พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เดินทางมาตรวจเยี่ยมการเตรียมความพร้อมการเลือกสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.)ระดับประเทศที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ (27 ธ.ค.) โดยได้มีการจัดเตรียมสถานที่การลงคะแนนเลือกของผู้สมัครทั้ง 10 กลุ่ม ใน 2 สาย คือสายสมัครด้วยตนเอง และสายที่องค์กรแนะนำชื่อ รวมทั้งจุดสังเกตการณ์ขององค์กรเอกชน และกรรมการคัดเลือก ซึ่งในระดับประเทศจะมีกกต.ทั้ง 7 คนเป็นกรรมการคัดเลือก และมีเลขาฯกกต.เป็นผู้อำนวยการคัดเลือกระดับประเทศ
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวยืนยันถึงความพร้อมการดำเนินการ และขอให้ผู้สมัครเดินทางมายังสถานที่เลือกก่อนเวลาเพราะจะต้องรายงานตัวในช่วงเวลา 08.00-09.00น.หลังจากนั้นจะปิดประตูทันที รวมถึงกำชับให้ฝากเครื่องมือสื่อสารทุกชนิดก่อนเข้าสู่สถานที่เลือก เนื่องจากก่อนหน้านี้การเลือกระดับจังหวัด ที่ศาลจังหวัดราชบุรีได้สั่งปรับ 5,000 บาท จากผู้สมัครที่นำแท็บเล็ต เข้ามายังสถานที่เลือก และอาจจะมีโทษทั้งจำและปรับ นอกจากนี้ขอกำชับเรื่องวิธีการลงคะแนนโดยต้องใช้ตัวเลขอารบิกเท่านั้น เขียนเลขไทยจะเป็นบัตรเสียทันที และอย่าลงคะแนนซ้ำกัน 2 หมายเลข เพราะจะเป็นบัตรเสียได้เช่นกัน โดยเมื่อเจ้าหน้าที่ได้รับการรายงานตัวจากผู้สมัครแล้ว ก็จะพาไปนั่งในหมายเลขตามกลุ่ม ที่ผู้สมัครมีสิทธิ์ได้รับการคัดเลือกและจะจัดให้ผู้สมัครเดินเข้าคูหาเพื่อลงคะแนนคัดเลือก หลังเสร็จสิ้นก็จะมีการนับคะแนน ผู้ที่ได้รับคะแนนสูงสุด 1-10 ในแต่ละกลุ่มแต่ละสาย ก็จะได้เป็นผู้ได้รับเลือกเป็นส.ว.ระดับประเทศ แต่หากได้รับคะแนนเท่ากันก็ต้องใช้วิธีจับสลากตัดสิน
“เมื่อได้ผู้ได้รับเลือกเป็นส.ว.ทั้ง 200 คนแล้ว ขณะนี้กกต.ยังไม่ได้มีการพิจารณาว่าจะประกาศรายชื่อหรือไม่ เพราะกฎหมายไม่ได้เขียนเอาไว้ แต่ 5 วันหลังจากได้รับการคัดเลือก จะเป็นช่วงที่กกต.ตรวจสอบว่าผู้ได้รับคัดเลือกมีเรื่องร้องคัดค้านหรือไม่ ก่อนที่จะส่งรายชื่อให้คสช.พิจารณาคัดเลือก 50 คน และขึ้นบัญชีสำรองอีก 50 คน
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของเรื่องร้องเรียนการเลือกส.ว. ขณะนี้มีประมาณ 10 เรื่อง อยู่ในระหว่างการสืบสวนสอบสวน ก่อนที่จะเสนอให้กกต.พิจารณาว่าต้องตั้งคณะกรรมการไต่สวนหรือไม่ ซึ่งพฤติการณ์ส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่มีการโทรศัพท์ไปเสนอจะให้ผลประโยชน์เพื่อแลกกับการได้รับเลือก โดยการดำเนินการของกกต.หากพบว่าผู้นั้นแม้ไม่ได้รับเลือกเป็นส.ว. ก็ต้องถูกดำเนินคดีอาญา แต่ถ้าได้รับเลือกเป็นส.ว. 1ใน 50 รายชื่อก็ต้องส่งรายละเอียดให้คสช.หรือประธานวุฒิสภาเพื่อดำเนินการให้พ้นจากตำแหน่ง แล้วนำรายชื่อในบัญชีสำรองขึ้นมาทดแทน
