กกพ .จ่อถก ออกใบอนุญาต “แอลเอ็นจีชิปเปอร์ให้ “เอ็กโก กรุ๊ป” ม.ค.นี้

กกพ .จ่อถก ออกใบอนุญาต “แอลเอ็นจีชิปเปอร์ให้ “เอ็กโก กรุ๊ป” ม.ค.นี้

กกพ.เล็งพิจารณาออกใบอนุญาต LNG Shipper ให้ “เอ็กโก กรุ๊ป” ปริมาณ 2.5 แสนตันต่อปี ภายในเดือน ม.ค.นี้ หากยื่นเอกสารครบถ้วน เผย “บี.กริม เพาเวอร์” ขอเพิ่มปริมาณนำเข้าก๊าซฯ ทำได้หากสอดคล้องกับความต้องการใช้

นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า หลังจากที่ กกพ.ได้ออกใบอนุญาตจัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติ (LNG Shipper) ให้กับผู้ประกอบการเอกชน 3 รายในปี2563 ได้แก่ บริษัท กัลฟ์ แอลเอ็นจี จำกัด ในเครือ GULF,บริษัท หินกองเพาเวอร์โฮลดิ้ง จำกัด (HKH) และบริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM

  160984444036

ล่าสุด บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO ได้ยื่นเอกสารเพื่อขอใบอนุญาต LNG Shipper มายังกกพ.แล้ว ในช่วงเดือน พ.ย. 2563 แต่ทางกกพ.ยังไม่ได้พิจารณาการออกใบอนุญาต เนื่องจากตรวจสอบข้อมูลในเบื้องต้นพบว่า ยังขาดเอกสารบางส่วน จึงรอให้ทาง EGCO ยื่นเอกสารให้ครบก่อน คาดว่าจะสามารถพิจารณาได้เร็วสุดภายในเดือน ม.ค.นี้ หากยื่นเอกสารเข้ามาครบถ้วน

 

“ผู้ประกอบการที่มีความพร้อมทุกราย สามารถยื่นขอใบอนุญาต LNG Shipper ได้หมด หากมีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไข แต่การที่ยื่นเข้ามาแล้วจะได้รับการอนุมัติหรือไม่ กกพ. จะต้องดูตามหลักเกณฑ์ฯคือปริมาณนำเข้า LNG ต้องสอดคล้องกับการใช้ของโรงไฟฟ้าจริง และไม่ติดสัญญาซื้อขายก๊าซกับทาง ปตท.”

ส่วนกรณีที่ บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM ได้ยื่นขอขยายปริมาณการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว(LNG) เพิ่มเติม เพื่อนำไปจำหน่ายให้กลุ่มลุกค้าอุตสาหกรรม ก็เป็นเรื่องที่สามารถ ซึ่ง กกพ.ก็จะพิจารณาตามหลักเกณฑ์โดยดูปริมาณการนำเข้ากับความต้องการใช้ให้สอดรับกัน

 

ทั้งนี้ การยื่นขอใบอนุญาต LNG Shipper ต้องพิจารณาถึงความคุ้มค่าด้วย หากปริมาณนำเข้าน้อยเกินไป ก็จะไม่คุ้มทุน เพราะต้องมีค่าบริการและค่าบริหารจัดการต่างๆ ซึ่งในหลักการแล้ว ผู้ประกอบการไม่จำเป็นต้องยื่นขอใบอนุญาต LNG Shipper ทุกราย แต่สามารถร่วมกันขอใบอนุญาต LNG Shipper โดยรวบรวมปริมาณการนำเข้าก๊าซฯ ร่วมกันได้ เพื่อให้เกิดความคุ้มค่า

 

นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) (EGCO) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป กล่าวก่อนหน้านี้ว่า บริษัทฯ ได้ยื่นขอใบอนุญาต LNG Shipper ต่อ กกพ. ในช่วงปลายเดือน พ.ย.2563 โดยมีแผนจะนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว(LNG)ปริมาณ 2.5 แสนตันต่อปี เพื่อป้อนเป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าในโรงไฟฟ้าของบริษัท ซึ่งการนำเข้าในส่วนนี้ เป็นปริมาณก๊าซฯส่วนเกินจากสัญญาซื้อขายก๊าซฯระยะยาวจากบริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน)

 

โดยจะนำเข้า LNGดังกล่าว มาป้อนเป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าในโรงไฟฟ้าบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี เป็นโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม กำลังผลิตติดตั้งรวม 256 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี เป็นโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม กำลังการผลิตติดตั้งรวม 121 เมกะวัตต์

 

อีกทั้ง จะนำเข้ามาป้อนเป็นเชื้อเพลิงในโรงไฟฟ้าเอ็กโก โคเจน จังหวัดระยอง ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าทดแทน (SPP Replacement) กำลังการผลิตระหว่าง 100-120 เมกะวัตต์ ที่จะหมดสัญญาในปี 2567 โดยโรงไฟฟ้าแห่งนี้ไม่มีสัญญาใหม่กับทาง ปตท. ซึ่งการนำเข้า LNG ดังกล่าวจะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยลดต้นทุนเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าให้กับบริษัท และทำให้สามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้น