IP ลั่นครึ่งปีหลังโตแรง อัพเป้ารายได้ปีนี้แตะ900ล้าน

IP  ลั่นครึ่งปีหลังโตแรง อัพเป้ารายได้ปีนี้แตะ900ล้าน

“อินเตอร์ ฟาร์มา” ปรับเพิ่มเป้ารายได้ปีนี้แตะ 850-900 ล้านบาท จากเดิม750-800 ล้านบาท เหตุ รับรู้รายได้ธุรกิจใหม่รับจ้างผลิต-ยอดขายจากโรงงานที่ซื้อจากเทวา ฟาร์มา รวมถึงบริษัทร่วมทุนเตรียมออกสินค้าใหม่เดือนหน้า

นายตฤณวรรธน์ ธนิตนิธิพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเตอร์ ฟาร์มา จำกัด (มหาชน) หรือ IP เปิดเผยว่า บริษัทได้เป้าเพิ่มเป้ารายได้ปีนี้เป็น 850-900 ล้านบาท จากเดิมที่คาดอยู่ที่ 750-800 ล้านบาท เนื่องจาก ในครึ่งปีหลังบริษัทจะมีรายได้เพิ่ม จากยอดขายของโรงงานผลิตยาที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ไปซื้อจาก บริษัท เทวา ฟาร์มา (ประเทศไทย)

รวมถึงบริษัทจะรับรู้รายได้จากการรับจ้างผลิตที่บริษัทเพิ่งเริ่มดำเนินการในเดือนก.ค.ปีนี้ เพราะโรงงานที่ผลิตอาหารเสริมนั้นมีกำลังการผลิตเหลือ ซึ่งลูกค้ารายแรกของบริษัทคือ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)หรือ TU ซึ่งมีมูลค่า20 ล้านบาท และมีอีก4 บริษัทที่มาให้บริษัทผลิตสินค้าให้ ขณะที่โรงงานที่อยุธยาที่ซื้อจากบริษัทเทวาฯ นั้นบริษัทมีสัญญาในการผลิตเวชภัณฑ์ให้กับบริษัทเทวาฯ เป็นเวลา5ปี

นอกจากนี้จะรับรู้รายได้จากการบริษัทร่วมทุน กับ TU คือ บริษัทอินเตอร์ฟาร์มา-ซีวิต้าจำกัด จะออกสินค้าใหม่ 3 ผลิตภัณฑ์ ที่ทำจากปลา ในเดือนหน้า ดังนั้นทำให้ผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังสูงกว่าครึ่งปีแรกที่มีรายได้รวม 379.15 ล้านบาท

ส่วนความคืบหน้าการผลิตสินค้าใหม่ที่มีส่วนผสมกัญชง กัญชานั้น คาดว่าจะออกและวางขายสินค้าได้ภายในไตรมาส1ปีหน้า เพราะทางบริษัท อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย จำกัด (มหาชน)หรือ RBF มีกำหนดจะส่งมอบสารสกัดให้บริษัทในเดือนก.พ.ปีหน้า ส่วนผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารสกัดกระท่อมนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ 

 นายตฤณวรรธน์ กล่าวว่า การเติบโตของบริษัทในปีนี้ และอนาคตนั้น จะมาจาก 7  ปัจจัย คือ  1.กลุ่มธุรกิจเดิมของบริษัท 5 กลุ่มนั้นจะมีการออกอกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และการเพิ่มช่องทางการขายให้มากขึ้นในประเทศ และเพิ่มยอดขายจากต่างประเทศมากขึ้น จากที่ส่งออกไปจำหน่ายที่สปป.ลาว กัมพูชา เมียนมา และขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการขึ้นทะเบียนยาที่ประเทศเวียดนาม และมีแผนที่จะส่งออกไปจำหน่ายที่ประเทศจีน และ ฮ่องกง รวมถึงประเทศอื่นๆมากขึ้น 

 2.ธุรกิจใหม่คือ รับจ้างผลิตในช่วงของโรงงานเดิม 3. การรับจ้างผลิตโรงงานที่อยุธยาที่เพิ่งซื้อมา 4.การขยายธุรกิจไปสู่พืชสมุนไพรต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกัญชง กัญชา กระท่อมฯลฯ5.การเติบโตของบริษัทร่วมทุนกับTU ที่จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ 6.การขยายธุรกิจเครื่องมือแพทย์ โดยที่ผ่านมาได้เซ็นเอ็มโอยูกับ ทาง บริษัท ปัญจวัฒนาพลาสติก จำกัด (มหาชน) หรือ  PJWซึ่งผลิตภัณฑ์จะจำหน่ายได้ได้กลางปีหน้า และ 7. การซื้อกิจการและการร่วมลงทุนในธุรกิจใหม่ ที่เสริมธุรกิจเดิมของบริษัท ซึ่งอยู่ระหว่างเจรจา