EXIM BANKหนุนสินเชื่อผู้ส่งออกCLMV20ล้านดอกเบี้ยต่ำ3.99%

EXIM BANKหนุนสินเชื่อผู้ส่งออกCLMV20ล้านดอกเบี้ยต่ำ3.99%

EXIM BANK ระบุ สถานการณ์สินเชื่อส่งออกไปยังกลุ่มCLMV เริ่มชะลอตัว หลังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 จึงออกมาตรการสินเชื่อเยียวยาผู้ประกอบการ SMEs ไทยใน CLMV วงเงินสูงสุด 20 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 3.99% ต่อปี ผ่อนชำระสูงสุด 3 ปี

นายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ยอดการขอสินเชื่อส่งออกผู้ประกอบการSMEsไปยังประเทศกัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม(CLMV)ชะลอตัวลง ซึ่งก็สอดคล้องกับยอดการส่งออกที่ไปยังกลุ่มประเทศดังกล่าวลดลงเช่นกันในระยะที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน สถานการณ์ความไม่สงบในประเทศเมียนมา ก็เริ่มส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการไทยที่ไปค้าขายยังประเทศดังกล่าว ดังนั้น EXIM BANK จึงได้ออกมาตรการมาช่วยเหลือผู้ประกอบการดังกล่าว ทั้งนี้ มาตรการจะแบ่งออกเป็นสองส่วน คือ 1.มาตรการที่ดูแลผู้ประกอบการที่ส่งออกไปยังกลุ่มประเทศCLMV และ 2.มาตรการที่ดูแลผู้ประกอบการในประเทศเมียนมาโดยเฉพาะ

“สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบไปทั่วโลก รวมทั้ง ไทยและ CLMV มาตั้งแต่ต้นปี 2563 ประกอบกับปัจจัยอื่นๆ ที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ผู้ส่งออกและนักลงทุนไทยได้รับผลกระทบเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่ CLMV เป็นตลาดใหม่ที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูงในระยะยาว EXIM BANK จึงต้องเร่งออกมาตรการเยียวยาในระยะสั้น ทั้งด้านสินเชื่อและการให้คำปรึกษาแนะนำ เพื่อประคับประคองสภาพคล่องทางธุรกิจของผู้ประกอบการไทย รอการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของตลาด CLMV ในระยะถัดไป”

สำหรับมาตรการสำหรับผู้ประกอบการส่งออกไปยังกลุ่มประเทศCLMV คือ มาตรการสินเชื่อ CLMV อุ่นใจ ซึ่งเป็นเงินทุนหมุนเวียนให้แก่ผู้ประกอบการไทยใน CLMV ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจ วงเงินสูงสุด 20 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 3.99% ต่อปี ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุด 3 ปี ใช้เพียงหนังสือค้ำประกันของบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เป็นหลักประกันร่วมกับบุคคลหรือนิติบุคคลค้ำประกันได้ ผู้ประกอบการสามารถยื่นขอสินเชื่อได้ตั้งแต่บัดนี้ถึง 30 พ.ย.นี้ ทางเว็บไซต์ www.exim.go.th สอบถามได้ที่ EXIM BANK สำนักงานใหญ่และสาขาทุกแห่ง

ส่วนมาตรการเยียวยาธุรกิจไทยในเมียนมา สำหรับลูกค้าปัจจุบันของ EXIM BANK สามารถพักชำระหนี้เงินต้นกรณีวงเงินกู้ระยะยาวสูงสุด 12 เดือน ต่ออายุตั๋วสัญญาใช้เงินรวมสูงสุดไม่เกิน 180 วัน โดยแจ้งความประสงค์กับเจ้าหน้าที่ EXIM BANK ภายใน 30 ก.ย.นี้ ทั้งนี้ สถานการณ์ลูกหนี้ที่ส่งออกสินค้าไปยังประเทศพม่านั้น แม้จะถูกกระทบจากเหตุการณ์ต่างๆบ้าง แต่ขณะนี้ ยังไม่พบว่า มีรายใดเป็นหนี้เสีย อย่างไรก็ดี เริ่มมีบางรายหรือราว 10% ของลูกค้าส่งออกไปยังเมียนมาได้เริ่มติดต่อธนาคารเพื่อให้พิจารณาความช่วยเหลือบ้างแล้ว

“จากการติดตามสถานการณ์ความไม่สงบภายในเมียนมาอย่างใกล้ชิดและประเมินผลกระทบต่อลูกค้า ผู้ประกอบการไทยเริ่มได้รับผลกระทบจากการชำระเงินล่าช้าและการชะลอคำสั่งซื้อของคู่ค้าในเมียนมา EXIM BANK จึงได้พิจารณาให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการผ่านมาตรการต่าง ๆ ตามความจำเป็นอย่างต่อเนื่อง จนถึงปัจจุบันมีลูกค้า EXIM BANK ที่เป็นผู้ส่งออกและนักลงทุนไทยในตลาดเมียนมาจำนวนกว่า 200 ราย คิดเป็นวงเงินสินเชื่อประมาณ 5.3 พันล้านบาท การออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยในเมียนมาจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายทางการเงินและเพิ่มสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการไทยได้”

สำหรับตลาดส่งออก CLMV ได้ไต่อันดับขึ้นมาเป็นตลาดส่งออกสำคัญของไทยอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2563 กลุ่มประเทศCLMV เป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับ 4 ของไทย รองจากสหรัฐฯ อาเซียนเดิม 5 ประเทศ และจีน ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม การส่งออกของไทยไปตลาด CLMV มีเหตุสะดุดลงในปี 2563 โดยหดตัวกว่า 11% ขณะที่ ในปี 2564 ยังต้องเผชิญกับปัญหารอบด้าน ทั้งวิกฤตโควิด-19 ประกอบกับสถานการณ์ภายในเมียนมา ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการไทยที่ดำเนินธุรกิจส่งออกและลงทุนในตลาดเมียนมา

ขณะที่ ในภาพรวมกลุ่มประเทศ CLMV ยังมีศักยภาพที่จะเติบโตทางเศรษฐกิจและมีความต้องการซื้อสินค้าและบริการของไทยอยู่มาก การเสริมสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการ SMEs มีแหล่งเงินทุนเพียงพอที่จะดำเนินธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ ท่ามกลางปัจจัยท้าทายต่างๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องเร่งดำเนินการ ดังนั้น EXIM BANK จึงออกมาตรการช่วยเหลือดังกล่าว