'รมช.สธ.' กางแผนวัคซีนโควิด-19 มั่นใจสิ้นตุลา ฉีด100%ให้ 'ผู้สูงวัย-7กลุ่มเสี่ยง'

'รมช.สธ.' กางแผนวัคซีนโควิด-19 มั่นใจสิ้นตุลา ฉีด100%ให้ 'ผู้สูงวัย-7กลุ่มเสี่ยง'

รมช.สาธารณสุข แจงวุฒิสภา ย้ำมีแผนจัดหาวัคซีน ปี65 เตรียมนำเข้า กว่า 200 ล้านโดส มั่นใจสิ้นตุลาคม ฉีด100% คนสูงอายุ-7โรคเสี่ยง

       นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ชี้แจงต่อที่ประชุมวุฒิสภา ช่วงกระทู้ถามสดของ  นพ.อำพล จินดาวัฒนะ ส.ว.ต่อความคืบหน้าแผนการจัดหาวัคซีน และการกระจายวัคซีนไปยังประชาชน ว่า  ในปี 2564 หน่วยงานมีแผนนำเข้าวัคซีน รวม 124 ล้านโดส แบ่งเป็นวัคซีนหลัก ทั้งแอสตราเซเนก้า 61 ล้านโดส ซึ่งในเดือนกันยายนนี้ จะได้รับประมาณ 7.3 ล้านโดส ในเดือนตุลาคม จะได้รับ 10 ล้านโดส เดือนพฤศจิกายน และเดือนธันวาคม จะได้รับเดือนละ 13 ล้านโดส ส่วนวัคซีนไฟเซอร์ ในเดือนนี้ มีแผนจะได้รับจำนวน 2 ล้านโดส เดือนตุลาคมอีก 8 ล้านโดส เดือนพฤศจิกายน และเดือนธันวาคม อีกเดือนละ 10 ล้านโดส รวมทั้งหมดกว่า 31 ล้านโดส ดังนั้นในปีนี้วัคซีนหลักและวัคซีนทางเลือกจะได้ประมาณ 140 ล้านโดส ดังนั้นมั่นใจว่าจำนวนวัคซีนจะมีเพียงพอฉีดประชาชนให้ทั่วถึงและตรงเป้าหมาย

        นายสาธิต ชี้แจงอีกว่าสำหรับปี 2565  สถาบันวัคซีนแห่งชาติ และกระทรวงสาธารณสุข มีแผนจัดหาวัคซีนต่ำกว่า 200 ล้านโดส โดยคำนึงถึงการวิวัฒนาการของสายพันธุ์ไวรัส และการพัฒนาของวัคซีน  เบื้องต้นหน่วยงานเริ่มการเจรจา เพื่อเตรียมการจัดซื้อวัคซีนแอสตราเซเนก้า ซึ่งเป็นวัคซีนไวรัลเวคเตอร์ ที่กำลังพัฒนาวัคซีนรุ่นที่ 2 กับบริษัทผู้ผลิตแล้ว ซึ่งเราได้เปรียบเพราะบริษัทที่ผลิต อยู่ในประเทศไทย รวมถึงวัคซีนไฟเซอร์ และวัคซีนสปุกนิก-วี 

       “ยอมรับว่าการกระจายวัคซีน ก่อนหน้านี้มีปัญหาในเริ่มแรก แต่หลังจากนี้ มั่นใจว่า การกระจายวัคซีนจะเป็นไปตามเป้าหมาย หลังการเจรจากับบริษัทผู้ผลิตวัคซีนที่มีความแน่นอนมากขึ้น จึงจะทำให้ในปีนี้ ไทยจะมีปริมาณวัคซีนเพียงพอ ตรงเป้าหมาย และจะเร่งกระจายไปยังกลุ่มเสี่ยงผู้สูงอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป กลุ่ม 7 โรคเสี่ยง และสตรีตั้งครรภ์ แต่ยังติดปัญหาว่า ผู้สูงอายุในต่างจังหวัดยังกลัววัคซีน หรือบางคนมีอุปสรรคในการเดินทาง แต่กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดฉีดเชิงรุก เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายสามารถมารับวัคซีนได้เร็วที่สุด และครบ100%ภายในเดือนตุลาคม ”นายสาธิตชี้แจง.