IEA ชี้ วิกฤติพลังงาน ฉุดฟื้นเศรษฐกิจโลก

IEA ชี้ วิกฤติพลังงาน ฉุดฟื้นเศรษฐกิจโลก

"สำนักงานพลังงานสากล" เผย วิกฤติพลังงานทั่วโลก ทั้งความต้องการน้ำมัน และราคาถ่านหิน ก๊าซพุ่งสูง ฉุดฟื้นตัวเศรษฐกิจโลก

สำนักงานพลังงานสากล (IEA) เปิดเผยว่า วิกฤติพลังงานทั่วโลกจะผลักดันให้ความต้องการน้ำมันเพิ่มขึ้นกว่า 500,000 บาร์เรลต่อวัน (bpd) อีกทั้งยังอาจกระตุ้นให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ และฉุดรั้งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19 

รายงานน้ำมันประจำเดือนของ IEA ระบุว่า “ราคาถ่านหินและก๊าซที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ ประกอบกับปัญหาการขาดแคลนไฟฟ้าได้กระตุ้นให้ภาคพลังงาน และอุตสาหกรรมที่ใช้พลังงานสูงหันไปใช้น้ำมัน เพื่อให้แสงสว่างและทำให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างราบรื่น”

“ราคาพลังงานที่ดีดตัวขึ้นได้เพิ่มแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ เมื่อประกอบกับปัญหาไฟฟ้าดับ ก็อาจบีบให้กิจกรรมทางอุตสาหกรรมต้องปรับตัวลดลง และส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัว”

ด้วยเหตุนี้ ความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกในปีหน้าจึงคาดว่าจะฟื้นตัวสู่ระดับก่อนเกิดโรคระบาด

IEA ประมาณการว่า โอเปกพลัส (OPEC+) จะผลิตน้ำมันที่ระดับ 700,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งต่ำกว่าอุปสงค์น้ำมันดิบที่คาดการณ์ไว้ในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ หมายความว่าอุปสงค์จะมีมากกว่าอุปทานอย่างน้อยจนถึงสิ้นปี 2564

อย่างไรก็ตาม ความต้องการที่เพิ่มขึ้นในไตรมาสที่ผ่านมานำไปสู่การดึงสต๊อกผลิตภัณฑ์น้ำมันครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 8 ปี ขณะที่ระดับการจัดเก็บน้ำมันในประเทศ OECD อยู่ที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นปี 2558