ธปท.จ่อออกมาตรการสกัดบาทแข็งภายใน1-2เดือนนี้
ธปท.ประกาศออกมาตรการสกัดบาทแข็งภายใน 1-2 เดือนนี้ ทั้งเปิดเสรีนักลงทุนบุคคล-สถาบันออกไปลงทุนต่างประเทศ ให้ผู้ส่งออกพักเงินในต่างประเทศเพิ่ม พร้อมดูเงินไหลเข้าออกในการซื้อขายทองคำ เพื่อลดแรงกระแทกค่าเงินบาท แต่ไม่ใช่การควบคุมซื้อขายทองคำ
นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวว่า ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเป็นปัจจัยที่คณะกรรมการรนโยบายการเงิน(กนง.)เป็นห่วงค่อนข้างมาก ดังนั้นธปท.ไม่นิ่งนอนใจ กับการแข็งค่าของค่าเงินบาท ซึ่งปัจจุบันธปท.อยู่ระหว่างการพิจารณาในการออกมาตรการเพื่อดูแลค่าเงินบาท ซึ่งคาดว่ามาตรการจะมีความชัดเจนภายใน 1-2 เดือนข้างหน้านี้
โดยมาตรการที่ธปท.จะมีการออกมี 2-3 กลุ่มด้วยกัน เช่น กลุ่มแรกคือการเปิดเสรีให้นักลงทุนไทยทั้งบุคคลธรรมดา และสถาบันออกไปลงทุนในต่างประเทศมากขึ้น รวมถึงให้ผู้ประกอบการส่งออก สามารถพักเงินในต่างประเทศได้ เมื่อมีรายได้จากสกุลเงินต่างประเทศ โดยไม่จำเป็นต้องโอนเงินกลับมาไว้ในประเทศไทย
รวมถึงเปิดให้ผู้ประกอบการ เข้ามาทำธุรกิจด้านเงินตราต่างประเทศและการโอนเงินข้ามประเทศมากขึ้น เพื่อช่วยลดต้นทุนการโอนเงินการทำธุรกรรมในประเทศ
กลุ่มที่สอง ที่โยงกับทองคำ โดยธปท.จะเข้าไปดูเงินไหลเข้าไหลออก ที่เข้ามาจากการซื้อขายทองคำ เพื่อลดแรงกระแทก และไม่ให้มีผลกระทบต่อค่าเงินบาท แต่ไม่ใช่การจำกัด หรือควบคุมการซื้อขายทองคำ
ส่วนกลุ่มที่ 3 คือ การดูประเด็นเชิงโครงสร้างด้านการเกินดุลบัญชีเดินสะพัด เช่นการส่งเสริมให้เกิดการนำเข้า เพื่อมาลงทุนมากขึ้น เช่นการลงทุนเพื่อส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐานของเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งการทำมาตรการเหล่านี้จะทำให้ลดแรงกดดันของค่าเงินบาทมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นในช่วง 1-2 วันนี้ ส่วนหนึ่งมาจาก การลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ ที่เข้ามาลงทุนในบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นแรงกดดันทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น
ทั้งนี้ ด้านอัตราเงินเฟ้อ ธปท.อยู่ระหว่างการหารือขั้นตอนสุดท้าย กับกระทรวงการคลัง เพื่อกำหนดกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อในระยะข้างหน้าด้วย ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนภายใน 1 เดือนข้างหน้านี้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-ธปท.เตือนแบงก์รับมือ 'เว็บพนัน'ทำข้อมูลการเงินลูกค้ารั่วไหล
-ธปท. ตั้งทีมศึกษาผลดี-ผลกระทบ“ลิบร้า” ชี้เฟสบุ๊กขอพบแจงรายละเอียด
-ธปท.เตือนแบงก์รับมือ 'เว็บพนัน'ทำข้อมูลการเงินลูกค้ารั่วไหล
-(ธปท.) อัตราแลกเปลี่ยนกลาง 30.627 บาท/ดอลลาร์ (อ่อนค่า 0.052 บาท/ดอลลาร์)