเนินการทางกฎหมายทันที

พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวต่อว่า สำหรับแผนการรับนักท่องเที่ยวเข้าพื้นที่กรุงเทพฯ กทม.ได้ชงพื้นที่ซักซ้อมทำความเข้าใจที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิแล้ว หลังจากนักท่องเที่ยวลงจากเครื่องบิน จะมีกระบวนการตรวจคนเข้าเมือง ตรวจพาสปอร์ต วีซ่า รวมถึงจะมีกระบวนการซีลเพื่อความปลอดภัย นอกจากนี้จะมีกติกาที่ให้นักท่องเที่ยวทำการจองโรงแรมมาก่อน เพื่อเข้าพักและตรวจหาเชื้อโควิด-19 แบบสว็อบ เป็นเวลา 1 คืน แต่หากไม่มีการจองโรงแรมก็จะไม่ให้เข้าเมือง โดยหากผลตรวจออกมาเป็นลบจะสามารถออกไปเที่ยวในเมืองได้แต่นักท่องเที่ยวต้องแจ้งว่าจะมาเที่ยวกี่วัน และพักที่ไหน เพราะเราจะมีระบบติดตามตัว รวมถึงมีมาตรการควบคุมไว้ทั้งหมด

ส่วนกรณีที่กระทรวงสาธารณสุข ประกาศพบเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ "เดลต้าพลัส" นั้น พล.ต.อ.อัศวินกล่าวว่า ที่ได้ฟังจากกระทรวงสาธารณสุข คิดว่าไม่มีอะไรรุนแรง เพราะว่าติดแค่คนเดียวและหายแล้ว ถึงจะกังวลเล็กน้อย แต่เชื่อมั่นในศักยภาพของคนไทย และประชาชนได้ให้ความร่วมมืออย่าฝดี โดยเฉพาะ 3 มาตรการ สวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง ล้างมือ จะทำให้เราอยู่รอดได้ 

ผู้สื่อข่าวถามว่า การเปิดกรุงเทพฯ แซนด์บ็อกซ์ มีการประเมินจำนวนผู้ติดเชื้อไว้จำนวนเท่าใดถึงจะพิจารณาให้ยกเลิกและปิดเมืองพล.ต.อ.อัศวิน ระบุว่า "ต้องรอให้ถึงเวลานั้นก่อน กทม.จะมีการวิเคราะห์สถานการณ์ทุก 7 วัน เช่น เปิดเมืองในวันที่ 1 พ.ย. กทม.จะวิเคราะห์อีกครั้งในวันที่ 7 พ.ย. โดยจะเชิญคณะกรรมการควบคุมโรคหารือทุก 7 วัน 14 วัน หรือ 21 วัน"

พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวถึงความคืบหน้าการฉีดวัคซีนในกรุงเทพฯว่า ขณะนี้ กทม.ฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 เกิน 100 % แล้ว ส่วนเข็มที่ 2 ฉีดได้ประมาณ 75 % แต่กทม.จะไม่ประมาท โดยจะเดินหน้าฉีดที่เหลือให้ครบทั้งหมด ส่วนการเปิดเรียนแบบออนไซต์ สำหรับโรงเรียนในสังกัด กทม.นั้น ขณะนี้ กทม.พร้อมเรียบร้อยสำหรับโรงเรียนในสังกัด 437 แห่ง เพราะบุคลากรโรงเรียนที่ไม่ใช่เฉพาะครู ฉีดวัคซีนไปกว่า 80 % ขณะที่ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 4-6 สามารถฉีดวัคซีนไปได้ 70-80 % ยกเว้นแต่ผู้ที่ไม่สมัครใจ แต่ขณะนี้เริ่มมีผู้ที่ไม่สมัครใจในช่วงแรกกลับมาเข้ารับวัคซีนเพิ่มมากขึ้น

ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม กทม.กำลังเริ่มฉีดเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป โดนอาจจะเป็นชี้นประถมศึกษาปีที่ 5-6 ถึงระดับมัธยมต้นปีที่ 3 ที่อายุยังไม่เกิน 18 ปี โดยคิดว่าสามารถควบคุมมาตรการได้อย่างดี และในพื้นที่โรงเรียนมีการทำความสะอาดไว้หมดแล้วแต่ต้องรอ ศบค.พิจารณาอนุมัติอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ขณะนี้ กทม.มีความพร้อมมาตรการด้านสาธารณสุขกี่เปอร์เซ็นต์ พล.ต.อ.อัศวิน ยิ้มพร้อม ระบุเพียงสั้นๆว่า "พร้อมร้อยกับอีก 8 เปอร์เซ็นต์"