รู้เท่าทันหุ้นเทคฯ จีน เมื่อเผชิญ Data Security Law

นับจากต้นเดือน ก.พ. เป็นต้นมาการลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีจีนขนาดใหญ่ของจีนกับสร้างผลตอบแทนที่ติดลบ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับบริษัทเทคโนโลยีสหรัฐฯ ที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่เป็นบวก นอกจากประเด็นกฏหมายป้องกันการผูกขาดแล้ว ล่าสุดยังมีประเด็นความปลอดภัยของข้อมูลเข้ามาเกี่ยวข้อง วันนี้เราจะมาสรุปสาเหตุที่ทำให้ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาหุ้นจีนกลับมาผันผวนอีกครั้ง

เกิดอะไรขึ้นกับหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่จีน

ในช่วงที่ผ่านมาตลาดหุ้นจีนมีการปรับฐานลง ฉุดโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่เรารู้จัก เช่น Tencent , Meituan และ Alibaba  เนื่องจากได้รับแรงกดดันที่บริษัทเรียกรถโดยสาร สัญชาติจีน Didi Global (“Didi”) ได้ถูกหน่วยงานกำกับดูแลบริหารไซเบอร์สเปซของจีน หรือ Cyberspace Administration of China (“CAC”) ประกาศห้ามให้ Didi รับผู้ใช้งานใหม่ หลังจากที่มีการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ เพียง 2 วัน และต่อมาได้ถูกสั่งให้ App Stores ในจีนถอด Application ของ Didi ออกจากระบบทั้งหมด ซึ่งทาง CAC ได้ให้เหตุผลว่า Didi มีการทำผิดกฏหมายด้านข้อมูล โดยมีการรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอย่างไม่ถูกต้อง อีกทั้งการที่ Didi มีการจดทะเบียนในตลาดสหรัฐฯ นี้อาจทำให้ข้อมูลของจีนรั่วไหลได้ ทำให้ราคาหุ้นของ Didi ปรับตัวลดลงถึง 20% ในวันทำการซื้อขายวันแรก หลังจากที่ CAC ได้มีการประกาศ

นอกจาก Didi ที่ถูกตรวจสอบจาก CAC แล้ว บริษัทให้เช่ารถบรรทุก Full Truck Alliance และ Kanzhun บริษัทจัดหางานออนไลน์ ที่พึ่งเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ก็ถูกเข้าตรวจสอบเช่นกัน ทำให้เกิดความกังวลว่าบริษัทเทคโนโลยีอื่นๆ ของจีนอาจจะถูกเพ่งเล็งต่อไปได้

 3 เหตุผลสำคัญที่ CAC หันมาเริ่มตรวจสอบบริษัทเทคฯ จีน

การที่ทาง CAC เริ่มเข้าตรวจสอบบริษัทต่างๆ เกี่ยวกับความปลอดภัยทางด้านข้อมูล ทันทีหลังจากที่บริษัทเหล่านี้พึ่งเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ อาจไม่ใช่เรื่องบังเอิญ โดยเรามองว่า 3 เหตุผลสำคัญคือ 1. บริษัทเหล่านี้เลือกที่จะเข้าระดมทุนในตลาดสหรัฐฯ แทนที่จะเป็นตลาดจีน เนื่องจากทาง CAC อาจมองว่าการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ อาจทำให้ข้อมูลต่างๆ รั่วไหลและกระทบต่อความมั่นคงของจีนได้  2.  ในช่วง IPO Didi ได้มีการแนบข้อมูลรายละเอียดของ Supplier เพื่อเป็นเอกสารประกอบการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ก่อนที่รัฐบาลจีนจะเห็นข้อมูล ซึ่งถือเป็นประเด็นอ่อนไหวมาก   3.  ในเดือนก่อนหน้าทางการจีนได้มีการออกกฏหมายการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล (Data Security Law) เกี่ยวกับข้อมูลอีกด้วย ทำให้ทาง CAC ออกมาเคลื่อนไหวตรวจสอบบริษัทเหล่านี้

ทำไมเหตุการณ์ของบริษัท Didi กระทบหุ้นบริษัทเทคโนโลยีจีนอื่นๆ

ก่อนที่ทาง CAC จะได้มีการเข้าตรวจสอบ Didi ทาง CAC ได้มีการออกมาประณาม 351 Apps ที่ได้มีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานอย่างผิดกฏหมายตั้งแต่เดือนพ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งรวมไปถึง App ที่พัฒนาโดยบริษัทเทคโนโลยีจีนขนาดใหญ่อย่าง Tencent Holding, Baidu และ ByteDance และยังรวมไปถึงบริษัทต่างชาติอย่าง LinkeIn และ Nike อีกด้วย โดยบริษัทเหล่านี้จะต้องแก้ไขและรายงานขั้นตอนต่างๆ ภายใน 10-15 วัน ไม่เช่นนั้นอาจถูกลงโทษ

จากกรณีเหตุการณ์การเข้าตรวจสอบของทาง CAC โดยเฉพาะกรณีของ Didi สร้างแรงกดดันต่อบริษัทเทคโนโลยีของจีนเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นการแสดงให้เห็นว่าทางการจีนหันมาจริงจังต่อการรักษาความปลอดภัยทางด้านข้อมูลมากขึ้น และบริษัทที่ไม่ทำตามกฏการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล อาจถูกทางการจีนเพ่งเล็งและถูกเข้าตรวจสอบได้

เราคาดว่าหุ้นจีนจะกลับเข้าระดมทุนในตลาดหุ้นฮ่องกงและจีนมากขึ้น

นับจากช่วงต้นปีทางการจีนยังได้มีการกดดันบริษัท Xinmalaya ที่เป็น Podcast Platform ของจีน หลังมีแผนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ให้ไปจดทะเบียนในฮ่องกงเนื่องจากมีความกังวลเรื่องความปลอดภัยของข้อมูล และล่าสุดบริษัทให้บริการข้อมูลทางการแพทย์ของจีน LinkDoc Technology ที่ได้รับการสนับสนุนโดย Alibaba Health ได้มีการยกเลิกแผนการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ เช่นกัน 

นอกจากนี้การเคลื่อนไหวของ CAC ได้มีการยื่นเรื่องเสนอกฏหมายสำหรับบริษัทที่มีฐานข้อมูลของผู้ใช้งานมากกว่า 1 ล้านคนขึ้นไป จะต้องได้รับการอนุมัติและได้รับการตรวจสอบก่อน หากจะจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ ซึ่งมองว่าเป็นการพุ่งเป้าไปที่การจดทะเบียนในตลาดสหรัฐฯ เป็นหลัก ซึ่งหากกฏหมายนี้เริ่มใช้งาน คาดว่าจะมีผลทำให้บริษัทของจีนที่วางแผนจะไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ หันมาระดมทุนในตลาดฮ่องกง

ความผันผวนที่เกิดขึ้นในกลุ่มบริษัทจีนที่มีขนาด Market cap. ขนาดใหญ่ ส่งผลให้ปัจจัยพื้นฐานเริ่มถูก เมื่อเทียบกับอดีต  ล่าสุด Alibaba เทรด EV/Sale เพียง 3.8x ต่ำสุดในรอบ 5 ปี ในขณะที่ การเติบโตของรายได้ปี 2021 -2022 อยู่ที่ 31.3% และ 20.9% ตามลำดับ*  ทำให้ในแง่ของความเสี่ยงขาลงของราคาน่าจะจำกัดมากขึ้น  แต่ยังคงต้องติดตามพัฒนาข่าวด้านกฏหมายต่างๆที่รัฐบาลจีนจะประกาศออกมา

ที่มา: Nikkei Asia, CNN, CNBC, South China Morning Post, Reuters

ข้อมูลอ้างอิงจาก Koyfin ณ วันที่ 15 ก.ค. 2021

ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บลจ.ทิสโก้ หรือ TISCO Contact Center โทร. 0 2633 6000 กด 4, 0 2080 6000 กด 4 และ www.tiscoasset.com หรือ แอปพลิเคชัน TISCO My Funds

ข้อมูล บทความ บทวิเคราะห์และการคาดหมาย รวมทั้งการแสดงความคิดเห็นทั้งหลายที่ปรากฏอยู่ในรายงานฉบับนี้ทำขึ้นบนพื้นฐานของแหล่งข้อมูลที่ดีที่สุดที่ได้รับมาและพิจารณาแล้วเห็นว่า น่าเชื่อถือ แต่ทั้งนี้ไม่อาจรับรองความถูกต้อง ความสมบูรณ์ แท้จริงของข้อมูลดังกล่าว ความเห็นที่แสดงไว้ในรายงานฉบับนี้ได้มาจากการพิจารณาโดยเหมาะสมและรอบคอบแล้ว และอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งล่วงหน้าแต่อย่างใด บทความ บทวิเคราะห์ และการคาดหมายทั้งหลายที่ปรากฏ อยู่ในรายงานฉบับนี้เป็นการนำไปใช้โดยผู้ใช้ยอมรับความเสี่ยงและเป็นดุลยพินิจของผู้ใช้แต่เพียงผู้เดียว