RATCHรุกธุรกิจเฮลท์แคร์ หนุนการเติบโตระยะยาว

RATCHรุกธุรกิจเฮลท์แคร์ หนุนการเติบโตระยะยาว

RATCH ขยายลงทุนสู่ธุรกิจเฮลท์แคร์ ซื้อหุ้นPRINC380.85 ล้านหุ้น หรือ 10% มูลค่า1.55พันล้าน เชื่อธูรกิจเติบโตดี-สร้างรายได้สม่ำเสมอ  "สาธิต"ชี้ ช่วยหนุนให้ขยายโรงพยาบาล คลินิก ฯได้ตามเป้า พร้อมดันเป็นผู้นำดิจิทัลแพลตฟอร์ตทางการแพทย์

 นายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH  เปิดเผยว่า  บริษัทได้เข้าซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือPRINC  รวม380.85 ล้านหุ้นคิดเป็น10%% ของจำนวนหุ้นชำระแล้วทั้งหมดของ PRINC  ที่ราคาหุ้นละ 4.09 บาท แบ่งป็น ซื้อหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง (PP)จำนวน 346.23 ล้านหุ้น และซื้อจากผู้ถือถือห้นเดิมนางสาวสาธิตา วิทยากร  จำนวน 34.62ล้านหุ้น 1,557.70 ล้านบาท  ซึ่งจะชำระราคาค่าหุ้นในวันที่ 25 พ.ค.2564

สำหรับการที่บริษัทตัดสินใจซื้อหุ้นดังกล่าวเพื่อขยายการลงทุนสู่ธุรกิจบริการสุขภาพ เนื่องจากธุรกิจนี้มีความหลากหลาย ยังเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในระยะยาวจากประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย และพฤติกรรมของคนที่ดูแลสุขภาพมากขึ้น และสามารถต่อยอดธุรกิจได้  ไม่มีความผันผวน เช่นเดียวกับธุรกิจไฟฟ้า และยังมีรายได้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ รวมถึงเป็นการตอบแทนชุมชน และดูแลสิ่งแวดล้อมด้วยการเลือกใช้เทคโนโลยีซึ่งจะส่วนเรื่องของการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์(Co2) ขณะที่เดียวกันทาง พริ้น  ก็มีแผนขยายการเติบโตทางธุรกิจในอนาคต ดังนั้น ธุรกิจนี้จะสนับสนุนการเติบโตให้ราช กรุ๊ป ตลอดจนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ       

"บริษัท ใช้เวลาในการศึกษาธุรกิจนี้มาประมาณ 2 ปี ก่อนตัดสินใจเข้าลงทุน โดยมีผลตอบแทนที่เหมาะสม ซึ่งมีกรอสมาร์จิน ระดับ 2 หลัก แม้ว่าจะระยะแรกการดำเนินงานอาจจะขาดทุนบ้าง แต่เชื่อว่าระยะยาวจะเป็นประโยชน์อย่างแน่นอน และบริษัทจะส่งตัวแทนของพริ้นฯ

นายกิจจา กล่าวว่าเงินที่ได้ซื้อหุ้น พริ้นฯ ไม่มีผลกระทบต่อสถานะการเงินของบริษัท โดยปีนี้ บริษัทตั้งงบประมาณอยู่ที่ 15,000 ล้านบาท แบ่งเป็น ลงทุนในธุรกิจไฟฟ้าที่มีอยู่ในมือ 8,000 ล้านบาท และอีก 7 พันล้านบาท เป็นการเตรียมไว้ สำหรับแผนลงทุนในการขยายงานใหม่ เช่น โครงสร้างพื้นฐานฯลฯขณที่อัตราหนี้สินต่อทุน(D/E)ของบริษัท อยู่ที่ประมาณ 0.6 เท่าก็ยังมีความสามารถกู้เงินได้อีกหลายหมื่นล้านบาท และในอนาคตหากธุรกิจเติบโตไปได้ดี บริษัทก็พร้อมที่จะร่วมขยายการลงทุนต่อไป

นายสาธิต วิทยากร กรรมการผู้จัดการ  PRINC กล่าวว่า การเข้าถือหุ้นของราชฯครั้งนี้จะหนุนให้บริษัทขยายโรงพยาบาลได้ตามเป้าหมาย 20 แห่งในปี 2565จากปัจจุบันมีจำนวน 11 แห่งใน 10 จังหวัด และมีแผนขยายเครือข่ายปฐมภูมิที่เป็นคลินิกบัตรทอง จากปัจจุบันเปิดดำเนินการ 13 แห่งให้ครอบคลุมทั้งประเทศ 100 แห่งในปี 2565 และศูนย์ดูแลฟื้นฟูผู้สูงอายุ 5 แห่ง คาดว่าต้องใช้เงินลงทุนประมาณ 5,000-6,000 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่จะเป็นลักษณะการเข้าซื้อกิจการโรงพยาบาลที่มีอยู่แล้ว รวมถึงสร้างใหม่เฉพาะในพื้นที่ที่ไม่มีโรงพยาบาลเอกชนตั้งอยู่

ทั้งนี้การขยายโรงพยาบาลจะเน้นจังหวัดเป้าหมาย เช่น ภาคใต้และภาคอีสาน ที่ยังขาดแคลนด้านบริการสุขภาพอยู่ และจะซื้อโรงพยาบาลที่มีขนาด 60-100 เตียง ซึ่งปีนี้มีแผนขยายโรงพยาบาบ 3-4 แห่ง

“3 ปีที่ผ่านมาเราเน้นสร้างโรงพยาบาล เหมือนเข้าปีที่ 4 ก็คาดว่าจะมีกำไร แต่เนื่องด้วยสถานการณ์โควิดมา ก็อาจต้องปรับแผนเล็กน้อย ดังนั้น ช่วงปีที่ 4-5 คาดว่าจะมีอิบิดา ราว 15%และ มีเน็ตมาร์จิน ประมาณ 5% ซึ่งโรงพยาบาลหลังๆจะไม่สร้างเอง บริษัทก็จะขาดทุนน้อยลง ผลประกอบการ 3-4 ปีจะกลับมาเพราะเราจะเข้าไปในโรงพยาบาลที่มีกำไรอยู่แล้ว”

อย่างไรก็ตาม พริ้นฯ คาดหวังว่า ราช กรุ๊ป จะช่วยผลักดันให้บริษัทบรรลุเป้าหมายในการมุ่งสู่การเป็นผู้นำด้าน Digital Platform ทางการแพทย์เพื่อสร้างประสบการณ์และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับคนไทยโดยเฉพาะเมืองรอง ให้มีโอกาสได้เข้าถึงระบบสาธารณสุขที่ดี