ปชป.ขอบคุณโพลล์ยก“จุรินทร์”นิยมอันดับ 2 ชิงนายกฯ-สมัยหน้าแกนนำตั้ง รบ.

ปชป.ขอบคุณโพลล์ยก“จุรินทร์”นิยมอันดับ 2 ชิงนายกฯ-สมัยหน้าแกนนำตั้ง รบ.

โทรโข่ง “ปชป.” ขอบคุณโพลล์ยกให้ “จุรินทร์” นิยมอันดับ 2 ท้าชิงเก้าอี้นายกฯ “ชัยชนะ” ยันมีคุณสมบัติพร้อม-นำผลสะท้อนจากประชาชนมาปรับใช้การทำงาน ลั่นเลือกตั้งครั้งหน้าพร้อมเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ส่วน “ราเมศ” ชี้ผลงานดี มีประสบการณ์ ซื่อสัตย์ สุจริต

เมื่อวันที่ 18 ต.ค.2564 นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช และรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงการสำรวจของสวนสุนันทาโพลล์ และ ซูเปอร์โพลล์ ต่อผู้ท้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ที่ระบุว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มีคะแนนนิยมรองลงมาจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่า จากผลสำรวจของทั้ง 2 สำนักโพลล์ที่ระบุเหตุผลที่สนับสนุนให้ นายจุรินทร์ มาดำรงตำแหน่งนายกฯ นั้น เนื่องจาก นายจุรินทร์ มีอุดมการณ์ ขยันทุ่มเททำงานแก้ปัญหาเดือดร้อนของประชาชน มีประสบการณ์การเมืองมายาวนาน เชื่อมประสานทุกฝ่ายฝ่าวิกฤตต่าง ๆ ได้ไม่มีประวัติด่างพร้อย จงรักภักดีต่อสถาบันหลักของชาติ มีจุดยืนมั่นคงกับพรรคประชาธิปัตย์ ไม่พบทุจริตคอร์รัปชั่น ไม่เอื้อผลประโยชน์แก่ครอบครัวและพวกพ้อง รวมทั้งมีความเชื่อว่า จะสามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจของชาติได้เป็นอย่างดี ถือว่าเป็นเสียงสะท้อนที่มาจากประชาชน จากการที่เห็นบทบาทการทำงานของนายจุรินทร์ และพรรคประชาธิปัตย์ ในช่วงระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ทั้งโครงการประกันรายได้เกษตรกร โครงการเกษตรผลิตพาณิชย์นำตลาด

อ่านข่าว : เชื่อ“พลังเงียบ”ก็เลือก ปชป.! “ราเมศ”ยกผลโพลล์คะแนนนิยมภาคใต้ยังแชมป์

นายชัยชนะ กล่าวอีกว่า บทบาทหน้าที่ในสภาที่เน้นหนักในการดูแลปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน การเสริมสร้างบทบาททางการเมืองให้กับคนรุ่นใหม่ รวมทั้ง โครงการ ‘จุรินทร์ออนทัวร์’ ที่เป็นโครงการลงพื้นที่แก้ไขปัญหาและเดินสายพบปะประชาชน ได้รับนิยมจากประชาชนเป็นอย่างมาก  ถึงแม้ว่า ทั้ง 2 โพลล์จะระบุว่า ความนิยมจะเป็นรอง พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ก็ตาม พรรคประชาธิปัตย์พยายามทำงานอย่างหนัก และทุ่มเทแรงกายแรงใจและสติปัญญา เพื่อให้ประชาชนเห็นว่า นายจุรินทร์ มีคุณสมบัติที่เพียบพร้อมและพร้อมแล้วสำหรับการเป็นนายกรัฐมนตรี  และพรรคประชาธิปัตย์ สามารถกลับมาเป็นพรรคอันดับ 1 ในหัวใจของประชาชน  โดยมีเป้าหมายเพื่อเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในครั้งต่อไป 

 “สิ่งที่ประชาชนสะท้อนจากโพลล์ไปยัง นายจุรินทร์  ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ประสบการณ์ทางการเมืองและการบริหารรัฐกิจมาอย่างยาวนาน และไม่เคยมีประวัติด่างพร้อยในเรื่องของการทุจริตและการใช้อำนาจเพื่อพวกพ้อง รวมทั้ง จากการทำงานอย่างหนักของทุกองคาพยพภายในพรรคประชาธิปัตย์  ตลอดทั้ง 2 ปีที่ผ่านมาในการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ทางพรรคฯ ก็ได้ทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชนหลายเรื่อง เช่น การดูแลคุณภาพชีวิตของเกษตรกรให้มีหลักประกัน การแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อคืนสิทธิ์อันชอบธรรมในการตัดสินใจให้กับประชาชน และยึดมั่นอุดมการณ์ประชาธิปไตยควบคู่กับการก้าวนำไปสู่ความทันสมัย โดยเฉพาะโลกยุคหลังโควิด ซึ่งทางพรรคประชาธิปัตย์ ก็ได้เตรียมคิดนโยบายที่เกี่ยวข้องเอาไว้แล้ว ดังนั้น การที่ผลโพลล์ทั้ง 2 สำนัก ระบุว่า ประชาชนให้ความเชื่อมั่นว่า นายจุรินทร์ จะสามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้รองมาจาก พล.อ.ประยุทธ์ นั้น ทางพรรคก็ต้องขอขอบคุณและจะนำความคิดเห็นของประชาชนที่สะท้อนมาผ่านโพลล์นำมาปรับใช้ในการทำงานต่อไป  เพื่อมุ่งมั่นให้พรรคประชาธิปัตย์ เป็นพรรคอันดับหนึ่งในหัวใจของประชาชนและพร้อมสำหรับการเป็นการแกนนำจัดตั้งรัฐบาลในการเลือกตั้งครั้งหน้า” นายชัยชนะ กล่าว

ขณะที่เมื่อวันที่ 17 ต.ค. 2564 ที่ผ่านมา นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงกรณีที่  RIDC-SSRU POLL ศูนย์นวัตกรรมดิจิทัล วิทยาลัยนวัตกรรมและการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา เปิดเผยผลโพล ใครเหมาะนั่ง ‘นายกฯ’ คนต่อไป ซึ่งมีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค ปรากฏอยู่ในผลโพลด้วยว่า ต้องขอขอบคุณ สุนันทาโพล ที่ได้หยิบยกประเด็นต่างๆมาสำรวจความคิดเห็นประชาชนอย่างกว้างขวาง หนึ่งในนั้นมีการสำรวจความคิดเห็น ในหัวข้อใครเหมาะจะเป็นนายกรัฐมนตรีของไทยคนต่อไป อันดับ1 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา 16.68% อันดับ 2.จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ 16.26% อันดับ 3 สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ 16.19% อันดับ 4 พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ 12.10% อันดับ 5 อนุทิน ชาญวีรกูล 9.85% และอื่นๆ 28.92%

นายราเมศ กล่าวว่า จากผลโพลสะท้อนให้เห็นว่าประชาชนให้ความนิยมนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก จากการทำหน้าที่แทนพี่น้องประชาชน มีผลงานที่ประสบความสำเร็จหลายด้านทั้งในบทบาทรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และบทบาทรองนายกรัฐมนตรี ที่พิสูจน์ให้เห็นว่ามุ่งมั่นทำงานเพื่อประโยชน์ของประชาขนและประเทศเป็นที่ตั้ง ทั้งด้านสังคมความเป็นอยู่ ประชาชน เกษตรกร มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทั้งทางด้านเศรษฐกิจที่มีตัวเลขส่งออกมากทำลายสถิติในหลายปีที่ผ่านมา ย่อมส่งผลให้เศรษฐกิจโดยรวมดีขึ้นตามลำดับ ในบทบาททางการเมืองด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ มีประสบการณ์ จะเห็นว่าเป็นบทบาทของนักการเมืองมืออาชีพ คิดถึงประโยชน์ของประชาชนและประเทศมากกว่าแสวงหาความขัดแย้งในทางการเมืองมีภาวะผู้นำ สิ่งเหล่านี้เป็นประจักษ์พยานได้เป็นอย่างดี

นายราเมศ กล่าวด้วยว่า พรรคประชาธิปัตย์สนับสนุนนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค เป็นนายกรัฐมนตรีอย่างเต็มที่ ผลงานที่ประจักษ์ ประสบการณ์ที่หลากหลาย ทั้งในฝ่ายนิติบัญญัติเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรถึง 11 สมัย เป็นทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลมาแล้วหลายครั้ง เคยเป็นประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล เป็นฝ่ายค้านก็ทำหน้าที่ในการปกป้องรักษาผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศอย่างเต็มที่ ประสบการณ์การทำงานฝ่ายบริหารที่สำคัญ เช่น ดำรงตำแหน่งเป็นเลขานุการนายชวน หลีกภัย มาหลายครั้ง เช่นเลขานุการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เลขานุการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งนายชวน หลีกภัย คือต้นแบบการทำงานการเมืองของนายจุรินทร์ ตลอดมา เคยเป็นรัฐมนตรีมาหลายกระทรวง เช่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ปัจจุบัน เป็นรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ความเชื่อมั่นของประชาชนในประสบการณ์การทำงานการเมือง มีผลงานที่โดดเด่น การทำงานการเมืองที่ยึดความซื่อสัตย์ สุจริต เป็นที่ตั้งจึงทำให้ผ่านเส้นทางการเมืองมายาวนานกว่า 36 ปี พรรคประชาธิปัตย์จึงพร้อมสนับสนุนนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคคนที่ 8 เป็นนายกรัฐมนตรีอย่างเต็มที่