ฟิทช์ ประกาศให้อันดับเครดิต หุ้นกู้ระยะสั้นงของกสิกรไทยที่ ‘F1+(tha)’

ฟิทช์ ประกาศให้อันดับเครดิต หุ้นกู้ระยะสั้นงของกสิกรไทยที่ ‘F1+(tha)’

ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศให้อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นแก่หุ้นกู้ระยะสั้นไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน สกุลเงินยูโร ที่จะออกเสนอขายของธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBank (‘BBB’/‘AA+(tha)’/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ/‘bbb’) ที่ ‘F1+(tha)’

ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ประกาศให้อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นแก่หุ้นกู้ระยะสั้นไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน สกุลเงินยูโร ที่จะออกเสนอขายของธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBank (‘BBB’/‘AA+(tha)’/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ/‘bbb’) ที่ ‘F1+(tha)’

โดยหุ้นกู้ดังกล่าวนี้จะออกภายใต้โครงการหุ้นกู้ medium term notes มูลค่า 3 หมื่นล้านบาทของธนาคารซึ่งสามารถออกหุ้นกู้ได้ทั้งสกุลเงินบาทและสกุลเงินต่างประเทศ หุ้นกู้ดังกล่าวจะเสนอขายในวงจำกัด (private placement) ให้แก่นักลงทุนสถาบันเท่านั้น

ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต

ฟิทช์ให้อันดับเครดิตของหุ้นกู้ระยะสั้น ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน สกุลเงินยูโรของ KBank ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นของธนาคารที่ ‘F1+(tha)’ เนื่องจากหุ้นกู้ดังกล่าวเป็นภาระผูกพันที่ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีหลักประกันของธนาคาร

อันดับเครดิตภายในประเทศของ KBank มีปัจจัยสนับสนุนมาจากความแข็งแกร่งทางการเงินของธนาคารเอง ซึ่งสะท้อนโดยเครือข่ายทางธุรกิจในประเทศของธนาคารที่แข็งแกร่ง ความแข็งแกร่งในด้านธุรกรรมทางการเงินผ่านช่องทางดิจิทัลและโครงสร้างการระดมทุน (funding) โดยรวมที่มีเสถียรภาพ รวมทั้งแรงกดดันต่อโครงสร้างทางการเงินเนื่องจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาในปี 2563 และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ฟิทช์คาดว่าจะค่อนข้างช้าในช่วงปี 2564-2565

นอกจากนี้อันดับเครดิตภายในประเทศของ KBank ยังพิจารณาจากการเปรียบเทียบระหว่างโครงสร้างเครดิตของธนาคารกับธนาคารและบริษัทอื่นที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตภายในประเทศด้วยเช่นกัน สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิตและปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคตสามารถดูได้จาก “ฟิทช์คงอันดับเครดิตของธนาคารกสิกรไทย ที่ ‘BBB’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ; ปรับอันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำเป็น 'BBB'” ("Fitch Affirms KASIKORNBANK's IDR at 'BBB'; Support Rating Floor Revised to 'BBB'") ลงวันที่ 26 มีนาคม 2564

ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน):

อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นของ KBank และของหุ้นกู้ระยะสั้นดังกล่าว ไม่สามารถปรับเพิ่มอันดับเครดิตได้เนื่องจากเป็นอันดับเครดิตที่อยู่ในระดับสูงสุดแล้ว

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)

หากอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ KBank ถูกปรับลดอันดับเครดิตลงต่ำกว่า 'AA-(tha)’ จะส่งผลให้อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิถูกปรับลดอันดับลงเช่นกัน อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ดังกล่าวไม่น่าจะเกิดขึ้นในระยะสั้น เนื่องจากอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของธนาคาร ยังคงมีแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ นอกจากนี้การปรับอันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำเพิ่มขึ้นเมื่อก่อนหน้านี้จะช่วยจำกัดโอกาสที่อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวจะถูกปรับลดอันดับ รายละเอียดเพิ่มเติมของปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่ออันดับเครดิตภายในประเทศของ KBank ในอนาคต สามารถดูได้จากประกาศอันดับเครดิตลงวันที่ 26 มีนาคม 2564

การพิจารณาปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG)

ระดับคะแนนที่สูงที่สุดสำหรับความสัมพันธ์ของ ESG ต่ออันดับเครดิต (หากมีการเปิดเผย) แสดงว่าระดับคะแนนจะอยู่ที่ระดับ 3 ซึ่งหมายความว่าปัจจัยด้าน ESG จะไม่ส่งผลกระทบหรืออาจมีผลกระทบในระดับที่น้อยมากต่ออันดับเครดิตของธนาคาร ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยจากลักษณะของธุรกิจหรือจากการบริหารจัดการของธนาคารก็ตามสำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมหาได้จากที่นี่