หุ้นยุโรปปิดทะยานสูงสุดรอบ 8 เดือน

ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (9 พ.ย.) สู่ระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือน หลังบริษัทไฟเซอร์และบริษัทไบโอเอ็นเทคมีความคืบหน้าอย่างมากในการพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 และการที่นายโจ ไบเดนชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐนั้นได้ทำให้นักลงทุนมีความหวังว่า นโยบายการค้าของสหรัฐจะมีเสถียรภาพมากขึ้น

ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 3.98% ปิดที่ 380.99 จุด ดัชนี CAC 40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,336.32 จุด เพิ่มขึ้น 375.44 จุด หรือ +7.57%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,095.97 จุด เพิ่มขึ้น 615.95 จุด หรือ +4.94% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,186.29 จุด เพิ่มขึ้น 276.27 จุด หรือ +4.67%

ดัชนี Stoxx Europe 600 ทะยานขึ้นเกือบ 4% และปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปลายเดือนมี.ค. และในเดือนพ.ย. ดัชนีปรับตัวขึ้นแล้ว 11% โดยหุ้นกลุ่มการเดินทางและสันทนาการ พุ่งขึ้นนำตลาด 7%

บริษัทไฟเซอร์ อิงค์ของสหรัฐ และบริษัทไบโอเอ็นเทคของเยอรมนีเปิดเผยว่า วัคซีนต้านโรคโควิดที่ทดลองอยู่มีประสิทธิภาพมากกว่า 90% ในการป้องกันโรคโควิด-19 โดยอิงจากข้อมูลขั้นต้นจากการศึกษาขนาดใหญ่

หุ้นไบโอเอ็นเทค พุ่งขึ้นมากกว่า 15%

นอกจากนี้ ชัยชนะของนายไบเดนช่วยหนุนตลาดด้วย โดยนักลงทุนแห่เข้าซื้อหุ้นขานรับนายไบเดนชนะเลือกตั้ง โดยคาดว่าแนวโน้มความสัมพันธ์ด้านการค้าระหว่างยุโรปและสหรัฐจะดีขึ้น

หุ้นอินฟิเนียนของเยอรมนี พุ่งขึ้น 3.5% หลังบริษัทคาดการณ์ว่า รายได้จะพุ่งขึ้นเกือบ 23% ในปีหน้า

หุ้นโรลส์-รอยซ์ของอังกฤษ พุ่ง 43.76% และหุ้นอินเตอร์เนชันแนล คอนโซลิเดเต็ด แอร์ไลน์ส กรุ๊ป (ไอเอจี) เจ้าของสายการบินบริติช แอร์เวย์ พุ่ง 25.48%