โควิด-การเมือง ทุบกำไร 'HSBC'

โควิด-การเมือง ทุบกำไร 'HSBC'

“เอชเอสบีซี” รายงานกำไรครึ่งปีแรกร่วงลง 69% เมื่อเทียบกับปี 2562 ผลจากโควิด-19 ระบาดและความตึงเครียดจีน-สหรัฐ บานปลาย

  

ธนาคารใหญ่ “เอชเอสบีซี” รายงานวานนี้ (3 ส.ค.) กำไรหลังหักภาษีช่วงครึ่งปีแรกอยู่ที่ 3.1 พันล้านดอลลาร์ กำไรก่อนหักภาษี 4.3 พันล้านดอลลาร์ ร่วงลง 64% จากช่วงเดียวกันของปี 2562 ส่วนรายได้ลดลง 9% ที่ 2.67 หมื่นล้านดอลลาร์

โนเอล ควินน์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร แถลงต่อตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง บรรยายถึง 6 เดือนแรกของปีนี้ว่า "เป็นความท้าทายมากที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตเท่าที่จำได้ ผลประกอบการครึ่งปีแรกของเราได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 อัตราดอกเบี้ยลดลง ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์เพิ่มขึ้น และระดับความผันผวนของตลาดเพิ่มขึ้น"

แม้เทียบกับมาตรฐานความปั่นป่วนทางเศรษฐกิจที่กำลังรุมล้อมธนาคารใหญ่ของโลกในขณะนี้ เอชเอสบีซีต้องเจอกับปีสุดโหด

ก่อนวิกฤติโควิด กำไรของเอชเอสบีซีเติบโตอย่างน่าผิดหวัง จากความไม่แน่นอนของสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ และการที่อังกฤษออกจากสหภาพยุโรป

159651305348

ตั้งแต่ต้นปี เอชเอสบีซีที่เน้นตลาดเอเชียเริ่มทำโครงการลดค่าใช้จ่ายขนานใหญ่ รวมถึงแผนลดพนักงานราว 35,000 คน พร้อมๆ กับรีดไขมันจากแผนกที่ทำกำไรได้น้อย ส่วนใหญ่อยู่ในสหรัฐและยุโรป

แต่การระบาดของโควิด ทำให้ตลาดผันผวนและเศรษฐกิจชะลอตัว ส่งผลมาถึงธนาคารทั้งหลายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ความพยายามลดค่าใช้จ่ายจึงไม่เป็นผล และสำหรับเอชเอสบีซียังมีเรื่องน่าปวดหัวยิ่งกว่า นั่นคือความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ผ่านสถานะการเป็นท่อธุรกิจหลักระหว่างจีนกับชาติตะวันตกของเอชเอสบีซี 

ทั้งนี้ กำไร 90% ของธนาคารมาจากเอเชีย โดยจีนและฮ่องกงเป็นกลจักรสำคัญขับเคลื่อนการเติบโต ส่งผลให้เอชเอสบีซีพบว่า ตนเองตกอยู่ในความเสี่ยงยิ่งกว่าธนาคารอื่นๆ ส่วนใหญ่ ต้องอยู่ตรงกลางระหว่างปักกิ่งกับวอชิงตันที่พร้อมจะห้ำหั่นกันทุกขณะ

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ธนาคารพยายามทำตัวให้ปักกิ่งโปรดปราน ด้วยการแถลงสนับสนุนกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ที่ปักกิ่งบังคับใช้กับฮ่องกงในเดือน มิ.ย. หวังยุติความไม่สงบและการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตย

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถูกวิจารณ์จากวอชิงตันและลอนดอน แต่นักวิเคราะห์มองว่า เอชเอสบีซีพยายามปกป้องตัวเองจากจีน ที่เคยลงโทษธุรกิจที่ไม่ปฏิบัติตามแนวทางของปักกิ่ง แต่สนับสนุนไปแล้วก็ใช่ว่าเอชเอสบีซีจะรอดตัว

เดือนก่อนสื่อทางการจีนรายงานข่าวหลายชิ้นอ้างว่า ธนาคารแห่งนี้ช่วยมอบหลักฐานจนนำไปสู่การจับกุม เมิ่ง หว่านโจว ผู้บริหารหัวเว่ยในแคนาดาตามหมายจับของสหรัฐ

เอชเอสบีซีแถลงปฏิเสธผ่านบัญชีเว่ยป๋อว่า ธนาคารไม่ได้ล่อลวงหรือสร้างหลักฐานปรักปรำจนทำให้เมิ่งต้องถูกจับ

แถลงการณ์ฉบับนี้เผยแพร่ออกไปได้ไม่กี่ชั่วโมง หน่วยตรวจสอบอินเทอร์เน็ตจีนก็ปิดการเข้าถึงแถลงการณ์ของเอชเอสบีซี โดยไม่ชี้แจงเหตุผล

ในแถลงการณ์วานนี้ ควินน์กล่าวถึงความเสี่ยงทางการเมืองที่ธนาคารต้องเผชิญเพิ่มมากขึ้นทุกขณะด้วย

“ความตึงเครียดในปัจจุบันระหว่างจีนกับสหรัฐ สร้างความท้าทายต่อการดำรงอยู่ของเอชเอสบีซีอย่างหลีกเลี่ยงมิได้ อย่างไรก็ตาม ความสามารถของธนาคารในการเป็นสะพานเชื่อมเขตเศรษฐกิจในโลกตะวันออกและตะวันตก เป็นสิ่งจำเป็นเร่งด่วน และเราก็อยู่ในสถานะยอดเยี่ยมเติมเต็มบทบาทนี้ได้”

ส่วนการปฏิบัติการในเอเชีย ควินน์ระบุว่า ยังยืดหยุ่นได้ดีอย่างต่อเนื่อง มีกำไรก่อนหักภาษี 7.4 พันล้านดอลลาร์ ก่อนหน้านี้ควินน์เคยชะลอการเลิกจ้างไว้เนื่องจากโควิดระบาด แต่แถลงการณ์วานนี้ เขาให้คำมั่นว่าจะเดินหน้าลดค่าใช้จ่ายต่อไป