'หุ้นไทย' ช่วงเช้าวันนี้ เด้งแตะ 14.52 จุด หลัง PTT - PTTGCดันดัชนี
หุ้นไทยวันนี้ (13 ก.ค.) ช่วงเช้าดัชนีอยู่ที่ระดับ 1,564.36 จุด หรือบวก 14.52 จุด เพิ่มขึ้น 0.94% โบรกฯ ชี้ดัชนีปรับขึ้นทิศทางตลาดหุ้นเอเชียฟื้นแดนบวก รวมถึงแรงหนุนจากหุ้น PTT และ PTTGC ที่รีบาวด์ขึ้นมาหนุนตลาดได้ดี
ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยวันนี้ (13 ก.ค.) ดัชนี SET Index หุ้นไทยวันนี้ (13 ก.ค.) ช่วงเช้าดัชนีอยู่ที่ระดับ 1,564.36 จุด หรือบวก 14.52 จุด เพิ่มขึ้น 0.94%
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นได้กว่า 10 จุด เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่จะเคลื่อนไหวในแดนบวก โดยเฉพาะตลาดในแถบเอเชียที่บวกได้ดี จากเม็ดเงินไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยง แต่ตลาดในแถบอาเซียนก็ยังติดลบอยู่บางตลาดฯ
ทั้งนี้ ตลาดบ้านเราได้รับแรงหนุนจากหุ้น PTT และ PTTGC ที่รีบาวด์ขึ้นมาหนุนตลาดฯได้ดี แต่มองว่าตลาดฯคงจะบวกไปได้ในกรอบจำกัดเนื่องจากช่วงสั้นยังติดปัญหาเรื่องสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในประเทศ ที่จำนวนผู้ติดเชื้อยังอยู่ในระดับสูง โดยวันนี้มีกว่า 8 พันราย จึงยังต้องติดตามดูสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดอย่างใกล้ชิด
ส่วนนอกประเทศให้รอติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯที่จะออกมาในคืนนี้ พร้อมให้แนวรับ 1,550-1,540 จุด ส่วนแนวต้าน 1,570 จุด
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการอาวุโสและนักกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวโดยมีกรอบแนวต้านสำคัญ 1565 จุด และแนวรับสำคัญที่ 1510-1530 จุด
PTTGC เข้าซื้อกิจการของ Allnex เราคาดราคาปรับลดลงเนื่องจากเป็นดีลซื้อกิจการขนาดใหญ่ (1.48 แสนล้านบาท) และตลาดกังวลเรื่องการเพิ่มทุน อย่างไรก็ตามเรามองบริษัทไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุนเนื่องจาก 1) เงินสดในมือ 1.1 แสนล้านบาท ณ สิ้นไตรมาส 1/64 2) เงินที่ได้รับจากการขายเงินลงทุน 3 หมื่นล้านบาท 3) วงเงินกู้ที่ได้รับจาก ปตท. 7 หมื่นล้านบาท 4) กระแสเงินสดจากการดำเนินงานช่วงไตรมาส 2/64 ที่ดี เรามองดีลนี้เป็นบวก และมองการปรับลดลงของราคาหุ้นน่าสนใจ โดยเฉพาะในช่วง 51-53 บาท
ขณะเดียวกันหุ้นกลุ่มธนาคารประกาศงบสัปดาห์นี้ คาดกำไรปกติของกลุ่ม -10% QoQ และ +30% YoY อย่างไรก็ตามสถานการณ์ระบาดของโควิดในประเทศที่ยืดเยื้อ และแนวโน้มการปรับประมาณการทางเศรษฐกิจในประเทศลง ทำให้มีความเสี่ยงต่อคุณภาพลูกหนี้ การตั้งสำรองและการกลายเป็นหนี้เสีย ทำให้แม้งบธนาคารออกมาดี นักลงทุนก็จะยังคงกังวล ขณะที่หากงบออกมาแย่กว่าคาด ราคาหุ้นจะมีความเสี่ยงที่จะมีแรงขายลดน้ำหนักได้ทันที ดังนั้นเราเน้นรอซื้อหลังประกาศงบมากกว่าดักก่อนหน้างบออก โดยคาดตารางประกาศผลประกอบการดังนี้ 15 ก.ค. KTC, TISCO / 20 ก.ค. BBL, TTB / 21 ก.ค. KBANK
