TFEX ก้าวสู่ปีที่ 16 ลุยพัฒนาโปรดักท์ใหม่ เชื่อมโยงต่างประเทศ

TFEX ก้าวสู่ปีที่ 16 ลุยพัฒนาโปรดักท์ใหม่ เชื่อมโยงต่างประเทศ

“TFEX” ก้าวสู่ปีที่ 16 อย่างเป็นทางการ พร้อมเปิดแผนปี 64 ออกสินค้าใหม่เชื่อมโยงต่างประเทศ ขยายเวลาลงทุนดอลลาร์ฟิวเจอร์ส หนุนลูกค้าบริหารความเสี่ยงลงทุนต่างประเทศช่วงกลางคืน เล็งยกเครื่องระบบซื้อขายใหม่ เพิ่มความทันสมัย-ประสิทธิภาพ คาดแล้วเสร็จปี 66

นางสาวรินใจ ชาครพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TFEX เปิดเผยในงานสัมมนาพิเศษ “Unlock Your Trade : ปลดล็อคความคิดพิชิตกำไรใน TFEX” เนื่องในโอกาส TFEX ก้าวสู่ปีที่ 16 ว่า หลายปีที่ผ่านมา TFEX มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์มาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ปริมาณการซื้อขายเติบโตขึ้นเรื่อยมา โดยปัจจุบันมีการซื้อขายเฉลี่ย 5.5 แสนสัญญาต่อวัน (ไตรมาส 1 ปี 2564) จากจุดเริ่มต้นในปี 2549 ที่มีปริมาณการซื้อขายเพียงหลักพันสัญญาต่อวัน

ส่วนแผนการดำเนินงานในปี 2564 มีแผนปรับปรุงและพัฒนาสินค้าบริการให้ตอบโจทย์นักลงทุนและมีสภาพคล่องมากยิ่งขึ้น รวมถึงศึกษาการเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เชื่อมโยงกับต่างประเทศ เช่น สัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศ (Foreign Currency Futures) และสินค้าโภคภัณฑ์ต่างประเทศ (Global Commodity) 

นอกจากนี้อยู่ระหว่างการเพิ่มชั่วโมงการซื้อขายดอลลาร์ล่วงหน้า (USD Futures) เพื่อให้นักลงทุนสามารถบริหารความเสี่ยงได้ในช่วงกลางคืน รวมถึงปรับปรุงระบบการซื้อขายเพื่อให้มีความทันสมัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณปี 2566

นางสาวรินใจ กล่าวว่า ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 TFEX ยังเน้นให้ความรู้แก่นักลงทุนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงสนับสนุนเครื่องมือต่างๆ เพื่อช่วยให้นักลงทุนสามารถซื้อขายผ่านช่องทางออนไลน์ได้ง่ายและมีประสิทธิภาพ อีกทั้งร่วมกับบริษัทสมาชิก (โบรกเกอร์) ในการปรับปรุงกระบวนการการเปิดบัญชีซื้อขายแบบออนไลน์ให้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมนักลงทุนที่หันมาดำเนินการผ่านออนไลน์

ขณะที่จำนวนบัญชีซื้อขาย TFEX ในปัจจุบันอยู่ที่ 241,843 บัญชี ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2564 เป็นการเติบโตต่อเนื่องจากปี 2563 ที่ยอดการเปิดบัญชีเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ประมาณ 16% หรือ 21,951 บัญชี มาอยู่ที่ 217,073 บัญชี มากกว่าค่าเฉลี่ยที่ผ่านมาซึ่งเพิ่มขึ้น 13% ต่อปี โดยพบว่าพฤติกรรมการซื้อขายของนักลงทุนทั่วไป (ไม่นับธุรกรรมแบบ Block Trade) ปรับเปลี่ยนมาอยู่บนช่องทางออนไลน์แล้วถึงประมาณ 93%

ในส่วนของมาตรการเพื่อลดความผันผวนในช่วงสถานการณ์โควิด-19 TFEX ได้ปรับลดระดับราคาสูงสุดและต่ำสุด (Ceiling & Floor) ในการซื้อขายของอนุพันธ์ที่อ้างอิงกับหุ้นและดัชนีหุ้น จาก +/- 30% เป็น +/-15% ซึ่งเป็นมาตรการที่สอดคล้องกับมาตรการของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) รวมถึงได้ปรับลดค่าธรรมเนียมเพื่อสนับสนุนให้นักลงทุนเข้ามาซื้อขายด้วยต้นทุนที่ถูกลง ได้แก่ SET50 Futures จาก 7 บาท เป็น 6 บาท และ SET50 Options จาก 5 บาท เป็น 4 บาท

“ในยุคนิวนอร์มอล เราได้ปรับเปลี่ยนการทำการตลาดและการให้ความรู้มาอยู่บนช่องทางออนไลน์แล้วอย่างเต็มรูปแบบ และเชื่อว่าเทรนด์นี้จะอยู่กับเราไปอีกนาน ในช่วงแรกที่ปรับเปลี่ยน TFEX กังวลว่านักลงทุนจะเข้าถึงหรือชื่นชอบหรือไม่ แต่ปรากฏว่านักลงทุนให้การตอบรับค่อนข้างดีมาก ซึ่งสะท้อนจากการค้นหาคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวกับ TFEX ที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงยอดผู้เข้าชมเว็บไซต์ www.TFEX.co.th และยอดผู้ติดตาม Facebook: TFEX Station ที่เติบโตมากขึ้นหลายเท่าตัว” นางสาวรินใจ กล่าว