‘แอร์เอเชีย’จี้รัฐอัดฉีดเงินกระตุ้นท่องเที่ยว หนุนรูทบินในประเทศฟื้นตัว30%

‘แอร์เอเชีย’จี้รัฐอัดฉีดเงินกระตุ้นท่องเที่ยว  หนุนรูทบินในประเทศฟื้นตัว30%

สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอก 3 ภายในประเทศยังคงยืดเยื้อและส่อลากยาว! จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวันยังสูงจนคนไทยหวาดหวั่น ไม่กล้าออกเดินทางท่องเที่ยว ส่งผลให้ธุรกิจ “สายการบิน” หลายแห่งต้องปรับลดจำนวนเที่ยวบินในประเทศสอดรับกับดีมานด์ที่หดหาย!

ธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเชียเอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้ถือหุ้นใหญ่ของสายการบินไทยแอร์เอเชีย เล่าว่า สถานการณ์เที่ยวบินในประเทศของ “ไทยแอร์เอเชีย” ยังคงได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอก 3 โดยเดือน มิ.ย.นี้ใช้เครื่องบินทำการบิน 5 ลำ จากที่มีฝูงบินกว่า 60 ลำ เท่ากับเดือน พ.ค.ที่ผ่านมาซึ่งใช้เครื่องบินไม่เกิน 5 ลำเช่นกัน โดยอัตราการขนส่งผู้โดยสาร (โหลดแฟคเตอร์) อยู่ที่ประมาณ 50-60% จากการให้บริการไปยังจังหวัดละแค่ 1-2 เที่ยวบินต่อวัน บางจังหวัดให้บริการแบบวันเว้นวันด้วยซ้ำในตอนนี้

“ส่วนการเพิ่มเที่ยวบินในเดือน ก.ค.นี้ต้องดูผลจากมาตรการผ่อนคลายของ ศบค.ที่เพิ่งประกาศไปเมื่อ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมาเพิ่มเติม ซึ่งต้องมาพร้อมกับการกระจายฉีดวัคซีนแก่คนไทยมากขึ้น ถึงจะหนุนภาพการเดินทางด้วยเครื่องบินฟื้นตัว หากสามารถเร่งฉีดวัคซีนได้มากเท่าไร ก็ผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ได้มากขึ้นเท่านั้น”

ภาพรวมแผนการทำตลาดของไทยแอร์เอเชียในช่วงที่ยังมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอก 3 จึงยังไม่เน้นเชิงรุก เพราะตลาดการเดินทางในประเทศยังไม่เปิดเต็มที่ ยังต้องจับตาดูภาพรวมของธุรกิจท่องเที่ยว บริการ โรงแรม ร้านอาหาร และอื่นๆ ด้วยว่ามีการเปิดให้บริการมากน้อยแค่ไหน กล่าวคือต้องมีการเปิดให้บริการแบบ “ครบวงจร” ภายใต้มาตรการรักษาระยะห่าง จากนั้นไทยแอร์เอเชียถึงจะพิจารณาเพิ่มเที่ยวบิน

โดยมองว่ายังคงไม่เห็นภาพธุรกิจกลับมาเปิดให้บริการแบบพรึ่บเดียว!ในช่วงนี้ เพราะการเดินทางตอนนี้น้อยมาก ประกอบกับคนไม่ค่อยมีกำลังซื้อด้านท่องเที่ยวแล้วด้วย รัฐบาลจำเป็นต้องมีมาตรการออกมากระตุ้นเพิ่ม! นอกเหนือจากโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3” และโครงการ “ทัวร์เที่ยวไทย” เพราะหากมีโครงการใหม่ๆ ที่จะช่วยอัดฉีดเม็ดเงินหมุนเวียนแก่ภาคท่องเที่ยวก็นับว่ายิ่งดี!

“ในช่วงที่จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวันยังสูงอยู่ เรายังทำอะไรไม่ได้มาก เพราะคนไม่บินกันเลย เนื่องจากเวลาบินไปต่างจังหวัด ต้องถูกกักตัว โดยบางอำเภอ บางตำบล ทางอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ไม่ให้คนในพื้นที่สีแดงเข้มเดินทางเข้า โดยเฉพาะคนที่เดินทางจากกรุงเทพฯ เพราะต้องการลดความเสี่ยง ถึงอนุญาตให้เดินทางเข้าไปก็ต้องกักตัว 14 วันอยู่ดี จึงไม่ค่อยมีคนเดินทาง ทำให้ภาพรวมการเดินทางหยุดชะงัก” ธรรศพลฐ์กล่าว

ด้าน สันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า เริ่มเห็นสัญญาณที่ดีทั้งจากนโยบายรัฐในการเปิดโมเดล “ภูเก็ต เเซนด์บ็อกซ์” รับนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนเเล้วเดินทางเข้ามาใช้จ่ายกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งการผ่อนคลายมาตรการข้อจำกัดต่างๆ ทำให้ประชาชนมั่นใจเเละวางเเผนการเดินทางภายในประเทศมากขึ้น หลังจากที่จำเป็นต้องเฝ้าระวังเเละเลี่ยงการเดินทางมาอย่างยาวนาน

เราเชื่อว่าความต้องการเดินทางเเละท่องเที่ยวไม่ได้หายไปไหน เเค่รอเวลาเเละโอกาสมาถึง หลังจากนี้มั่นใจว่าการท่องเที่ยวจะกลับมาได้อย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว ซึ่งเป็นผลดีกับผู้ประกอบการเเละภาคธุรกิจโดยรวม”

และตั้งเเต่เดือน ก.ค.เป็นต้นไป ไทยแอร์เอเชียประเมินว่าจะสามารถเพิ่มความถี่บินในทุกเส้นทาง เพื่อรองรับความต้องการเดินทางที่มากขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเส้นทางสู่จังหวัดภูเก็ต ตามนโยบายภูเก็ตเเซนด์บ็อกซ์ ซึ่งไทยแอร์เอเชียจะเพิ่มเที่ยวบินตรง ดอนเมือง-ภูเก็ต เป็น 3 เที่ยวบินต่อวัน เเละสุวรรณภูมิ-ภูเก็ต เป็น 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ (ทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์ เเละอาทิตย์) ก่อนจะเพิ่มบินเส้นทางข้ามภาคในเดือนต่อๆ ไป

“ภาพรวมคาดว่าภายในเดือน ก.ค.นี้ ไทยแอร์เอเชียจะกลับมาบินเส้นทางภายในประเทศได้ 30% เมื่อเทียบกับสิ้นปีที่ผ่านมา ก่อนสถานการณ์โควิด-19 ระลอกใหม่”

ทั้งนี้ไทยแอร์เอเชียได้จัดโปรโมชั่นราคาตั๋วเครื่องบินกระตุ้นการเดินทาง เส้นทางสุวรรณภูมิ-ภูเก็ต เริ่มต้น 299 บาทต่อเที่ยว ส่วนเส้นทางดอนเมือง-ภูเก็ต เริ่มต้น 599 บาทต่อเที่ยว สำหรับการจอง 3 วันเท่านั้น ตั้งเเต่วันที่ 23-25 มิ.ย.นี้ สำหรับการเดินทางตั้งเเต่วันที่ 1 ก.ค.-30 พ.ย.2564 และโปรโมชั่นสำหรับเส้นทางข้ามภาคอื่นๆ เชียงใหม่-ภูเก็ต เริ่มต้น 1,299 บาทต่อเที่ยว ขอนเเก่น-ภูเก็ต เริ่มต้น 1,599 บาทต่อเที่ยว เเละอู่ตะเภา-ภูเก็ต เริ่มต้น 999 บาทต่อเที่ยว

ขณะเดียวกันได้ให้ความสำคัญสูงสุดกับมาตรการสุขอนามัยเพื่อสร้างความมั่นใจในการเดินทาง โดยพนักงานผู้ให้บริการของไทยเเอร์เอเชียทยอยฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบ 2 เข็มเเล้วในเดือน มิ.ย.นี้ คิดเป็นกว่า 90% จากพนักงานทั้งหมดทั่วประเทศ ทั้งนี้ยังให้บริการตามมาตรฐานความปลอดภัยเข้มข้นสูงสุดในทุกเที่ยวบินเช่นเดิม