SSFเอยูเอ็มทะลุพันล้าน

SSFเอยูเอ็มทะลุพันล้าน

“มอร์นิ่งสตาร์” เผย เอยูเอ็มกองทุนเอสเอสเอฟ แตะ 1.05 พันล้าน เพิ่มขึ้น 3 เท่าจากเปิดขายครั้งแรกในไตรมาสก่อนหน้า  คาดแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากการลงทุนในต่างประเทศ  ด้านบลจ.กสิกรไทย ครองแชมป์มาร์เก็ตแชร์สูงสุด 28%

นางสาวชญานี จึงมานนท์ นักวิเคราะห์อาวุโส บริษัท มอร์นิ่งสตาร์รีเสิร์ช (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า กองทุนเพื่อการออม (SSF) ล่าสุด ณ 14 ต.ค. มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิรวม (AUM) จำนวน 1,050 ล้านบาท (ไม่รวมกองทุน BEQSSF และ BM70SSF จากบลจ. บัวหลวง. ที่มีส่วนของกองทุน SSFX หรือกองทุนเพื่อการออมแบบพิเศษมาผสม) หลังจากในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมานี้ กองทุน SSF มี AUM ราว 908 ล้านบาท เติบโตมากกว่า 3 เท่า จากไตรมาสก่อนหน้าที่มีการเปิดขายเป็นไตรมาสแรก อยู่ที่ 200 กว่าล้านบาท 

ทั้งนี้กองทุน SSF ในกลุ่มการลงทุนประเภทตราสารทุนมีการเติบโตที่ดี คือ กองทุนกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ (Equity Large-Cap) ยังเป็นกลุ่มที่มีขนาดใหญ่สุด โดยในไตรมาส 3 ที่ผ่านมานี้ มี AUM เพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าจากไตรมาสก่อนหน้า หรือเพิ่มเป็น 312 ล้านบาทจาก 100 กว่าล้านบาท

ขณะเดียวกันกลุ่มที่มีขนาดรองลงมา คือ กลุ่มหุ้นโลก (Global EQuity) มีการเติบโตสูงสุด โดยในไตรมาส 3 ที่ผ่านมานี้ มี AUM เพิ่มขึ้นถึง 4.5 เท่าจากไตรมาสก่อนหน้าหรือเพิ่มเป็น 264 ล้านบาทจาก 48 ล้านบาท

ปัจจุบันกองทุน SSF มีจำนวนทั้งหมด 81 กองทุน ส่วน แบ่งตลาดกองทุน SSF มีการกระจายตัวมากขึ้นในไตรมาส 3 ที่ผ่านมานี้  โดย 5 อันดับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ที่มีส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เก็ตแชร์) สูงสุดรวมกันสัดส่วนที่ 82% จากไตรมาสก่อนหน้าที่ 94% โดย บลจ.กสิกรไทย มีมูลค่าทรัพย์ สัดส่วนสูงสุด 28% AUM จำนวน 254 ล้านบาท ส่วนใหญ่จากกองทุนทั้งหุ้นไทย กองทุนหุ้นต่างประเทศ กองทุนผสม และกองทุนตราสารหนี้

นางสาวชญานี กล่าวด้วยว่า กองทุน SSF มีโอกาสเติบโตจากการลงทุนในต่างประเทศ เนื่องจากทิศทางเงินลงทุนในช่วงที่ผ่านมานักลงทุนให้ความสนใจกับการลงทุนต่างประเทศมากกว่า จากทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนหรือกลุ่มหุ้นเทคโนโลยี ที่มีการปรับตัวขึ้นมาในช่วงปีนี้ ขณะที่ตลาดหุ้นไทยดูจะยังไม่มีปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้ตลาดฟื้นตัวในช่วงที่เหลือของปีนี้ ทั้งจากสภาวะเศรษฐกิจจากโควิด-19 และปัจจัยทางการเมือง

 อย่างไรก็ตามเนื่องจากกอง SSF เป็นการลงทุนในระยะยาว ดังนั้นช่วงตลาดปรับลงเป็นโอกาสเข้าลงทุนแต่ต้องมีวินัยวางแผนลงทุนอย่างเป็นระบบ โดยนักลงทุนควรเน้นที่การจัดพอร์ตการลงทุนเป็นหลัก พร้อมกับศึกษาข้อมูลแต่ละกองทุนก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง เนื่องจากกองทุนบางประเภทที่มีการลงทุนที่คล้ายกันอาจมีความแตกต่างเช่นในเรื่องของค่าธรรมเนียม