พาณิชย์” เปิดแคมเปญ ขยายตลาดส่งออกนมโคด้วยเอฟทีเอ ปี 3

พาณิชย์” เปิดแคมเปญ ขยายตลาดส่งออกนมโคด้วยเอฟทีเอ ปี 3

พาณิชย์ เปิดตัวโครงการ “โคนมไทยก้าวไกลขยายตลาดส่งออกได้ด้วยเอฟทีเอ” ต่อเนื่องเป็นปีที่3 มุ่งเสริมศักยภาพเกษตรกรโคนม ใช้เอฟทีเอเป็นเครื่องมือช่วยบุกตลาดต่างประเทศ  เผย 8 เดือนแรกไทยส่งออกสินค้านมเพิ่มขึ้น 7.9% 

นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานพิธีเปิดตัวโครงการ “โคนมไทยก้าวไกล ขยายตลาดส่งออกได้ด้วยเอฟทีเอว่า โครงการดังกล่าวเป็นโครงการต่อเนื่องและสานต่อความสำเร็จของโครงการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการโคนมของไทย บุกตลาดต่างประเทศจากการใช้ประโยชน์ความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ )ที่กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2561 ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม สามารถขยายการส่งออกสินค้านม UHT นมอัดเม็ด ไอศกรีม และโยเกิร์ต ไปตลาดคู่ค้าเอฟทีเอ โดยเฉพาะจีน และอาเซียน (สิงคโปร์ กัมพูชา เมียนมาร์) และเป็นการดำเนินการตามนโยบายกระทรวงพาณิชย์ ที่มุ่งเตรียมความพร้อมเกษตรกร สหกรณ์ และผู้ประกอบการใช้ประโยชน์เอฟทีเอ เพื่อให้อุตสาหกรรมโคนมและนมโคแปรรูปของไทยสามารถแข่งขันได้อย่างมีศักยภาพในตลาดโลก และพัฒนาไทยให้เป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์นมโคในภูมิภาค

160205514072

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ  กล่าวว่า  กรมฯ จัดโครงการอย่างต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 3 ซึ่งได้รับความสนใจจากเกษตรกร สหกรณ์โคนม และผู้ประกอบการนมโคและนมโคแปรรูปสมัครเข้าร่วมโครงการกว่า 81 ราย และผ่านการคัดเลือกจากกรมฯ และคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเข้าร่วมโครงการ 20 ราย โดยผู้เข้าร่วมโครงการจะได้เข้าอบรม Boot Camp เน้นเสริมแกร่งเรื่องการใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี    เพื่อเข้าสู่ตลาดประเทศคู่ค้าเอฟทีเอของไทย กฎระเบียบทางการค้ามาตรฐานสินค้าและสถานประกอบการ โลจิสติกส์   การเพิ่มช่องทางจำหน่ายออนไลน์และออฟไลน์ ได้รับคำปรึกษาเชิงลึก (Coaching) โดยผู้เชี่ยวชาญในเรื่องการการทำตลาด การออกแบบบรรจุภัณฑ์ มาตรฐานโรงงานแปรรูป โครงสร้างราคา และร่วมสำรวจโอกาสทางการค้าของตลาดสินค้านมโคและนมโคแปรรูป และสร้างเครือข่ายธุรกิจในสาธารณรัฐประชาชนจีน 

กรมฯ เชื่อมั่นว่าผู้ประกอบการได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนประสบการณ์และพัฒนาองค์ความรู้ที่สำคัญต่างๆ เช่น การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การต่อยอดด้วยนวัตกรรม พฤติกรรมผู้บริโภค และการจับคู่ธุรกิจในตลาดสำคัญต่างๆ ขณะเดียวกันจะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถใช้เอฟทีเอเป็นเครื่องมือในการขยายการส่งออกไปตลาดต่างประเทศ ซึ่งผลสำเร็จของโครงการจะช่วยขยายตลาดให้กับน้ำนมดิบของไทย และสร้างรายได้ที่ยั่งยืนแก่เกษตรกรและผู้เกี่ยวข้อง

160205520811

 

ทั้งนี้ ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2563 (.ค.-.ค.ไทยส่งออกสินค้านมโคและนมโคแปรรูปไปตลาดโลก 382 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 7.9% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยสินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ นมพร้อมดื่ม UHT นมเปรี้ยว โยเกิร์ต และนมจืด ตลาดส่งออกหลักคือ อาเซียน (กัมพูชา ฟิลิปปินส์ เมียนมา สปป.ลาว และสิงคโปร์) 82.7%จีน 5.4% และฮ่องกง 3.4% ซึ่งเป็นประเทศคู่ค้าเอฟทีเอของไทยที่ได้ลดภาษีนำเข้าสินค้านมโคและนมโคแปรรูปให้ไทยแล้ว     ทั้งนี้ ไทยจึงมีความได้เปรียบในการส่งออกไปประเทศเพื่อนบ้านจากทำเลที่ตั้งที่อยู่ใกล้กันและประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรีอาเซียน จึงเป็นโอกาสทางการค้าของผู้ประกอบการไทย