KKPไตรมาส2กำไร 1.35 พันล้าน โต14% -ตั้งสำรองเพิ่ม1.37 พันล้าน

KKPไตรมาส2กำไร 1.35 พันล้าน โต14% -ตั้งสำรองเพิ่ม1.37 พันล้าน

KKP ไตรมมาส2/64กำไร 1.35 พันล้าน เพิ่มขึ้น14.4% จากไตรมาส2/63ที่มีกำไรสุทธิ 1.18 พันล้าน เหตุรายได้ดอกเบี้ย-ไม่ใช่ดอกเบี้ยโต รวมถึงคุมค่าใช้จ่ายดันครึ่งปีแรก64กำไร 2.81 พันล้าน เพิ่มขึ้น 5.6% พร้อมตั้งสำรองเพิ่ม1.37 พันล้าน รองรับความไม่แน่นอน

ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)หรือ KKP แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส2ปี 2564 ว่ากำไรสุทธิ 1,354.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้น14.4% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,184.19 ล้านบาท ทำให้ช่วงครึ่งปีแรก 2564 มีกำไรสุทธิ 2,816.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.6%จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2,668.25 ล้านบาท

ทั้งนี้ธนาคารยังคงสามารถรักษาผลการดำเนินงานได้ในระดับที่ดีจากการที่ธนาคารได้มุ่งเน้นการเสริมสร้างธุรกิจหลักด้านต่างๆ เพื่อสนับสนุนให้ธนาคารมีการกระจายรายได้อย่างเหมาะสม โดยสำหรับไตรมาส 2/2564 ธนาคารมีรายได้ที่เพิ่มขึ้นทั้งในส่วนของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิรวมถึงรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยที่ปรับเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยรายได้ดอกเบี้ยสุทธิปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.0


ในขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 56.9 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ในด้านของค่าใช้จ่ายธนาคารยังคงสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายโดยรวมได้อย่างมีประสิทธิภาพส่งผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่อรายได้สุทธิสำหรับไตรมาส 2/2564อยู่ที่ร้อยละ 39.2 ปรับลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 

ในส่วนของการตั้งสำรองธนาคารยังคงอาศัยความระมัดระวังในการพิจารณาสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดไตรมาส 2/2564


ส่งผลให้ธนาคารมีการพิจารณาสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่า จะเกิดขึ้นสำหรับไตรมาส 2/2564 เป็ นจำนวน 1,378 ล้านนบาท ซึ่งยังคงอยู่ในระดับที่สูง เพื่อรองรับความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นธนาคารยังคงดำเนินธุรกิจด้วยความรอบคอบอย่างต่อเนื่อง

โดยทางด้านการขยายตัวของสินเชื่อธนาคารยังคงให้ความสำคัญกับการรักษาคุณภาพของสินเชื่อและมุ่งเน้นการขยายสินเชื่อในกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนที่เหมาะสมและมีคุณภาพสินเชื่อที่ดีภายใต้สภาวะเศรษฐกิจที่ยงัคงมีความไม่แน่นอนอยู่


สำหรับไตรมาส 2/2564 สินเชื่อรวมของธนาคารมีการขยายตัวที่ร้อยละ 6.6จากสิ้นปี2563 โดยหลักมาจากการขยายตัวในส่วนของสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อบรรษัท

ในด้านคุณภาพของสินเชื่ออัตราส่วนสินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิตต่อสินเชื่อรวม ณ สิ้นไตรมาส 2/2564อยู่ที่ ร้อยละ 3.4 ปรับเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 3.2 เมื่อสิ้นไตรมาส 1/2564และมีอัตราส่วนสำรองต่อสินเชื่อที่มีการด้อยค่าเครดิตสินเชื่อรวม ณ สิ้นไตรมาส 2/2564 อยู่ที่ร้อยละ160.1


สำหรับเงินกองทุน ธนาคารยังคงมีสถานะเงินกองทุนอยู่ในระดับที่สูงและเกินกว่าเกณฑ์ที่กำ หนดโดยธนาคารแห่งประเทศไทยโดย ณ สิ้นไตรมาส 2/2564 ธนาคารมีอตัราส่วนเงินกองทุนท้งัสิ้นต่อสินทรัพยเสี่ยงอยู่ที่ร้อยละ17.18


ด้านธุรกิจตลาดทุน บริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร มีส่วนแบ่งตลาด (SET และ mai ไม่รวมบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัท ) ที่ร้อยละ 12.10 ซึ่งคิดเป็นส่วนแบ่งตลาดอันดับที่ 1 จากจำนวนบริษัทหลักทรัพย์ ทั้งหมด 38 แห่ง