TASCO รับต้นทุนผลิตพุ่ง20% เปลี่ยนแหล่งซื้อน้ำมันดิบ

TASCO รับต้นทุนผลิตพุ่ง20% เปลี่ยนแหล่งซื้อน้ำมันดิบ

TASCO รับต้นทุนผลิตเพิ่ม 20% หลังเปลี่ยนแหล่งซื้อน้ำมันดิบ แทนเวเนซุเอลา คาดรายได้ปีนี้ใกล้เคียงกปีก่อน

นายชัยวัฒน์ ศรีวรรณวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TASCO เปิดเผยว่า บริษัทเร่งพิจารณาซื้อน้ำมันดิบชนิดอื่น เพื่อทดแทนการซื้อน้ำมันดิบจากเวเนซุเอลา ที่บริษัทจะหยุดซื้อในสิ้นเดือนพ.ย.นี้ โดยจะซื้อจากทั้งผู้ผลิตน้ำมันโดยตรงและจากบริษัทค้าน้ำมัน 

ส่วนจะกลับไปซื้อน้ำมันดิบจากเวเนซุเอลา ได้อีกหรือไม่นั้น ขึ้นกับนโยบายของ โจ ไบเดน หลังเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ จะมียกเลิกคว่ำบาตรเวเนซุเอลาหรือไม่  

นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า บริษัทยังมีน้ำมันดิบในสต็อกเพียงพอให้โรงกลั่นของบริษัทผลิตไปจนถึงไตรมาส 1 ปี 2564  และจะเริ่มซื้อน้ำมันดิบชนิดอื่นในช่วงปลายปีนี้หรือภายในเดือนม.ค 2564 เพื่อให้มีน้ำมันดิบเข้ามาใช้ผลิตอย่างต่อเนื่องในไตรมาส 2 ปี 2564

อย่างไรก็ตามต้นทุนน้ำมันดิบชนิดอื่นที่จะมาทดแทนนั้น มีราคาต้นทุนที่สูงกว่าถึง 20% เมื่อเทียบกับราคาน้ำมันดิบจากเวเนซุเอลา ทำให้ต้นทุนยางมะตอยสูงขึ้นไปด้วย ทำให้บริษัทต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ พร้อมกับวางแผนบริการจัดการซื้อน้ำดิบเข้ามาแล้ว มาผลิตในช่วงไฮซีซัน ที่มีความต้องการยางมะตอยเพิ่มขึ้น ทำให้น่าจะมีกำไรที่ดีขึ้นตามไปด้วย รวมถึงบริษัทจะจัดหายางมะตอยจากโรงกลั่นอื่นๆในภูมิภาคสำหรับธุรกิจเทรดดิ้งในตลาดต่างประเทศด้วย

นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานปี 2563 จะมีรายได้เติบโตใกล้เคียงปีก่อนที่มียอดขายยางมะตอยราว 1.8 ล้านตัน แต่มีความสามารถในการทำกำไรที่เพิ่มขึ้นคาดว่ายังเติบโตได้ต่อเนื่อง จากการบริการจัดการต้นทุนและสต็อกน้ำมันที่ซื้อไว้ในราคาต่ำ

ขณะเดียวกันในช่วงไตรมาส 4 แนวโน้มการดำเนินงานเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้า เพราะเป็นช่วงไฮซีซันของตลาดยางมะตอยในประเทศ ซึ่งงบประมาณปี 2564 ภาครัฐเริ่มมีการเบิกใช้แล้วในเดือนนี้ รวมถึงในตลาดต่างประเทศ อย่างอินโดนีเซียยังเติบโตขึ้นด้วย

โดยไตรมาส 3 มีกำไรสุทธิ 1,862.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 161.54%  จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 712.08 ล้านบาท  ขณะที่มีรายได้จากการขายและบริการ 8,576 ล้านบาท ลดลง 9.2%

ส่วนงวด 9 เดือนแรก มีกำไรสุทธิ 2,797 .55  ล้านบาท  จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2,428 .64 ล้านบาท  

สำหรับแนวโน้มปี 2564 ต้องจับตา 2 ปัจจัยหลัก คือ ไตรมาส 4 จนถึงต้นปีหน้า ในเรื่องของหลักกฎเกณฑ์ที่ว่าด้วยการลดการใช้กำมะถันขององค์กรทางทะเลระหว่างประเทศ (IMO2020) และสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ว่าจะส่งผลกระทบแรงหรือไม่ต่อยอดขายยางมะตอยในตลาดภูมิภาค รวมถึงราคายางมะตอยจะลดลงต่ำกว่าที่คาดไว้หรือไม่ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจของบริษัทได้เช่นกัน