
โบรก ประสานเสียงคาดหุ้นไทยเดือนมิ.ย.ทะลุ1,600จุด หวังรัฐกระจาย-ฉีดวัคซีนมากขึ้น หนุนนักลงทุนเข้าลงทุน“เอเซีย พลัส” ชี้ปัจจัยเสี่ยงลด คาดเงินฝากเปลี่ยนทิศเข้าตลาดหุ้น“ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี” เชื่อเม็ดเงินต่างชาติเตรียมไหลเข้า“ทิสโก้”คาดมีโอกาสแตะ1,650จุด
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ และหัวหน้าสายงานวิจัยบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส จำกัด เปิดเผยว่า คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยในเดือนมิ.ย.2564จะปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุ 1,600 จุดได้ เนื่องจาก คาดหวังรัฐบาลจะมีการกระจายวัคซีน และประชาชนมีการฉีดวัคซีนโควิด-19 มากขึ้น ซึ่งจากสถิติประเทศที่มีการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนมากกว่า10%ขึ้นไปพบว่า ดัชนีปรับตัวตัวเพิ่มขึ้น และมีฟันด์โฟลว์ต่างชาติไหลเข้าลงทุน และจะเห็นผลจากที่โบรกเกอร์ต่างๆก็มีการปรับกำไรของบริษัทจดทะเบียน(บจ.)ขึ้นหลังจากไตรมาส1ปีนี้ เพิ่มขึ้นสูงจากช่วงเดียวกันปีก่อน ประกอบกับสภาพคล่องส่วนเกินในประเทศที่มีจำนวนมาก ซึ่งหากปัจจัยลบลดลง ก็จะทำให้เม็ดเงินฝากในบัญชีธนาคารไหลออกมาลงทุนในตลาดหุ้นมากขึ้น เพื่อได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่า
“กรณีที่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19ในโรงงาน เช่น CPF และSTGTคาดปิดระยะสั้น ซึ่งเชื่อว่าผลกระทบจะไม่รุนแรงถึงขั้นต้องปรับประมาณการกำไรลง”
ส่วนปัจจัยการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ในวันที่ 15-16 มิ.ย.นี้ เชื่อว่ายังไม่ลดดอกเบี้ย และคาดว่าจะยังไม่ดึง QEในเดือนนี้ เพราะการว่างงานยังสูง ขณะที่เงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้นก็มาจากฐานที่ต่ำ และเชื่อว่าจะควบคุมได้ แต่หากมีการดึง QE เชื่อว่าจะไม่กระทบกับหุ้นไทยมาก เพราะ ต่างชาติขายหุ้นไทยออกไปมาก และมีสัดส่วนการถือครองน้อย21% สำหรับกลยุทธ์การลงทุน แนะนำลงทุนหุ้นเปิดเมือง เพราะได้ประโยชน์ เช่น MINT ,AOT BDMS,MAJOR และหุ้นรับเหมาก่อสร้าง คือ STEC
นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า เชื่อว่าดัชนีในเดือนนี้จะเข้าไปทดสอบ1,620 จุดได้ จาก3ปัจจัยบวก คือวัคซีนที่กระจายมากขึ้น คาดเม็ดเงินต่างชาติจะไหลเข้า จากเริ่มมีแรงซื้อเขามาในตลาดหุ้นเอเชีย และที่ผ่านมาขายหุ้นไทยออกไปจำนวนมาก และกำไร บจ.ไตรมาส1ที่ออกมาดีทำให้โบรกมีการปรับประมาณการณ์กำไรปีนี้ขึ้น และคาดกองทุนในประเทศจะเริ่มกลับมาซื้อหลังขายออกมาต่อเนื่อง ส่วนแนวรับมองที่ระดับ1,550จุด โดยแนะนำซื้อหุ้นขนาดใหญ่ที่ราคาต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐาน
นายสรพล วีระเมธีกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า ประเมินดัชนีเดือนนี้จะผันผวนในกรอบแคบ คาดแนวต้านที่ 1,620 จุด และแนวรับที่ 1,535 จุด ซึ่งในช่วง 2 สัปดาห์แรกของดัชนีมีโอกาสปรับขึ้นทดสอบ 1,600 จุด ตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศที่ได้ปัจจัยบวกจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว
สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ปัจจัยต่างประเทศ ตัวเลขการจ้างงาน และตัวเลขเงินเฟ้อ เป็นต้น การส่งสัญญาณของเฟดต่อการดึงสภาพคล่องออกจากระบบเศรษฐกิจ (QE Tapering)
"แนะนำลงทุนหุ้น Domestic Play มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่ได้ปัจจัยหนุนจากการเซ็นสัญญาโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่โดยเลือก CK และแนะนำซื้อ MINT เพราะได้ปัจจัยหนุนจากการฉีดวัคซีน และสุSPRCเพราะได้ปัจจัยหนุนจากการใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้น”
นายอภิชาติผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล. ทิสโก้ กล่าวว่า คาดดัชนีมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปแตะระดับ 1,650 จุดได้ เพราะความคืบหน้าวัคซีนที่จะมีการกระจายและฉีดมากขึ้นในเดือนมิ.ย.-ก.ค.นี้ หลังจากที่มีการเปิดให้ลงทะเบียนในหลายช่องทางและมีการนำเข้าวัคซีนทางเลือกมากขึ้น และตัวเลขการส่งออกของไทยยังเติบโต ซึ่งสะท้อนว่าเศรษฐกิจไทยจะมีการเติบโตที่ดี รวมถึงพระราชกำหนด (พ.ร.ก.)เงินกู้ 5 แสนล้านบาท ก็จะเข้ามาช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ดีขึ้น
ส่วนกรณีที่เฟดมีการขายคืนพันธบัตร คาดว่าทำเพื่อสภาพคล่อง ยังไม่มีผลทำให้เฟดมีการลด QE ส่วนเม็ดเงินต่างชาติซึ่งหากมีสัญญาณชัดเจนในการเปิดประเทศเชื่อว่าเม็ดเงินจะไหลกลับเข้ามา ส่วนธีมการลงทุน แนะนำ หุ้นเปิดประเทศ และหุ้นที่คาดเข้าคำนวณดัชนี SET50 เช่น STGT, STAและ IRPC ซึ่งหากเข้าซื้อก่อน1 เดือนที่จะมีผลจะให้ผลตอบแทนระดับ 7%
นายกฯ ไทย - ญี่ปุ่น หารือทวิภาคี กระชับความสัมพันธ์เศรษฐกิจทุกมิติ
26 พ.ค. 2565 | 19:00บลจ.ทาลิส จ่ายปันผล 2 กองทุนหุ้นไทย ชี้ ปัจจัยบวกหนุนหุ้นตลาดไทย
26 พ.ค. 2565 | 17:58ธอส.ปล่อยสินเชื่อบ้านทะลุ แสนล้านบาทใน 5 เดือน
26 พ.ค. 2565 | 17:43หุ้นไทยภาคบ่าย ปิดตลาด 1,633.73 จุด บวก 8.55 จุด หรือ 0.53%
26 พ.ค. 2565 | 17:43SCB CIO แนะทยอยซื้อหุ้นกู้เอกชนทั่วโลกระดับ A- ขึ้นไป รับผลตอบแทนสูง
26 พ.ค. 2565 | 17:37