BGRIM เตรียมนำเข้า LNG ปลายปีนี้ หนุนต้นทุนลดดันกำไรโต

BGRIM เตรียมนำเข้า LNG ปลายปีนี้  หนุนต้นทุนลดดันกำไรโต

BGRIM เตรียมนำเข้า LNG ปลายปีนี้ หลัง กกพ.ไฟเขียวนำเข้า1.2 ล้านตันต่อปี แจงช่วย"ลดต้นทุน"ได้อย่างมีนัยสำคัญ หนุน"กำไร"เติบโต เล็ง ขออนุญาตนำเข้าเพิ่ม รองรับโครงการโรงไฟฟ้าในอนาคต

        นายนพเดช กรรณสูต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือBGRIM เปิดเผยว่า  บริษัทคาดว่าจะเริ่มนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว(LNG)ในช่วงปลายปีนี้ หลังจากที่ บริษัท บี.กริม.แอลเอ็นจี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ BGRIM ถือหุ้น100% ได้รับอนุญาตประกอบกิจการจัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติ(LNG Shipper) จากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.)รวมเป็น 1,200,000 ตันต่อปี 

      ทั้งนี้มีบริษัทผู้จำหน่าย LNG หลายราย เสนอขายLNG กับทางบริษัท โดยขณะนี้ก็อยู่ระหว่างเจรจา ซึ่งทาง  BGRIM มีแผนที่จะทำสัญญาซื้อขายระยะยาว 7 ปี โดยLNG ที่นำเข้ามาทั้งหมดจะใช้เป็นพลังงานในการผลิตไฟฟ้าขนาดเล็ก (SPP)ในกลุ่มของบริษัทที่อยู่ในประเทศไทยจำนวน 18 โครงการ ที่จ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ,โครงการอยู่ระหว่างก่อสร้าง เช่น SPP Replacement อีก 5 โครงการ  

     

 รวมถึงโครงการในอนาคตที่บริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาลงทุนอยู่หลายโครงการ ซึ่งจะมีความชัดเจนลงทุนในช่วงครึ่งปีหลัง2564นี้  โดยโครงการอยู่ระหว่างพิจารณาลงทุน เช่น โรงไฟฟ้าก๊าซฯที่ประเทศเวียดนาม โรงไฟฟ้าลมที่ประเทศเกาหลีใต้ โรงไฟฟ้าที่ประเทศมาเลเซีย ฯลฯ

      “LNGที่นำเข้ามาจะใช้ในโครงการโรงไฟฟ้าSPP ของบริษัท ซึ่งถือว่า1.2 ล้านตันพอดีกับโครงการที่มีในมือในปัจจุบัน  โดยบริษัทมีแผนที่จะยื่นขออนุญาตนำเข้าเพิ่ม เพื่อรองรับกับโครงการใหม่ๆที่บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาลงทุนเพิ่มหลายโครงการ ซึ่งจะมีความชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลัง64"

นายนพเดช กล่าวว่า จากที่บริษัทเป็นผู้นำเข้าLNG ได้จะส่งผลทำให้บริษัทลดต้นทุนการดำเนินงานลดลงได้อย่างมีนัยสำคัญ เพราะ ต้นทุนค่าก๊าซธรรมชาติคิดเป็น65-70%ของต้นทุนการดำเนินงานของบริษัท  โดยราคาก๊าซธรรมชาติที่ปรับลดลง 1บาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิ 13-15 ล้านบาทต่อปี

 

ทั้งนี้บริษัทมีแผนที่จะยื่นขออนุญาตในการนำเข้า LNG เพิ่มขึ้น หากทางกกพ.  เปิดให้ยื่น เพราะบริษัทมีโครงการลงทุนโรงไฟฟ้าหลายโครงการ และหากมีโอกาสก็จะมีการขาย LNG ให้กับทางผู้ประกอบไฟฟ้ารายอื่นด้วย 

สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส2ปีนี้ แนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง เพราะลูกค้าเดิมกลุ่มอุตสาหกรรมมีการใช้ไฟฟ้ามากขึ้น เช่น อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน โรงงานผลิตแก๊ส ฯลฯและมีลูกค้าอุตสาหกรรมใหม่ที่จะมีการใช้ไฟฟ้าอีกว่า 40 เมกะวัตต์ นอกจากนี้บริษัทมีการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เพื่อลดต้นทุนในการดำเนินงานต่อเนื่อง

 อนึ่งผลการดำเนินงานไตรมาส1ปี 2564 BGRIM มีรายได้ 10,480.56 ล้านบาท มีกำไรสุทธิที่ 610.96 ล้านบาท